15 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.30 น. ที่สภ.เมืองอุดรธานี ต้นอ้อเป็นหนึ่ง เจ้าหน้าที่บ้านพักและครอบครัวและเจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิจากกระทรวงวัฒนธรรมจังหวัดอุดรธานีร่วมเดินทางมาด้วย เพื่อเข้ามาติดตามคดีและให้การช่วยเหลือน้องผู้เสียหาย พา 3 นักเรียนสาวโรงเรียนชื่อดังที่จ.อุดรธานี เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อให้เร่งติดตามคดี หลังจากมีน.ส.อุ้ม อายุ 17 ปี นร.ชั้นม.6 โรงเรียนสตรีชื่อดังในจ.อุดรธานี ถูกแก๊งลูกสาวของอดีตส.ส.ในจ.อุดรธานี และเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีฯ หลายกระทรวง พาพวก 5-6 คนรุมทำร้ายร่างกายจนดั้งหัก
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.68 ที่ผ่านมาบริเวณหน้าศาลหลักเมือง ใกล้กับสนามทุ่งศรีเมือง จนถึงขณะนี้คดีไม่คืบหน้าแต่อย่างใด และวันนี้ทางต้นอ้อเป็นหนึ่ง ได้พาผู้เสียหายที่ถูกแก๊งลูกอดีตส.ส.มาแจ้งความเพิ่มอีก 2 คน รวมเป็นผู้เสียหายที่ถูกแก๊งลูกสาวอดีตส.ส.และอดีตรัฐมนตรีทำร้ายถึง 3 คน
น้องอุ้ม อายุ 17 ปี บอกว่า ตนเองถูกน.ส.ชนิกานต์ หรือ นิชา ลูกอดีตส.ส.ทำร้ายร่างกายโดยใช้แก้วฟาดที่ใบหน้าจนดั้งหัก โดยมีเพื่อนลวงให้ออกไปเจอกันที่ศาลเมือง เมื่อคืนวันที่ 7 มิ.ย.68 มีเพื่อนเขาล่อให้หนูไปส่งทุเรียนจากนั้นก็ทำร้ายร่างกาย โดยมีเพื่อนผู้หญิงรวม 5-6 คนรุมทำร้าย โดยใช้แก้วเยติมาฟาดที่ใบหน้าจนดั้งหัก ส่วนสาเหตุเกิดจากทางลูกอดีตส.ส.มาด่าหนู หนูก็เลยไปพูดกูมึงกับเขา เขาอยากให้หนูขอโทษ หนูก็ขอโทษ แต่เขาอยากให้หนูไหว้ขอโทษแต่หนูไม่ได้ไหว้ จนทำให้ลูกอดีตส.ส.พาเพื่อนรุมทำร้าย
ตอนนี้หนูไม่กล้าออกจากบ้านเลย เพราะกลัวลูกอดีตส.ส.ดักทำร้าย ได้แจ้งทางโรงเรียน ทางครูให้ดรอปเรียนไว้ก่อนประกอบกับรักษาแผลไปด้วย เคยคิดจะฆ่าตัวตายเพราะกลัวโดนทำร้ายอีก แต่มีแม่และเพื่อนๆ ห้ามไว้และให้กำลังใจ
ทางด้านน.ส.องุ่น อายุ 17 ปี บอกว่า หนูก็เคยถูกลูกสาวของอดีตส.ส.รุมทำร้ายเช่นกันจนแขนหัก เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ทั้งๆ ที่เป็นเพื่อนกัน แต่มีเรื่องผิดใจกันหลายเรื่อง เลยนัดกันไปเคลียร์ที่หนองบัว มีการชกต่อยกัน แล้วเขาก็นัดไปเจอกันแถวสนามบินแล้วนัดต่อยกันต่อ จนทำให้แขนหัก และจากนั้นก็เขาพาเพื่อนบุกทำร้ายหลายครั้ง
ส่วนน้องพลอย อายุ 17 ปี บอกอีกว่า เมื่อปีที่แล้ว หนูไปเล่นตลาดรถไฟ จู่ๆ ลูกอดีตส.ส.เดินมากระชากคอเสื้อหนู ทั้งๆที่ไม่มีเคยเรื่อง แล้วลากหนูและเพื่อนไปหาเพื่อนเขานับสิบคน เขาบอกว่าหนูถ่ายคลิปเขา หนูก็บอกว่าหนูไม่ได้ถ่าย จากนั้นลูกสาวอดีตส.ส.ก็พาพวกนับสิบคนรุมทำร้ายจนเบ้าตาแตกแล้วนำคลิปไปประจาน เขาบอกง่ายๆ ว่า อยากตีเท่านั้นเพราะเป็นนักเรียนโรงเรียนเดียวกันและเหม็นขี้หน้า
น.ส.โบว์ อายุ 36 ปี แม่ของน้องอุ้ม บอกว่า เสียใจมากที่ลูกสาวถูกทำร้ายร่างกาย คุณแม่ทำงานที่อุบลราชธานี ส่วนลูกสาวเรียนที่นี่ พอรู้ข่าวว่าน้องถูกทำร้ายรีบกลับมาเลย แล้วเอาน้องไปอยู่ด้วยที่อุบลชั่วคราว โดยวันเกิดเหตุคืนวันที่ 7 มิ.ย.ลูกสาวหารายได้พิเศษโดยมีคนล่อให้ไปส่งทุเรียนแถวศาลหลักเมือง พอไปก็ถูกลูกสาวอดีตส.ส.ใช้แก้วเยติฟาดที่ใบหน้าอาการหนัก
จากนั้นลูกสาวก็ไม่กล้าไปโรงเรียน และเขาก็ยังข่มขู่พยานหลังจากมาแจ้งความ เลยร้องขอไปให้ต้นอ้อช่วย เพราะรู้ว่าเขาเป็นลูกอดีตส.ส.กลัวเขายังมีอำนาจ แล้วตอนนี้แก๊งนี้ยังหาเรื่องคนอื่นอยู่เลย ไม่สลดเลย เอาคลิปที่ทำร้ายลูกสาวไปโพสต์ในโซเซียลมีการหัวเราะเยาะเย้ย อยากให้ตร.ติดตามคนกระทำความผิดมาดำเนินคดี ดูเขาไม่สลดยังเหิมเกริมอยู่เลย หวังมีความยุติธรรมให้กับลูกสาวด้วย และไม่อยากให้เขาไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก
ทางด้านต้นอ้อ เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องเรื่องเรียนจากคุณแม่โบว์ ว่าลูกสาวถูกลูกอดีตส.ส.และอดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง พาพวก 5-6 คนรุมทำร้ายจนดั้งหัก แล้วนำคลิปไปโพสต์โซเซียลประจานน้องที่ถูกทำร้าย ให้คนมองว่า ฉันเก่ง ฉันกล้านะ ไม่มีใครทำอะไรฉันได้ จนน้องคิดจะฆ่าตัวตายมาแล้วครั้งหนึ่ง เท่าที่รู้จากน้อง เล่าให้ฟัง สาเหตุน่าจะเกิดจากเด็กเขม่นกันในโรงเรียนจากนั้นเกิดหมั่นไส้พาพวกรุมทำร้าย ส่วนที่รู้ว่าเป็นลูกของดีตส.ส.เพราะนามสกุลเดียวกับกับอดีตส.ส.แน่นอน และแม่ของเด็กก็ยืนยัน เด็กๆ ก็ยืนยันเป็นลูกสาวอดีต ส.ส. ส่วนจะเป็นเมียคนไหนไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า พอรู้ชื่อแก๊งลูกสาวอดีตส.ส.ไหมครับชื่ออะไร ต้นอ้อบอกว่า ไม่รู้แต่ขอตั้งให้ ชื่อแก๊งเด็กเปรตแล้วกัน.
012
012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี