วันที่ 19 กรกฎาคม 2568  เวลา 13.30 น.ที่ สภ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ นายกฤษฎา โลหิตดี หรือโนบิตะ ทนายความชื่อดัง ชาวจ.อุดรธานี ได้เดินทางจากจ.อุดรธานี พานายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพรานต่อยทหารเขมร เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หลังนายสมหมายก่อเหตุต่อยทหารเขมรได้ที่ปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหานายสมหมาย ตามมาตรา 391 ในประมวลกฎหมายอาญา ว่า “ผู้ใดใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจต้ องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" ” ซึ่งตำรวจได้นัดให้พี่สมหมายพร้อมทนายความมาขึ้นศาลวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 นี้

นายกฤษฎา โลหิตดี หรือโนบิตะ ทนายความ เปิดเผยว่า วันนี้คุณกันจอมพลัง ได้มอบหมายให้ตนและเฮียเปี๊ยกเดินทางพาคุณลุงสมหมายมารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรพนมดงรัก ซึ่งข้อกล่าวหาตำรวจได้แจ้งรับแจ้งแล้วก็เป็นแค่เพียงลหุโทษส่วนผลจะออกมายังไงต้องรอฟังคำสั่งศาลตัดสินวันจันทร์จะถึงนี้

ขณะเดียวกันหลังรับทราบข้อกล่าวหาตนได้แจ้งความดำเนินคดีกับหญิงกัมพูชาที่ปลอมตัวเข้ามาเป็นนักท่องเที่ยวและก่อความวุ่นวายยุยงปลุกปั่นให้ทหารกัมพูชา บุกเข้ามาในพื้นที่แผ่นดินไทย ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวไปเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านอีกด้วย แจ้งข้อหามาตรา 116 ตามประมวลกฎหมายอาญาในฐานความผิดยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในราชอาณาจักรไทย ซึ่งข้อหานี้ตามกฎหมายไทยมีอัตราโทษสูงจำคุก 7 ปี โดยทาง ผกก.สภ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ได้รับเรื่องไว้แล้วพร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งหากพบหลักฐานมีความผิดจริงพร้อมดำเนินการออกหมายจับทันที อย่างไรก็ดีจากข้อมูลหญิงชาวกัมพูชาทราบชื่อภายหลัง คือ นโรดม แพน โมนิก้า

นายภานุมาศ จิตวศินกุล หรือเฮียเปี๊ยก เจ้าของเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย บอกว่า หลังแจ้งความคณะทนายความพร้อมตนเองได้เดินทางไปสังเกตการณ์ที่ปราสาทตาเมืองธม โดยบรรยากาศพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางขึ้นไปเที่ยวชมกันจำนวนมาก ท่ามกลางทหารทั้ง 2 ฝ่ายซึ่งประจำการอยู่ เหตุการณ์ทั่วไปปกติดี