ตร.เชียงรายนำทีม! ‘สกัดกระบะขนยาบ้า’ ชายแดนเวียงแก่น-ยึดของกลาง 4 ล้านเม็ด
วันที่ 18 ก.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.มานพ เสนากุล ผบก.ภ.จว.เชียงราย ร่วมกับนายสุพจน์ลังกาวีระนันท์ นายอำเภอเวียงแก่น จ.เชียงราย พ.ต.อ.ศุภกร พรหมเจริญผกก.สภ.เวียงแก่น เปิดปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามนโยบาย “ Seal Stop Safe” ในพื้นที่ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย โดยมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เวียงแก่น ร่วมกับปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อาสารักษาดินแดน (อส.) อ.เวียงแก่น เจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย 3103, 3104 ฉก.ทพ.31 กองกำลังผาเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ
ต่อมาในเวลาประมาณ 02.00 น.วันเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน 4 ประตู ป้ายทะเบียน จ.เชียงใหม่ ลักษณะต้องสงสัยขับไปบนถนนเลียบชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้านหมู่บ้านเจดีย์ทอง หมู่ 21 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดตรวจสกัดเอาไว้ ปรากฏว่าก่อนที่รถยนต์กระบะคันดังกล่าวจะถึงจุดตรวจประมาณ 100 เมตร ไม่กล้าขับผ่านจุดตรวจและจอดลงข้างทาง เมื่อเจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบและแจ้งให้สกัดด้านหลังเอาไว้ปรากฏว่าคนในรถได้เลี้ยวขับหลบหนีพุ่งเข้าไปในพงหญ้าข้างทางก่อนจะพากันเปิดประตูรถแล้วอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีเข้าป่าไปได้
เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งได้ออกติดตามหาตัวคนที่หลบหนีและอีกส่วนเข้าตรวจสอบภายในรถปรากฏว่าบรรทุกกระสอบฟางหลากสีมาด้วยจำนวน 20 ใบ ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ใบละประมาณ 200,000 เม็ด รวมของกลางยาบ้าทั้งสิ้นจำนวนประมาณ 4,000,000 เม็ด ภายในรถพบเอกสารคู่มือรถระบุว่าเป็นของ นายชัยวัฒน์ อายุ 28 ปี ชาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่จึงนำของกลางทั้งหมดไปตรวจสอบเพิ่มเติมที่ สภ.เวียงแก่น และสืบสวนสอบสวนขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้มีหลบหนีต่อไป ///-026
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี