20 กรกฎาคม 2568 เหตุการณ์รายนี้ถูกเปิดเผย เมื่อเวลา 21.45 น. วันที่19 กรกฎาคม ร.ต.ท.สัญญา ใจจันทร์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองปรือ ได้รับแจ้งเหตุคนผูกคอตายใต้ต้นไม้ ภายในซอยหลังหมู่บ้านเอื้ออาทร หนองไม้แก่น ม.2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบไปทำการตรวจสอบ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน เมืองพัทยา

ไปถึงที่เกิดเหตุเป็นซอยเปลี่ยวมืดสงัด ไม่มีแสงไฟส่องทาง ตรวจสอบเบื้องต้น พบศพชายไทยใช้เชือกผูกคอตัวเองอยู่ใต้ต้นสะเดาะ เมื่อตำรวจเห็นศพคนตายก็ถึงกับช็อกกันทุกนาย เนื่องจากผู้ตายเป็นที่รู้จักในแวดวงตำรวจ สภ.หนองปรือ ทราบชื่อคือ นายมนตรี หรือปิ๊ก อายุ 53 ปี เป็น “นายประกันตัวผู้ต้องหา” สภาพศพสวมเสื้อยืดสีส้ม นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ใช้เชือกไนลอนสีเขียวผูกคอตัวเอง ปลายเชือกแขวนติดกับกิ่งต้นสะเดา สภาพศพอยู่ในท่านั่ง หลังพิงต้นไม้ ขาเหยียดตรงยื่นออกมาที่พื้นถนน ศพมีการกระเป๋าสะพายสีดำ คาดไว้ที่หน้าอก โดยศพไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายหรือร่องรอยการต่อสู้ ข้างศพพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ซูโม่เอ็กซ์ สีบรอนซ์ ทะเบียนระยอง ตำรวจจึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน 

ต่อมา นางสาวเพ็ญสิริ อายุ 52 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาดูศพสามี เมื่อเห็นสภาพศพถึงกับร้องไห้โฮ พร้อมกับให้ข้อมูลกับตำรวจว่า วันนี้เป็นวันเกิดของสามี ตรงกับวันที่ 19 กรกฎาคม โดยช่วงกลางวันที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังทำกับข้าว สามีได้เดินทางไปหา แล้วบอกว่า วันนี้จะเป็นวันตายของกู พร้อมกับใช้มือชี้ไปที่กระเป๋าสะพายคาดอก ที่สามีคล้องติดตัวตลอดเวลา ซึ่งตอนนั้นตนเองไม่อยากมีปัญหาทะเลาะ จึงไม่ได้พูดสวนอะไรกลับไป

จนกระทั่งช่วงหัวค่ำ ทราบเพียงว่าสามีออกมาเลี้ยงฉลองวันเกิด กับตำรวจที่มีความสนิทสนมและบ้านใกล้กัน จนมาทราบข่าวว่าสามีผูกคอตายใต้ต้นไม้ จึงรีบเดินทางมาดูศพสามีดังกล่าว ยอมรับว่าเสียใจมาก ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบมาจากเรื่องอะไร รู้แต่เพียงว่าสามีชอบบ่นน้อยใจพี่น้องที่ จ.นครราชสีมา 

ต่อมา ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของ นายตำรวจ ชื่อว่า จ่าแม็ก (ไม่ขอเปิดเผยชื่อจริง) เป็นเจ้าหน้าที่เสมียนประจำวัน ประจำ สภ.หนองปรือ ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 500 เมตร โดย จ่าแม็ก เล่าทั้งน้ำตาให้ฟังว่า ตนเองรักและนับถือผู้ตาย เหมือนพี่ชายคนหนึ่ง เนื่องจากงานของผู้ตาย จะต้องทำงานร่วมกันระหว่าง ตำรวจกับนายประกันผู้ต้องหา จึงทำให้ตนเองกับผู้ตายสนิทสนมกัน อีกทั้งผู้ตายเวลาว่าง ก็ชอบไปช่วยงานตำรวจเป็นประจำ จนทำให้ตำรวจทั้งโรงพักรู้จัก 

โดยก่อนจะเกิดเรื่องเศร้า เวลา 20.31 น. ตนเองได้แอบเซอร์ไพรซ์วันเกิดผู้ตาย ด้วยการแอบไปซื้อเค้กมาให้ ซึ่งก่อนจะเป่าเค้กตนเองก็เริ่มเอะใจ เพราะผู้ตายนั่งเงียบครึม ไม่พูดไม่จา พอจะให้เป่าเค้กก็จะไม่ยอมเป่า แต่สุดท้ายตนเองกับครอบครัว ก็จุดเทียน ร้องเพลงวันเกิด แล้วนำเค้กมาให้เป่า พอผู้ตายเป่าเสร็จ ก็ก้มหน้ามาหอบแก้มตนเอง 1 ครั้ง

จากนั้นก็ขอยืมไฟแช็กเพื่อไปจุดบุหรี่สูบ ตนเองได้เดินเข้าไปหาผู้ตาย แล้วบอกว่า “พี่เป็นอะไร อย่าคิดมาก” แต่ผู้ตายกลับโผเข้ามาสวมกอดแล้วบอกรัก และไม่คิดว่านั้นคือเป็นการกอดครั้งสุดท้าย จากนั้นผู้ตายก็ขี่รถจักรยานยนต์ออกไป จนเวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง ก็มีตำรวจโทรมาแจ้งว่า ผู้ตายเสียชีวิตแล้วด้วยการผูกคอตัวเอง 

นายมิลาน อายุ 23 ลูกชายของผู้ตาย เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองพอจะรู้เรื่องที่พ่อเครียด แต่ไม่ขอลงรายละเอียด เพราะไม่อยากให้มีปัญหาไปมากกว่านี้ โดยทราบเพียงว่า หลังจากที่ย่าเสียชีวิต พี่น้องทุกคนของพ่อก็เปลี่ยนไป พ่อเคยบ่นให้ฟังหลายครั้ง ว่าน้อยใจพี่น้องตัวเอง ส่วนเรื่องที่น่าจะมีปัญหากัน คงมาจากเรื่องทรัพย์สินมรดกของย่า  ซึ่งพ่อเครียดหนักมาเป็นเวลา 2 ปี ก่อนจะมาก่อเหตุดังกล่าว

ส่วนทางคดี ตำรวจได้ให้หน่วยกู้ภัย นำศพผู้ตายไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ โดยสันนิษฐานว่า เป็นการฆ่าตัวตายเอง ส่วนสาเหตุต้องสอบปากคำญาติอย่างละเอียดอีก และถ้าหากญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย ก็จะมอบศพให้กลับนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีนี้ต่อไป.

012