ผู้การฯกาฬสินธุ์ นำทีมชุดสืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ แถลงผลจับหนุ่มนักค้ายาบ้าวัย 29 ปี หลังปฏิบัติการเข้มข้นตามนโยบายรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนกสัดจับตัวได้ขณะกำลังลักลอบขนยาบ้าส่งให้กับเครือข่าย พร้อมยึดของกลาง 168,000 เม็ด ส่วนเพื่อนอีกคนหลบหนีไปได้ สารภาพได้ค่าจ้างขนครั้งละ 40,000 บาท
วันที่ 5 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้ากองกำกับการสืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.ศิรสัณห์ เยื้อนสงวนชัย ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์, พ.ต.อ.นพดล ศรีชะตา รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์, พ.ต.อ.สมพงศ์ มั่นหมาย รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์,พ.ต.อ.นพวิทย์ ดิษฐาธนาธรสิริ ผกก.สืบสวน.ภ.จว.กาฬสินธุ์, พ.อ.นิติธร ประพิณ ผกก.สภ.ห้วยเม็ก, พ.อ.กรกิจ ศรีทองกุล ผบ.ขกท.ศปก.ทภ.2 และ พ.ต.ท.คณาพจน์ เลิศศิริ รอง ผกก.กลุ่มงานการข่าว บก.ขส.บช.ปส.
พร้อมด้วยชุดจับกุม กก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ นำโดย พ.ต.ต.เศกสิทธิ์ ภูผิวเดือน พร้อมพวกฯ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวนายจีรภัทร์ หรือเหล่ อายุ 29 ปี ชาว ต.หนองกุงใหญ่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น พร้อมของกลาง ยาบ้า 168,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ OPPO สีดำ จำนวน 1 เครื่อง รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ chavlolet colorado สีดำ หลังถูกชุดสืบสวนจับตัวได้ ซึ่งเป็นการปฏิบัติการเดินหน้าปราบปรามยาเสพติด ตามนโยบายของสำนักงานแห่งชาติและรัฐบาล
พล.ต.ต.ศิรสัณห์ เยื้อนสงวนชัย ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งตำรวจภูธรภาค 4 ได้กำชับและสั่งการให้ตำรวจทุกพื้นที่เร่งดำเนินการเข้มงวดกวาดล้างปัญหายาเสพติด ทั้งการจับกุมผู้เสพ กลุ่มนักค้าอย่างต่อเนื่องและเด็ดขาด ซึ่งทางตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ได้กำชับ พร้อมสั่งการให้ตำรวจทุกสถานีเร่งดำเนินการปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้น และอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.ต.ศิรสัณห์ กล่าวต่อว่า สำหรับคดีนี้ สืบเนื่องจากชุดสืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการลำเลียงยาบ้าจากพื้นที่ จ.มุกดาหาร ผ่านเส้นทาง อ.กุฉินารายณ์, อ.ห้วยผึ้ง, อ.สหัสขันธ์, อ.หนองกุงศรี ไปยังจุดหมายเขต อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ โดยใช้รถยนต์ ยี่ห้อ chavlolet colorado สีดำ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุด ปส.กก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ทำการสืบสวนและติดตามกลุ่มเป้าหมายรถยนต์คันดังกล่าว
กระทั่งเวลา 01.30 น.วันที่ 5 กรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่พบรถยนต์เป้าหมายขับมาถึงบริเวณแยกสัญญาณไฟจราจร อ.สมเด็จ มุ่งหน้าไป อ.สหัสขันธ์ - อ.หนองกุงศรี - อ.ห้วยเม็ก เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามรถยนต์คันดังกล่าวในระยะสายตา จนกระทั่งมาถึงบริเวณป่าอ้อยก่อนถึงแยกสัญญาณไฟจราจรฮาร์ดบาร์ ต.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ เห็นรถยนต์จอดอยู่บริเวณป่าอ้อย พบนายจิรภัทร์ และเพื่อนที่มาด้วยอีก 1 คน กำลังขนย้ายวัตถุลักษณะคล้ายกระสอบปุ๋ยสีน้ำเงินลงจากรถยนต์คันดังกล่าวเพื่อนำไปซุกซ่อน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวทำให้ผู้ต้องหากับพวกทิ้งกระสอบปุ๋ยพยายามวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงไล่ตามจนสามารถจับตัวนายจิรภัทร์ได้ ส่วนเพื่อนอีกคนสามารถวิ่งหลบหนีได้ ทราบชื่อภายหลังคือ นายวิทยา หรือตูน อายุ 21 ปี ชาว ต.หนองกุงใหญ่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น และจากการตรวจสอบภายในกระสอบปุ๋ยสีน้ำเงิน พบยาบ้า จำนวน 168,0000 เม็ดจึงคุมตัวมาสอบสวนและดำเนินคดี
ทั้งนี้ นายจิรภัทร์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ตนว่างงานจึงผันตัวมารับจ้างขนย้ายยาเสพติด โดยได้รับการติดต่อจากผู้ใช้แอพพลิเคชั่นเมสเซนเจอร์ ได้จ้างให้ตนและน้องลำเลียงยาบ้ามาจาก จ.มุกดาหาร ในราคา 40,000 บาทต่อเที่ยว และจะได้รับค่าจ้างเมื่อส่งยาบ้าสำเร็จ แต่ไปไม่รอด จนมุมเจ้าหน้าที่และถูกจับกุมในครั้งนี้
พล.ต.ต.ศิรสัณห์ กล่าวอีกว่า ขอฝากไปถึงกลุ่มผู้ค้า ผู้เสพยาเสพติด หรือมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้เลิกพฤติกรรมนี้ เพราะถึงอย่างไรก็จะถูกจับดำเนินคดีในที่สุด เหมือนผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหากระทำความผิดฐาน ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า ในกลุ่มประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย จากนั้นนำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยเม็ก ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ///-026
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี