ป.ป.ส.บุกจับ “Mr.TAN LENG CHONG" นักค้ายาหนีหมายจับสิงคโปร์ซุกรีสอร์ท กทม. หลังขยายผลจับสองสามีภรรยาชาวอินโดนีเซีย ยึดรถหรูMaserati ซึ่งมีพฤติการณ์สั่งยาเสพติดนานาชนิด ซุกซ่อนในกระเป๋าหิ้วขึ้นเครื่องบินกระจายเครือข่ายในสิงคโปร์ ด้าน ”เลขา ป.ป.ส.“ แย้ม 16 ก.ค.นี้ ลุย จ.ท่าขี้เหล็ก จับ”ฉมัง" และ"เตชินทร์“ เผยยังมีตัวเป้งคดียาเสพติดซุกลาว 21 ราย เมียนมา 39 ราย ยืนยันเร่งจับกุมตัว
วันที่ 8 กรกฎาคม 2568 ที่ ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงาน ป.ป.ส. (ดินแดง) กรุงเทพฯ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกันแถลงผลการจับกุม MR.TAN LENG CHONG อายุ 50 ปี (ผู้ต้องหาตามหมายจับของสิงคโปร์) ซึ่งเป็นนักค้ายาเสพติด รายสำคัญของสิงคโปร์ มีพฤติการณ์เป็นผู้จัดหายาเสพติดจากประเทศไทยนำเข้าสู่ประเทศสิงคโปร์ และจับกุมบุคคลในเครือข่ายชาวอินโดนีเซีย 2 ราย พร้อมยาเสพติดหลายประเภท เหตุเกิดที่ รีสอร์ทที่พักในพื้นที่ กทม.
โดย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า เมื่อประมาณกลางเดือน พ.ค.68 ตนได้มอบหมายให้นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด พร้อมคณะ เดินทางไปร่วมงานวันรำลึกถึงเหยื่อยาเสพติด ณ ประเทศสิงคโปร์ และได้มีการประชุมหารือร่วมกับ สำนักยาเสพติดกลาง ประเทศสิงคโปร์ (Central Narcotics Bureau : CNB) เกี่ยวกับเป้าหมายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญที่มีความเคลื่อนไหวเกี่ยวข้องกับไทย - สิงคโปร์ โดย สำนักยาเสพติดกลาง ประเทศสิงคโปร์ (Central Narcotics Bureau : CNB) ได้ขอความร่วมมือจาก สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ให้ช่วยสืบสวนติดตามบุคคลชาวสิงคโปร์ที่มีหมายจับคดียาเสพติด และหลบหนีมาอาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งเป็นบุคคลที่ทางการสิงคโปร์ต้องการนำตัวกลับมาดำเนินคดี คือ MR.TAN LENG CHONG (นายตัน เล็ง ชง) อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับสิงคโปร์ โดยเมื่อเดือน พ.ค.68 ผู้ต้องหาถูกทางการสิงคโปร์ออกหมายจับในข้อหาสมคบเพื่อจำหน่ายยาเสพติด มีพฤติการณ์เป็นผู้จัดหายาเสพติดจากไทยเข้าสู่สิงคโปร์ ใช้ประเทศไทยเป็นแหล่งหลบซ่อนตัวและเป็นฐานปฏิบัติการค้ายาเสพติด โทษตามหมายจับของกฎหมายสิงคโปร์ คือ ประหารชีวิต
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เผยอีกว่า ตนได้มอบหมายให้นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด สืบสวนติดตามหาตัวบุคคลดังกล่าว โดยพบว่าบุคคลดังกล่าวมีความเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี กระทั่งวันที่ 5 ก.ค.68 เจ้าหน้าที่สืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้เดินทางมาในพื้นที่ กทม. จึงสืบสวนติดตามกระทั่งพบว่ามีการมาพบปะกับบุคคลชาวอินโดนีเซีย เชื่อว่าเป็นการมาติดต่อประสานงานเรื่องยาเสพติดในพื้นที่รีสอร์ทที่พัก กทม. ต่อมานายปฤณ จึงสั่งการชุดปฏิบัติการ บูรณาการความร่วมมือกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) นำกำลังเข้าจับกุม
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เผยต่อว่า สำหรับนายตัน ถือเป็นนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ของสิงคโปร์ แม้ว่าการลักลอบนำเข้ายาเสพติดจะมีเพียง 1 กิโลกรัม แต่ในประเทศสิงคโปร์ถือว่ามีความผิดร้ายแรง โดยปัญหาหลักของประเทศสิงคโปร์ คือ ยาไอซ์ บุหรี่ไฟฟ้าที่ผสมสารเอโทมิเดต กัญชา และยาเสพติดอื่น ๆ ซึ่งพบการระบาดในสถานบันเทิง อีกทั้งคนใช้ยาเสพติดในสิงคโปร์คือคนที่มีรายได้สูง กลุ่มนักเที่ยว ขณะที่แรงงานแทบไม่พบการใช้ยาเสพติด
