20 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 386 หมู่ 3 บ้านกุดข้าวปุ้น ต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม เพื่อพบกับนางเมธินี หรือเมย์ อายุ 35 ปี เจ้าของบ้าน หลังเพิ่งเจอเหตุการณ์เฉียดตายมาหมาดๆ กรณีถูกเพื่อนบ้านคือ นายสุขสันต์ อายุ 60 ปี เกิดอาการคลุ้มคลั่งเพราะสูบกัญชาจนหลอน บุกเข้ามาภายในบริเวณบ้าน ใช้อาวุธมีดพร้าความยาวประมาณ 40 เซนติเมตร ทุบทำลายกระจกบ้าน รวมทั้งกระจกรถยนต์เก๋งเสียหายทั้งคัน เหตุเกิดเวลาประมาณ 17.30 น. วันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

เบื้องต้น นางสมสมัย อายุ 58 ปี ผู้เป็นแม่เปิดเผยว่า นายสุขสันต์มีบ้านอยู่หลังบ้านตน ห่างกันไม่น่าเกิน 30 เมตร เป็นคนนิสัยดี มีอาชีพรับจ้างเขียนป้าย อยู่บ้านคนเดียว มีอะไรก็จะเอามาแบ่งปันให้ตนเสมอ แม้พยายามให้เงินก็ไม่เอา แต่ขอเปลี่ยนเป็นข้าวสารไปหุงกินเสมอ

วันเกิดเหตุช่วงเช้าประมาณ 10 โมง ขณะที่อยู่ในบ้านกับลูกสาวคือนางเมย์และหลานสาววัย 8 ขวบ ได้ยินเสียงดังคล้ายมีคนโยนสิ่งของใส่หลังคาบ้าน ตนจึงชะโงกหน้าไปทางหลังบ้าน ประจันหน้ากับนายสุขสันต์พอดี กำลังจะเอ่ยปากถามว่าโยนอะไรมา นายสุขสันต์ก็เดินหายเข้าไปในบ้านเขา เห็นว่าไม่มีอะไรเสียหาย ตนจึงออกไปหาเห็ดในป่า ปล่อยลูกสาวอยู่กับหลานสาวกันสองคน กระทั่งตอนบ่ายนางเมย์โทรมาหาด้วยเสียงที่สั่นกลัวว่า นายสุขสันต์บุกเข้ามาทุบรถยนต์และกระจกบ้านเสียหาย

ด้าน นางเมธินี หรือเมย์ เล่าด้วยน้ำเสียงสั่นๆว่า ขณะที่ตนนั่งอยู่ในบ้านกับลูกสาววัย 8 ขวบ นายสุขสันต์เพื่อนบ้านถือมีดพร้ามาฟันกระจกหน้าบ้านก่อน ตนเห็นรีบคว้าตัวลูกไปหลบในห้อง แต่ลูกสาวตกใจกลัวมากจึงส่งเสียงร้องไห้ดังลั่น ในขณะที่นายสุขสันต์ยังไม่หายบ้าคลั่ง ใช้มีดพร้าทุบกระจกรถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน สีขาว แตกทุกบาน และเกรงว่านายสุขสันต์จะเข้าไปทำร้ายลูกสาว ตนจึงตัดสินใจเดินไปประเชิญหน้ากับนายสุขสันต์ พร้อมยกมือไหว้ขอชีวิต อย่าทำอะไรที่รุนแรงไปกว่านี้เลย คาดว่านายสุขสันต์ได้สติจึงถือมีดพร้าเดินออกจากบ้าน ตนรีบโทรศัพท์บอกแม่ และแจ้งตำรวจ สภ.บ้านกลาง ทันที

ซึ่งนางเมย์ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า เหตุที่กล้าไปประจันหน้ากับคนที่กำลังบ้าคลั่ง เพราะต้องการปกป้องลูกสาว ส่วนรถยนต์ต้องควักเงินจ่ายเป็นค่าเปลี่ยนกระจกใหม่เอง กะคร่าวๆรวมทั้งกระจกบ้านด้วยประมาณ 4-5 หมื่นบาท ลำพังนายสุขสันต์คงไม่มีจ่ายแน่

คดีดังกล่าวเหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 เวลา 17.30 น. ร.ต.อ. สุเมธ สีหาวงษ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บ้านกลาง ได้รับแจ้งจากนางเมธินีผู้เสียหายว่า มีชายบุกรุกเคหะสถาน ทุบทำลายข้าวของได้รับความเสียหาย พ.ต.อ. ณรงค์ เรืองมี ผกก.สภ.บ้านกลาง จึงนำกำลังลงพื้นที่ ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับนายศักดิ์ดา บุนนะวงษ์ กำนันตำบลขามเฒ่า และ ฝ่ายปกครองประจำหมู่บ้าน ซึ่งภายในบ้านได้รับความเสียหายหลายรายการ

โดยผู้ก่อเหตุคือนายสุขสันต์ อายุ 60 ปี ยังเดินถืออาวุธมีดพร้าอยู่บนถนนคอนกรีตหน้าบ้านที่เกิดเหตุ จึงสั่งให้วางอาวุธลงพร้อมเข้าควบคุมตัว ส่วนนางเมย์เจ้าของบ้านร้องไห้จนตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ให้การว่าไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับผู้ต้องหา แต่นายสุขสันต์จะโวยวายเสียงดังด่าหมา แมว และไก่ ด้วยคำหยาบคาย ถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นประจำ ไม่ถึงขั้นรุนแรงทำลายข้าวของเหมือนครั้งนี้

ด้านนายสุขสันต์ผู้ต้องหา หลังสงบสติอารมณ์ได้แล้ว ยอมรับว่าสูบกัญชาจนเพี้ยน สติหลอนว่าจะมีคนมาทำร้ายตลอดเวลา จึงรีบชิงลงมือก่อน คว้ามีดไปทุบทำลายข้าวของ ตอนนั้นทำลงไปเพราะไม่ได้สติ กระทั่งนางเมย์ผู้เสียหายยกมือไหว้ร้องขอชีวิต ความรู้สึกต่างๆก็กลับคืนมา เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา บุกรุกเคหะสถานโดยมีอาวุธและทำให้เสียทรัพย์.

012