ซุบซิบกทม.

กทม.ร่วมกับบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน)เชิญชวนประชาชนคนเมืองหลวง เข้ารับการตรวจสุขภาพฟรีปีละครั้ง โครงการนี้เป็นแนวนโยบายของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญเรื่องสุขภาพของประชาชน โดยมีบริษัทเซ็นทรัล 8 สาขารับผิดชอบอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับสถานที่ ...วันที่ 4-6 กรกฎาคม 2568 จัดที่เซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทรัลปิ่นเกล้า วันที่11-13 ที่เซ็นทรัลเอสพลานาดรัชดา วันที่ 15-17 กรกฎาคม 2568 เซ็นทรัลลาดพร้าว วันที่ 25-27 เซ็นทรัลพระราม3 และเซ็นทรัลรามอินทรา วันที่ 26-28 เซ็นทรัลพระราม 2 วันที่ 22-24 สิงหาคม 2568(ครั้งที่1)ที่เซ็นทรัลบางนา และ(ครั้งที่2 )วันที่28-30พฤศจิกายน 2568 ทุกวันเวลาเริ่มให้บริการกันตั้งแต่ 8.00-18.00น ...รูปแบบการตรวจ คือ ตรวจคลื่นหัวใจ ,ตรวจเลือด ,ตรวจเบาหวาน ,เอ็กซเรย์ปอด ยิ่งกว่านั้นจะมีบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608ด้วย ดังนั้นประชาชนที่รักสุขภาพไม่ควรพลาด ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น โครงการดังกล่าวกำหนดจัดขึ้นปีละครั้ง...ยังมีปัญหาไม่จบสิ้นสำหรับถนนมหาจักรที่ประชาชนคนเดินทางสัญจรไปมาสุดยากลำบากสาหัสสากรรจ์ เนื่องจากพื้นผิวถนนถูกจับจองไว้หยุดจอดรถเหมือนพื้นที่ของตัวเองสุดบ้าเลือด อย่าว่าแค่ประชาชนทั่วไปเลยข้าราชการของสำนักแพทย์เองก็พากันวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดเช่นกันว่า เรื่องนี้ กทม.ปล่อยไว้ให้ลอยนวลได้อย่างไร หรือว่าถนนสายนี้ไม่ได้ขึ้นตรงกับ กทม. ความน่าเกลียดไม่ใช่แค่การหยุดจอดรถแช่รถเท่านั้น ยังมีการปล่อยให้จับจองพื้นที่ถนนเป็นอาณาเขตของตัวเองกันแบบหน้าด้านๆ ถนน 3 เลนเหลือให้รถวิ่งแค่เลนเดียว ทุรยศทุเรศเป็นมาลักษณะนี้นานปีแล้ว ...นี่เป็นคำร้องทุกข์ของประชาชนที่“ไผ่ฎำ”อยากบอกว่าได้นำเสนอบอกเล่ามานานแล้วเช่นกัน โดยพื้นที่ดังกล่าวเขตป้อมปราบฯรับผิดชอบ แต่ประหลาดไม่แน่ใจว่ารับผิดชอบแบบไหนจึงปล่อยให้ถนนถูกคนมักง่ายจับจองเป็นมรดกของตัวเองกันหน้าตาเฉย อย่าว่าแต่ถนนมหาจักรเลยที่เขตป้อมปราบฯเฉื่อยชา ฟุตปาธถนนวรจักร หลายจุดก็ถูกผู้ค้าเอาอุปกรณ์สินค้าตัวเองวางกองขายเต็มฟุตปาธ จนคนเดินเท้าตั้งคำถามบ่อยๆว่า“เขตป้อมปราบฯมีปัญญาแก้ไขหรือไม่” ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบควรพิจารณาตัวเองออกไปเสีย เหนืออื่นใดพื้นที่นี้เขตนี้ประชาชนร้องทุกข์กันตลอดทั้งปีทั้งชาติ แต่การแก้ไขของเขต คือ ” เตมีย์ใบ้“ ปรากฎการณ์“ชะตากรรมชะตาทราม”ทั้งหมดในเมื่อเจ้าหน้าที่เขตอับจนปัญญาสมองแก้ไขหรือบำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชนไม่ได้  ก็ย่อมเป็นหน้าที่ที่ผู้ว่าชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ต้องทุบโต๊ะเชือด“ไก่ให้ลิงดู”ก่อนถึงวันเกษียณอายุราชการกันบ้างจะดียิ่ง  เพราะชาวบ้านความเดือดเดียวดายเดือดร้อนมานานแล้ว...อีกเรื่องชาวบ้านซึ่งทนแลเห็นความมักง่ายของคนริมคลองหัวหมากน้อย เขตบางกะปิไม่ไหว กรณีแอบทิ้งขยะลงคลองสร้างปัญหาทางสิ่งแวดล้อมรวมทั้งการระบายน้ำติดขัดช่วงขณะมีฝนตกหนัก ร้องขอให้ ผอ.เขต คนเด็ดขาดเร่งเข้าจัดการแก้ไขปัญหาด้วยการใช้กฎหมายกับคนมักง่ายริมคลองให้เหมือนกับหลายซอยที่ผอ.เขต ออกสะสางจนเรียบร้อยดูดียิ่ง...

ไผ่ฎำ