”สำหรับเรื่องหมายจับกลุ่มคนไทยในคดียาเสพติด ตนมีสถิติในมือว่า มีผู้ต้องหาคนไทยที่หลบหนีหมายจับคดียาเสพติดไปกบดานซ่อนตัวในประเทศลาว จำนวน 21 ราย ขณะที่หลบหนีอยู่ในเมียนมา จำนวน 39 ราย บุคคลเหล่านี้คือจำนวนผู้ต้องหาในคดียาเสพติดที่ทางการไทยต้องการตัวมากที่สุด เราจึงส่งเรื่องประสานให้ทั้งสองประเทศช่วยจับกุมให้“ เลขาธิการ ป.ป.ส. ระบุ
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ปิดท้ายว่า ในวันที่ 16 ก.ค. นี้ คนจะเดินทางไปยังประเทศเมียนมา จ.ท่าขี้เหล็ก เพื่อไปรับตัวนายฉมัง (สงวนนามสกุล) และนายเตชินทร์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นผู้ต้องหารายสำคัญ เพราะหากจับกุมไดัจะเป็นการตัดวงจรการสั่งยาเสพติดจากประเทศเมียนมาได้พอสมควร และตนก็จะให้ทางเมียนมาช่วยยึดทรัพย์คนไทยชื่อ นายอาฉาง (สงวนนามสกุล) ซึ่งเราได้ออกหมายจับฐานสมคบยาเสพติดไว้ แต่ผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่ที่ประเทศเมียนมา เราได้สืบทรัพย์เบื้องต้นส่งให้ ผบ.ตร. ของเมียนมาแล้ว นอกจากนี้ ปัจจุบันปัญหาการค้ายาเสพติดในลักษณะเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติกระจายตัวอยู่ทั่วทุกภูมิภาค ยังคงมีความพยายามลักลอบค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศที่สาม ซึ่งทางสำนักงาน ป.ป.ส.ได้ดำเนินการประสานงานกับ สำนักยาเสพติดกลาง ประเทศสิงคโปร์ (CENTRAL NARCOTICS BUREAU : CNB) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลในการสืบสวนติดตามบุคคลตามหมายจับกันอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้รับความร่วมมืออันดีจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ในการพิจารณายกเลิกการตรวจลงตรา(วีซ่า) เนื่องจากบุคคลดังกล่าวมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด อันส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทย ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ประสานความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานระหว่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์ เวียดนาม จีน เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฯลฯ ในการบูรณาการความร่วมมือช่วยสืบสวนติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับที่ใช้ประเทศไทยเป็นแหล่งพำนัก หรือเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลการสืบสวนร่วมกัน จนนำมาซึ่งผลสัมฤทธิ์ ในการสืบสวนขยายผลเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติได้อย่างเป็นรูปธรรม
ด้าน นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. เผยว่า การจับกุมนายตัน เล็ง ชง มีพฤติการณ์สั่งยาเสพติดจากภาคกลางของไทยและสั่งการเครือข่ายลักลอบนำออกนอกประเทศไทยโดยซุกซ่อนในกระเป๋าแบบ Carry-on ถือขึ้นเครื่องบิน จัดส่งเครือข่ายในประเทศสิงคโปร์ กระจายใช้ในกลุ่มนักท่องเที่ยว หรือ Club Drugs อย่างไรก็ตาม จากการขยายผล ป.ป.ส. ได้ตรวจยึดรถยนต์ยี่ห้อมาเซราติ (Maserati) ของนายตัน ที่มีการปลอมแปลงสวมทะเบียน ซึ่งจะได้ประสานกับสำนักงาน ปปง. ในการยึดทรัพย์ต่อไป และจากนี้เมื่อทางสิงคโปร์ได้มีการขยายผลต่อ หากมีการสรุปผลเรื่องเครือข่ายที่เหลือในไทย หรือเรื่องทรัพย์สิน ป.ป.ส. ก็จะประสานดำเนินการต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี