ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ตามรวบม้าหัวโจกแก๊ง “สินเชื่อเงินด่วน” หนีหมายจับ กบดานแหล่งพักยาเสพติดกลางหุบเขาในชุมชนเผ่าอาข่า
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กอบบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.สมเดช สาระบรรณ์, พ.ต.ท.อภิชน ขันกา, พ.ต.ท.พชรเดช บุญฤทธิ์, พ.ต.ท.กฤษฎา พลายละหาร และ พ.ต.ท.รัฐวิรุฬห์ จันทสุบรรณ รอง ผกก.1 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.มณเฑียร ธงเทียน สว.กก.1 บก.ป., ร.ต.อ.จักรพันธ์ ใบพิมาย รอง สว.กก.1 บก.ป., ด.ต.ศราวุธ เหมพันธุ์, ด.ต.ตระกานต์ เอมอิ่มธรรม, จ.ส.ต.กฤษฎา รสจันทร์วงษ์, จ.ส.ต.ยุทธนา ราษฎร์สรรเสริญ, จ.ส.ต.พีระพันธ์ ภักดีวิเศษ, จ.ส.ต.สุรพล จักรสอง และ ส.ต.อ.ศรัณย์ โนคาน ผบ.หมู่ กก.1 บก.ป. พร้อมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.งาว และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภองาว ร่วมกันจับกุม นายสัญญาฯ อายุ 44 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 6373/2567 ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ซึ่งได้กระผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน” สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ต.บ้านร้อง อ.งาว จ.ลำปาง
พฤติการณ์ ด้วยพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.ได้รับการร้องทุกข์จากผู้เสียหายจำนวนหลายราย ให้ดำเนินคดีกับคนร้ายที่ใช้บัญชีแอปพลิเคชัน Line ชื่อว่า “สินเชื่อเงินด่วน” ซึ่งมีพฤติการณ์ทักแชทมาสอบถามหาผู้ที่สนใจ กู้เงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำ หากสนใจจะใช้อุบายหลอกล่อให้ผู้เสียหายว่าต้องจ่ายเงินค่าค้ำประกันในการขอกู้เงิน จนมีผู้สนใจหลงเชื่อ โอนเงินให้จำนวนหลายครั้ง ต่อมาไม่สามารถติดต่อกับคนร้ายกลุ่มนี้ได้ มีมูลค่าความเสียหายจำนวนหลายล้านบาท
ฝ่ายสืบสวน กก.1 บก.ป.ได้ทำการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มแก๊ง “สินเชื่อเงินด่วน” โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำ เปิดบัญชีธนาคารรับโอนเงิน และยักย้ายถ่ายเทเงินที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหายไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัล เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบร่วมถึงการฟอกเงิน
ต่อมาพนักงาน สอบสวน กก.1 บก.ป.ได้ขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน” จำนวน 4 ราย โดย นายสัญญาฯ เป็นหนึ่งในผู้ที่ออกหมายจับด้วย และข้อมูลในทางสืบสวนยังพบว่า นายสัญญาฯ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฉ้อโกงประชาชนหลายคดีอีกด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป.ได้สืบสวนจนทราบว่า นายสัญญาฯ ผู้ต้องหาคดี “แก๊งสินเชื่อเงินด่วน” ได้หลบหนีหมายจับไปกบดานพักอาศัยอยู่บนเขาในชุมชนของชาวเขาเผ่าอาข่า ซึ่งเป็นแหล่งพักยาเสพติดของขบวนการผู้ค้ายาเสพติด ในพื้นที่ ต.บ้านร้อง อ.งาว จ.ลำปาง โดย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.1 บก.ป.ได้สืบสวนจนทราบที่อยู่ที่แน่ชัดของ นายสัญญาฯ แล้ว จึงประสานประกอบกำลังระหว่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.1 บก.ป., เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.งาว และ เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภองาว นำกำลังขึ้นไปหมู่บ้านชาวอาข่า เพื่อจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้
เมื่อไปถึงบริเวณที่คาดว่า นายสัญญาฯ หลบหนีมาพักอาศัยยังหมู่บ้านแม่คำหล้า ต.บ้านร้อง อ.งาว จ.ลำปาง จนกระทั่งพบชายที่มีลักษณะ ตำหนิรูปพรรณตรงกับ นายสัญญาฯ ยืนอยู่บริเวณชั้น 2 ของบ้าน กำลังชะโงกหน้าออกมาดูเจ้าหน้าที่พอดี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้เรียกให้ลงมาบริเวณหน้าบ้านพัก เพื่อขอตรวจสอบ จากการสอบถามเบื้องต้นจึงทราบว่าคือ นายสัญญาฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงหมายจับ นายสัญญาฯ ตรวจดูก่อนจับกุมตัวแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดตามข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหามาทำบันทึกจับกุมที่สถานีตำรวจภูธรงาว จ.ลำปาง พร้อมแจ้งเจ้าพนักงานอัยการและเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองในท้องที่ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้สูญหาย พ.ศ.2565 ถึงการจับกุมในครั้งนี้ และนำตัวส่ง พงส.กก1 บก.ป.เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น นายสัญญาฯ ให้การว่า ช่วงประมาณปี 2564 ผู้ต้องหาได้ประกอบอาชีพรับจ้างส่งเฟอร์นิเจอร์ที่ จ.เชียงใหม่ ขณะนั้นตนพักอาศัยอยู่กับ น.ส.พรศิริฯ น้องสาวของตน และ นายรังสีฯ ซึ่งเป็นแฟนเก่าของน้องสาว ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ โดยนายรังสีฯ บอกกับตนว่า เพื่อนของนายรังสีฯ อยากได้บัญชีธนาคารเป็นจำนวนมาก จึงได้ชักชวนให้ตนเปิดบัญชีธนาคารจำนวน 3 บัญชี ได้แก่ บัญชีธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงเทพ โดยเมื่อตนได้ส่งมอบสมุดบัญชีธนาคาร พร้อมภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนให้กับ นายรังษีฯ แล้วนั้น นายรังสีฯ มักจะซื้อกับข้าว ซื้อเหล้า มาเลี้ยงเป็นประจำ
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี