อุกอาจ! คนร้ายอ้างเป็นตำรวจ อุ้มคนจีนขึ้นรถรีดเงิน ก่อนปล่อยทิ้งข้างถนนพัทยา

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ชลบุรี ว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค.68 กล้องวงจรปิดจับภาพนาทีกลุ่มคนร้ายสวมใส่ชุดดำ 2 คน พยายามฉุดกระชากคนจีนขึ้นรถ เหตุเกิดหน้าร้านก๋วยเตี๋ยว-อาหารจีน ริมถนน พัทยาเหนือสาย 3 หมู่ 6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 11 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบริเวณจุดเกิดเหตุเพื่อหาข้อมูล พบว่า บริเวณดังกล่าวเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวและอาหารจีน เปิดขายเฉพาะช่วงเวลากลางคืน

ขณะที่พยานให้ข้อมูลเบื้องต้น ว่า วันเกิดเหตุมีคนจีน 3 คน มานั่งกินก๋วยเตี๋ยว พอกินเสร็จระหว่างที่กำลังจะแยกย้ายกันกลับ คนแรกขับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ออกไป ส่วนคนที่ 2 เดินกลับเข้าไปในซอยซึ่งอยู่ข้างๆร้าน ส่วนคนสุดท้ายคือผู้เสียหาย กำลังยืนรอรถรับจ้างที่เรียกผ่านแอพพลิเคชั่นมารับ ช่วงเวลาไม่ถึง 1 นาที มีรถเอสยูวี สีขาว มาจอดประกบข้าง จากนั้นมีผู้ชายแต่งชุดดำลงจากรถและพยายามผลักผู้เสียหายขึ้นไปบนรถ ตอนนั้นผู้เสียหายดิ้นรนต่อสู่ขัดขืน วิ่งถอยออกมาทางหลังรถ แต่ถูกชายชุดดำมาฉุดกระชากขึ้นรถไปโดยไม่ทราบชะตากรรม ส่วนที่ไม่กล้าเข้าไปยุ่งเพราะคิดว่าเป็นเหตุการณ์ตำรวจมาจับคนจีน เพราะได้ยินเสียงชายชุดดำพูดว่า “ไอโปลิศ ยู คอลเซ็นเตอร์”

ต่อมามีชาวจีน เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ทราบชื่อ คือ นายหลิน อี้ฟาน อายุ 52 ปี อาศัยอยู่ในประเทศไทยได้ 1 ปี ให้ข้อมูลกับตำรวจในเบื้องต้น ว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้มานั่งกินก๋วยเตี๋ยวกับเพื่อนร่วมชาติอีก 2 คน ระหว่างที่กำลังแยกย้ายกันกลับถูกกลุ่มคนร้าย 4 คน อ้างตัวเป็นตำรวจมาคุมตัวขึ้นรถ โดยกล่าวหาว่าตนเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก่อนจะพาขึ้นรถ จับมือไพล่หลัง จากนั้นใช้อาวุธจี้ แต่ไม่แน่ชัดว่าเป็นอาวุธปืนหรือไม่ ระหว่างที่นั่งไปบนรถ กลุ่มผู้ก่อเหตุใช้ภาษาไทยผสมกับภาษาอังกฤษ ซึ่งตนฟังไม่รู้เรื่อง 

นายหลิน กล่าวว่า ระหว่างทางที่นั่งไป กลุ่มคนร้ายที่นั่งด้านหลัง ได้ค้นตัว เอาโทรศัพท์มือถือไอโพน 13 โปร 1 เครื่อง , ไอโฟน 16 โปร 1 เครื่อง , เงินสด 15,000 บาท , แว่นสายตา 1 อัน จากนั้นพาตนไปปล่อยทิ้งที่สนามยิงปืนแห่งหนึ่ง ริมถนนเลียบทางรถไฟ ห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 9 กม. โดยคนร้ายคืนคีย์การ์ดห้องพักกลับมาให้ จากนั้นตนได้รีบไปขอความช่วยเหลือ กับ รปภ.สนามยิงปืน แล้วติดต่อเพื่อนมาช่วยเหลือ

นอกจากนี้ ยังพบว่ากลุ่มคนร้ายได้มีการโอนเงินในแอพพลิเคชั่น ซึ่งเป็นธนาคารของประเทศจีน โดยมีเงินหายออกไปจำนวน 150,000 บาท จึงรีบเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองพัทยา โดยการที่ตนถูกก่อเหตุในครั้งนี้ สูญทรัพย์สินไปกว่า 2.3 แสนบาท

เบื้องต้น ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา  ได้ลงพื้นที่หาข่าวและตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ รวมถึงเส้นทางที่คนร้ายใช้ในการหลบหนี ซึ่งกล้องวงจรปิดจะเห็นว่ารถที่ใช้ในการก่อเหตุ เป็นรถไฟฟ้า เอสยูวี สีขาว หลังอุ้มผู้เสียหายขึ้นรถ ได้เลี้ยวเข้าซอยเพนียดช้าง แล้วไปโผล่อยู่ที่บริเวณถนนพัทยาเหนือ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังสนามยิงปืน ย่านซอยชัยพฤกษ์ 2 ก่อนจะปล่อยตัวผู้เสียหายออกมา ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมทางตำรวจ ยังไม่ขอเปิดเผย เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายจะไหวตัวทัน โดยตำรวจ ขอเวลาทำงานก่อน

ด้าน พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2 กล่าวว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และ พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่  ผกก.สภ.เมืองพัทยา ให้เร่งรัดสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้แล้ว คนร้ายก่อเหตุอย่างอุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ที่สำคัญยังอ้างเป็นตำรวจ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ กำชับให้เร่งสืบสวนหาพยานหลักฐานอย่างรอบคอบโดยไว พิสูจน์ทราบว่ากลุ่มคนร้ายเป็นใคร หากเป็นข้าราชการตำรวจจริงต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ควบคู่กับการดำเนินการทางปกครองเอาผิดทางวินัยอย่างเฉียบขาด หากเป็นนิ้วร้ายก็ต้องตัดทิ้ง แต่หากไม่ใช่ตำรวจแล้วแอบอ้างทำให้เสื่อมเสียก็ต้องถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด

พล.ต.ท.ยิ่งยศ  กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าฝ่ายสืบสวน และพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้ดำเนินการในคดีนี้อย่างรวดเร็ว ได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และสอบปากคำชายชาวจีน วัย 52 ปี ผู้เสียหายแล้ว ขณะนี้จัดชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ และใกล้เคียง เพื่อยืนยันตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี พร้อมจัดชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวกลุ่มที่ต้องสงสัย ตำรวจกำลังเร่งทำการสืบสวนตรวจสอบทุกมิติ ต้องสอบปากคำชายชาวจีนอย่างละเอียดเพื่อหามูลเหตุ และสืบสวนประเด็นแวดล้อมต่าง ๆ เพื่อคลี่คลายคดีโดยเร็ว ทั้งนี้ขอให้เชื่อมั่นในตำรวจภูธรภาค 2 เราทำงานอย่างมืออาชีพ

-005