ผงะเจอดงระเบิดใหม่‘ช่องบก’
ฝังกว่าร้อยลูก!
หลังแนวต้นพญาสัตบรรณ
ทบ.ส่งทหารช่างเก็บหลักฐาน
‘เขมร’เกณฑ์คนขึ้น2ปราสาท
ฮุนเซนเดือดแฉตลบหลังแม้ว
ทบ.ลุยเก็บหลักฐานระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา ทหารช่าง ช.พัน.6 พบหลักฐานชัด “สนามทุ่นระเบิดใหม่” ฝังไว้นับร้อยลูกในช่องบกหลังแนวต้นพญาสัตบรรณ ส่วนเขมรขนนักท่องเที่ยว 900 คน ขึ้น 2 ปราสาท พร้อมเคลมพยัญชนะไทยทั้ง 44 ตัว ด้าน“ฮุนเซน”โต้ดือด“ทักษิณ”มาด่าไร้จริยธรรมแต่ทำไมมาพึ่งพาถึง 19 ปี แถมทวงบุญคุณเป็นคนออกไอเดีย “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ”ให้ด้วย
ความคืบหน้ากรณีเมื่อวันที่ 16 กรกฏาคมที่ผ่านมาทหารไทยประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดที่เนิน 481 ช่องบก จ.อุบลราชธานี ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 3 นาย ในจำนวนนี้ต้องตัดขาซ้าย 1 นายคือพลทหารธนพัฒน์หุยวันขณะที่ฝ่ายไทยกำลังตรวจสอบเก็บหลักฐานว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือเก่านั้น
เมื่อวันที่ 20 กรกฏาคม 2568กองทัพภาคที่ 2 เสริมกำลังทหารช่างลงพื้นที่เพื่อตรวจพื้นที่และเก็บกู้ทุ่นระเบิดตลอดแนวชายแดน โดยใช้ยุทโธปกรณ์หนัก รถแทรกเตอร์หุ้มเกราะ ชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดชำนาญการ กำลังชุดทหารช่างตรวจค้นกวาดล้างทุ่นระเบิด (Mine Clearing)เขตทางพื้นที่สงสัยให้ปลอดภัยพร้อมใช้รถโกยตัก ถางขุดตอ และรถถากถางติดตั้งเกราะเหล็กป้องกันพลขับในการทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย
ทบ.ลุยเก็บหลักฐานประท้วงเขมร
ทั้งนี้ นอกจากช่วยดูแลความปลอดภัยของกำลังพลที่จะออกลาดตระเวนในพื้นที่เขตแดนไทยแล้วยังเป็นการเก็บหลักฐานเพื่อแสดงให้เห็นว่ากัมพูชามีพฤติการณ์ที่ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แม้ทางฝ่ายกัมพูชาจะไม่ยอมรับแต่กระทรวงการต่างประเทศ จะทำหนังสือเพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการผ่านสหประชาชาติ (UN)และทางกองทัพบกจะมีมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสมต่อไป
ผงะเจอเต็มๆวางทุ่นระเบิดใหม่กว่าร้อยลูก
ขณะที่เพจกองทัพภาคที่ 2โพสต์ความคืบหน้าว่า หน่วยทหารช่าง ช.พัน 6 กองกำลังสุรนารี เข้าปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ช่องบก หลังการถอนกำลังของทหารกัมพูชา ซึ่งมีรายงานว่ามีการลอบวางทุ่นระเบิดใหม่หลายสนามนับร้อยลูกบริเวณหลังแนวต้นพญาสัตตบรรณ
เบื้องต้น หน่วยเก็บกู้พบรูปแบบการวางระเบิดที่มีทั้งแบบสกัดกั้นเส้นทางเคลื่อนพล และแบบคลัสเตอร์ (Cluster Bomb) ซึ่งเป็นอาวุธอันตรายที่สามารถคร่าชีวิตและสร้างความเสียหายรุนแรงในวงกว้าง ทำให้การเข้าปฏิบัติงานต้องดำเนินด้วยความระมัดระวังสูงสุด ขอส่งแรงใจให้ทหารไทยทุกนายปลอดภัยจากภารกิจเสี่ยงครั้งนี้
มาแผนสูงโวยไทยยั่วยุ-ท้ายื่นศาลโลก
ด้านพนมเปญโพสต์ สื่อของกัมพูชา รายงานอ้างคำกล่าวของนายแฮง รัตนา อธิบดีศูนย์ปฏิบัติการกับระเบิดของกัมพูชา (CMAC) ตอบโต้ข้อกล่าวหาของสื่อไทยที่ระบุว่า เป็นกับระเบิดใหม่นั้น ถือว่าเป็นความพยายามที่จะยั่วยุและทำให้กัมพูชาเสื่อมเสียชื่อเสียง พร้อมอ้างมีรายงานบนโซเชียลมีเดียที่ระบุว่าระบิดอยู่ในฝั่งไทย และเป็นฝีมือของกองทัพไทย
“หากไทยต้องการนำเรื่องการวางกับระเบิดใหม่เข้าสู่การพิจารณาของ UN ผมเชื่อว่ามันเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่กัมพูชาและไทยจะนำเรื่องนี้ไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของ UN” นายแฮงกล่าว
ทบ.งัดหลักฐานโต้สื่อเขมรบิดเบือน
ส่วน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกตอบโต้ข้อกล่าวหาของนายแฮงที่อ้างว่าไทยเป็นฝ่ายฝังทุนระเบิดใหม่ โดยยืนยันว่ากองทัพบกไทยไม่มีระเบิดชนิด PMN-2 ผลิตโดยรัสเซีย อยู่ในสารบบส่วนสื่อ Fresh News ของกัมพูชา แพร่คลิปอ้างเป็นหลักฐานนั้น ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นภาพจากภารกิจของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม (T-MAC) ในช่วงการฝึกเก็บกู้ หรือช่วงเวลาพักของกำลังพล ไม่ใช่การวางกับระเบิด ถือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง
จับโกหกข้อมูลกัมพูชาขัดกันเอง
โฆษกกองทัพบก ระบุว่า ส่วนที่นายแฮงอ้างว่าทุ่นระเบิดอยู่ในเขตไทยและฝ่ายไทยต้องรับผิดชอบนั้น ยิ่งสะท้อนว่าทุ่นระเบิดที่พบอยู่ในเขตอธิปไตยของไทย และแสดงถึงการรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย ด้วยวิธีการแอบลักลอบข้ามแดนเข้ามาวางทุ่นระเบิดเอาไว้
“อีกทั้งกรณีพล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาอ้างว่าทหารไทยเหยียบกับระเบิดที่บ้าน เตโชรโกฏ ต. มรกต อ.จอมกสาน จ.พระวิหาร ถือว่าย้อนแย้งกันเองของฝ่ายกัมพูชา แสดงให้เห็นถึงความผิดพลาดในการบิดเบือนข่าวสารจนต้องออกมาแก้ข่าวกันเอง”โฆษกกองทัพบก ระบุ
“ฮุนเซน”โต้เดือดทักษิณไม่คุยกับคนมีคดี
ส่วนความเคลื่อนไหวของสมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชานั้น ล่าสุดได้โพสต์ข้อความตอบโต้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย อย่างดุเดือดอีกระลอก โดยคราวอ้างว่า เขาเป็นฝ่ายไม่อยากพูดคุยกับนายทักษิณอีกต่อไป หลังจากบุตรสาวของนายทักษิณใช้ถ้อยคำดูหมิ่นและสบประมาทว่าตนไม่เป็นมืออาชีพ
“ข้าพเจ้าไม่มีความประสงค์จะสนทนากับบุคคลซึ่งมีประวัติอาชญากรรมและกำลังจะเผชิญคดีความเพิ่มเติม ดังนั้น อย่าคิดว่าตนมีความสำคัญนัก เพราะการพูดคุยกับคุณมิได้ก่อประโยชน์ใด ๆ แก่ข้าพเจ้าเลย”ฮุนเซน ระบุ หลังจากก่อนหน้านั้นนายทักษิณ ประกาศว่าจะไม่เจรจากับกัมพูชาเพราะไม่ใว้ใจแล้ว
ถ้าไร้จริยธรรมแล้วทำไมมาพึ่งพาถึง19ปี
ฮุน เซน ยังเย้ยนายทักษิณว่า นับตั้งแต่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองไทย ประเทศไทยก็ตกอยู่ในความปั่นป่วน โดยเฉพาะนับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อปี49 พร้อมอ้างว่า ตนไม่ต้องการพูดถึง การที่คุณทักษิณใช้ถ้อยคำดูหมิ่นรุนแรงต่อสถาบัน ไม่เหมาะสมที่จะพูด
ฮุนเซน ระบุว่า ขอตั้งคำถามกลับไปยังคุณทักษิณว่า หากข้าพเจ้าขาดศีลธรรมจริง เหตุใดคุณจึงพึ่งพาข้าพเจ้ามาตลอดระยะเวลา 19 ปี ตั้งแต่ปี 2549-2568 ยอมรับฟังคำแนะนำจากข้าพเจ้า และถึงขั้นขนานนามข้าพเจ้าว่า“ผู้นำหมายเลขหนึ่ง”
อ้างเป็นคนคิด“ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ”
“คุณจำได้ไหม การเตรียมการของพรรคเพื่อไทยสำหรับการเลือกตั้งปี54นอกจากแนวคิดบางอย่างแล้ว ยังมีทฤษฎีหนึ่งด้วย “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” นั่นคือความคิดของผม”ฮุนเซน กล่าวและย้ำด้วยว่า ข้อกล่าวหาที่ว่าเขาครอบงำพรรคเพื่อไทยนั้นเป็นความจริง รวมถึงการหักหลังพรรคภูมิใจไทย ซึ่งทั้งหมดเป็นความคิดของเขาเอง ไม่ใช่ของอุ๊งอิ๊งค์
เขมรจัดทัวร์ 900 คนเที่ยว2ปราสาท
ทางด้านปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นวันหยุด ปรากฏว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก หลังทางกัมพูชาได้เกณฑ์นักท่องเที่ยวชาวพนมเปญกว่า 900 คนใช้รถบัส23 คันรถ ขึ้นมาเยือนปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย โดยมีการถือป้ายเคลมพยัญชนะไทยทั้ง 44 ตัว
นักท่องเที่ยวคึกคักแห่เที่ยวกว่าครึ่งหมื่น
ขณะที่นักท่องเที่ยวไทยได้หลั่งไหลมาเยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธมอย่างคึกคัดเช่นกัน รวมทั้งสิ้น 2,313 คน เป็นชาวเยอรมัน และอังกฤษ 4 คนส่วนนักท่องเที่ยวกัมพูชา รวม 2,289 คน ทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้งสิ้น 4,602 คน ส่วนที่ปราสาทตาควาย เป็นนักท่องเที่ยวไทย 303 คน ทางฝั่งกัมพูชา เพิ่มเป็น 1,500 คน รวมนักท่องเที่ยวทั้งสิ้น 2,221 คน เหตุการณ์ทั่วไปยังปกติ
มทภ.2ฮึ่มใครมาป่วนเจอจัดหนักแน่
ด้านพล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่2กล่าวว่ารู้สึกยินดีและขอต้อนรับ นักท่องเที่ยวชาวกัมพูชา และประเทศอื่นๆที่มาเยี่ยมชม ปราสาทตาเมือนธมและประสาทตาควายของไทย แต่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ ที่กองทัพภาคที่2 ได้กำหนดไว้
“หากนักท่องเที่ยวคนใด ก่อเหตุวุ่นวาย เจ้าหน้าที่มีมาตรการจากเบาไปหาหนักดำเนินการ ดังนั้นขออย่าให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะนักท่องเที่ยวทุกคน เข้ามาเยี่ยมชมโบราณสถานของไทย ต้องเคารพกฎระเบียบของไทย” แม่ทัพภาคที่2 กล่าว
“คปท.”บุกประชิดสถานทูตกัมพูชาประท้วง
วันเดียวกันนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) พร้อมด้วย กองทัพธรรม ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และประชาชน เดินทางไปยังสถานทูตกัมพูชาเพื่อประท้วงกรณีรุกลํ้าอธิปไตยเข้าไปวางระเบิด ถือว่าเป็นการดูหมิ่นประเทศไทยเป็นอย่างมากและยังทําผิดอนุสัญญาออตตาวาอีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี