ไต่สวนกลุ่มแพทย์ รพ.ตำรวจ อดีตแพทย์ใหญ่ ยันดูแล‘ทักษิณ’ตามโรค เผยเป็นคนลงมีดผ่าตัดไหล่เอง

ไต่สวนกลุ่มแพทย์ รพ.ตำรวจ อดีตแพทย์ใหญ่ ยันดูแล‘ทักษิณ’ตามโรค เผยเป็นคนลงมีดผ่าตัดไหล่เอง

วันศุกร์ ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 16.49 น.

ไต่สวนกลุ่มแพทย์ รพ.ตำรวจ คดีทักษิณ อดีตแพทย์ใหญ่ แพทย์รักษา ยันดูแลตามโรคประจำตัว เผยเป็นคนลงมีดผ่าตัดไหล่เอง ชี้หากอาการไม่หนักส่งตัวกลับเรือนจำ แต่หากมีอาการแทรกซ้อนต้องรักษาตัวต่อ   นัดไต่สวนต่อกก.แพทย์สภา 25 ก.ค. ส่วนนัดสุดท้าย ทนายเตรียมวิษณุ  เครืองาม  ไต่สวนปากเดียว

วันที่ 18 กรกฎาคึม 2568 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง  ถ.ราชดำเนินใน ศาลนัดไต่สวนคดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 กรณีการตรวจสอบข้อเท็จจริงการบังคับโทษคดีถึงที่สุด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 4


สำหรับช่วงบ่าย พยานที่จะเข้าเบิกความ คือ พล.ต.ต.นพ.สามารถ ม่วงศิริ รองนายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ , พล.ต.ต. ศุภฤกษ์ พัฒนปรีชากุล นายแพทย์ (สบ 7) และ พล.ต.ท.นพ.สุรพล เกษประยูรอดีต แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ

ต่อมาเวลา 13.30 น. ศาลไต่สวน พล.ต.ต.นพ.สามารถ ม่วงศิริ  รองแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ แพทย์ออโธปิดิกส์ เบิกความพยานรายที่ 4  ผู้ช่วยการผ่าตัดอาการบาดเจ็บของจำเลย และควบคุมดูแลการพักรักษาหลังการผ่าตัด โดยจำเลยได้รับบาดเจ็บเอ็นหัวไหล่ขวาขาดระหว่างพักรักษาตัวที่รพ.ตำรวจ และสอบถามเกี่ยวกับประเด็นใบรับรองของแพทย์เนื่องจากตามหลักฐานที่ศาลมี พยานรายดังกล่าวเป็นผู้ลงชื่อในใบรับรองแพทย์ของจำเลย ซึ่งพยานให้การต่อศาลยืนยันในสองส่วนคือ ใบรับรองแพทย์เป็นการใส่รายละเอียดการป่วยโดยทั่วไปของจำเลยตามจริงเท่านั้น รวมทั้งไม่ทราบว่าใบรับรองแพทย์ดังกล่าวที่มีลายเซ็นตนเองราชทัณฑ์นำไปใช้เพื่อการใด

สำหรับพยานรายที่ 5 พล.ต.ต. ศุภฤกษ์ พัฒนปรีชากุล นายแพทย์ (สบ 7อายุรกรรมเชี่ยวชาญด้านหัวใจ รพ.ตำรวจ ได้เบิกความว่าได้ดูแล และ ให้คำปรึกษาจำเลยที่เกี่ยวกับโรคประจำตัวเดิมที่มีประวัติการรักษาจากต่างประเทศ และ ดูแลอาการเจ็บป่วยที่เป็นสาเหตุของการส่งตัวมารักษาที่รพ.ตำรวจในวันที่ 23 สิงหาคม66  และให้คำปรึกษาอีกครั้งถึงความเสี่ยงระดับกลางของจำเลยที่อาจส่งผลต่อโรคประจำตัวในตอนที่เข้ารับการผ่าตัดอาการบาดเจ็บ พร้อมทั้งให้ความเห็นต่อศาลถึงความจำเป็นในการพักรักษาตัวต่อที่รพ.ตำรวจและให้ข้อสังเกตต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคของจำเลยต่อศาล

ส่วนพยานรายที่ 6 พล.ต.ท.นพ.สุรพล เกษประยูร อดีตนายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ  ซึ่งเป็นแพทย์ลงมือผ่าตัดเอ็นหัวไหล่ขาดนายทักษิณ เบิกความยืนยันว่าการตรวจรักษานายทักษิณตั้งแต่การผ่าตัดนิ้วล็อกและเอ็นหัวไหล่ขาด หากไม่มีอาหารแทรกซ้อนก็จะส่งตัวกลับรพ.ราชทัณฑ์ได้หลังจาก 7 วัน แต่ตัวนายทักษิณเป็นผู้มี่มีอาการแทรกซ้อน จึงมีเหตุต้องให้รักษาตัวต่อที่รพ.ตำรวจ นอกจากนี้พยานยังได้ยื่นเอกสารการรักษาตัวของนายทักษิณให้องค์คณะผู้พิพากษาพิจารณาด้วย

ศาลจึงมีคำสั่งเลื่อนไปไต่สวนพยานบุคคลต่อในวันที่ 25 กรกฎาคม เวลา 09.00 น. โดยเป็นนำแพทย์จากแพทยสภาเข้ามาเบิกความจำนวน 3 ปาก และอนุญาตให้จำเลยนำศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี เข้าไต่สวนนัดสุดท้าย 30 กรกฎาคมนี้ เวลา09.30 น.

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top