ตำรวจ ปปป.ประสาน ป.ป.ท.บุกเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับ-รายจ่าย และทรัพย์สินวัดตรีทศเทพฯ หลัง"เจ้าคุณอาชว์"อดีตเจ้าอาวาสและเจ้าคณะภาค 14-15 (ธรรมยุต) สึกกะทันหันที่หนองคาย ก่อนเดินทางข้ามไป สปป.ลาว ท่ามกลางกระแสข่าวลือหนักถึงการทุจริตและประพฤติผิดวินัยร้ายแรง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 30 มิถุนายน 2568 พ.ต.อ.เพิ่มวุฒิ ปทุมราช ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (บก.ปปท.) ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบที่ศาลาตรีวชิรญาณ วัดตรีทศเทพวรวิหาร ถนนประชาธิปไตย เขตพระนคร กรุงเทพฯ
การเข้าตรวจสอบครั้งนี้มีขึ้นภายหลังเกิดกรณี พระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ "เจ้าคุณอาชว์" ซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าคณะภาค 14-15 (ธรรมยุต) และเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพวรวิหาร ได้ตัดสินใจลาสิกขาอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่จังหวัดหนองคาย ก่อนจะเดินทางข้ามไปยัง สปป.ลาวทันที ซึ่งสร้างความสงสัยว่าอาจมีเรื่องของการทุจริตเข้ามาเกี่ยวข้อง
หนึ่งในทีมสืบสวนสอบสวนของ กก.1บก.ปปป. เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าพบพระผู้ใหญ่และพระเลขาของวัดตรีทศเทพวรวิหาร เพื่อขอตรวจสอบบัญชีรายรับ-รายจ่ายของวัด รวมถึงทรัพย์สินอื่น ๆ ว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นหรือไม่ กรณีเจ้าอาวาสลาสิกขาอย่างปัจจุบันทันด่วน ซึ่งทางวัดให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการนำบัญชีและเอกสารต่าง ๆ มาแสดงให้ตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม คาดว่าการตรวจสอบจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง โดยการตรวจสอบได้หยุดลงชั่วคราวในช่วงเวลา 11.00 น. เพื่อให้พระสงฆ์ฉันเพล ก่อนจะดำเนินการต่อในภายหลัง
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ของวัด ทราบว่า "เจ้าคุณอาชว์" ได้บวชเรียนอยู่ที่วัดนี้นานกว่า 20 ปี และได้เป็นเจ้าอาวาสในปี 2565 หลังจากขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ได้เริ่มเปลี่ยนแปลงระบบการทำงานเดิม ๆ และนำคนใกล้ชิดเข้ามาบริหารจัดการระบบใหม่ภายในวัดทันที ทำให้คนงานเก่าบางส่วนถูกให้ออก และการบริหารงานภายในวัดเริ่มประสบปัญหามาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
สำหรับ "เจ้าคุณอาชว์" ถือเป็นพระดาวรุ่งในสายธรรมยุต มีอายุเพียง 54 ปี พรรษา 34 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพวรวิหาร และเจ้าคณะภาค 14-15 (ธรรมยุต) ในปี 2565 การลาสิกขาอย่างกะทันหันเช่นนี้จึงทำให้เกิดการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการหลบหนีคดีความหรือไม่
ขณะเดียวกัน พระมหาวัฒนา ปญฺญาทีโป ปธ.9 อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส จ.นครปฐม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ภาพการลาสิกขาของ "พระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ)" อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ (ธรรมยุตินิกาย) เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 29 มิถุนายน 2568 ที่จังหวัดหนองคาย และได้เดินทางข้ามฝั่งไป สปป.ลาวทันที โดยแหล่งข่าวไม่เปิดเผยข้อมูล และต่อมามีการแต่งตั้งผู้รักษาการเจ้าอาวาสรูปใหม่ขึ้นทันทีเช่นกัน ทำให้หลายฝ่ายสันนิษฐานว่าการลาสิกขาครั้งนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับการประพฤติผิดพระธรรมวินัยขั้นร้ายแรง และอาจเชื่อมโยงกับกฎหมายอาญาแผ่นดิน
นอกจากนี้ ยังมีการตั้งข้อสังเกตในสังคมว่า คดีความเกี่ยวกับพระฝ่ายมหานิกายมักถูกจับกุมดำเนินคดีได้ เช่น คดีของอดีตพระพรหมดิลก วัดสามพระยา, อดีตพระพรหมสิทธิ์ และคณะวัดสระเกศ, และคดีอดีตพระธรรมวชิรานุวัตร (ทิดแย้ม) วัดไร่ขิง แต่ในทางกลับกัน คดีเกี่ยวกับพระผู้ใหญ่สายธรรมยุตมักจะถูกปิดเงียบ ไม่มีข้อมูล หรือมีการช่วยเหลือกันไม่ให้ถูกจับกุมดำเนินคดี จึงเป็นที่จับตาว่าสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะออกมาชี้แจงประเด็นนี้อย่างไรต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา เจ้าคณะภาค 1-2-3 (ธรรมยุต) ได้มีคำสั่งแต่งตั้ง พระพรหมวชิรรังษี เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร (ธรรมยุต) เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพทันที เพื่อดูแลกิจการของวัดในระหว่างที่ตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี