เตือน20-24ก.ค.
ทั่วไทยฝนหนัก
เขื่อนระบายน้ำ
11จังหวัดรับมือ
พายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา”กรมอุตุฯเตือน 20-24 กรกฎาคม ทั่วไทยฝนถล่มหนักมาก กรมชลประทานประกาศเตือนจังหวัดท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเตรียมรับน้ำเหนือเพิ่ม20-80ซม.ตั้งแต่25ก.ค.ด้าน’ภูมิธรรม’ สั่ง’มท.-ปภ.’ ใช้วอร์รูม ติดตามสภาพอากาศ-สถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง24ชั่วโมง เตือนประชาชนรับฟังข้อมูลข่าวสารจากภาครัฐ ไม่หลงเชื่อข่าวปลอม
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสถานการณ์พายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” ระบุว่า พายุวิภาบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 560 กิโลเมตร ทางตะวันออกของจ้านเจียง ประเทศจีน หรือที่ละติจูด 21.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 115.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 93กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้ กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า ในช่วงวันที่ 21-22 ก.ค. 68 จะเคลื่อนตัวลงสู่อ่าวตังเกี๋ย และขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน โดยจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ หลังจากนั้น มีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศลาวตอนบน และภาคเหนือตอนบนต่อไป ในขณะที่ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง จากอิทธิพลของพายุวิภา และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จะส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 20-24 ก.ค. 68 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก วันที่ 20กรกฎาคม2568 ภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ กำแพงเพชรและตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญและอุบลราชธานี ภาคกลาง จังหวัดลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาครและนครปฐม ภาคตะวันออก จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 ภาคเหนือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร ภาคกลาง จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนองและพังงา
วันที่ 22-24กรกฎาคม2568 ภาคเหนือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ กำแพงเพชรและตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา และอุบลราชธานี ภาคกลาง จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี และพระนครศรีอยุธยา ภาคตะวันออก จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรีและตราด ภาคใต้ จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนองและพังงา
สำหรับทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูง 2-4เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร
ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะมองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันและเวลาดังกล่าวไว้ด้วย ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมรับมือหรืออพยพ หากสถานการณ์อยู่ในสภาวะวิกฤตและติดตามประกาศจากกรมอตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์และการติดตามการคาดการณ์ผลกระทบจากพายุวิภา และสภาวะอากาศในช่วงวันที่ 20-24 ก.ค.ว่า คาดการณ์ว่าพายุวิภาจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศเวียดนามตอนบน ในวันที่ 22 ก.ค. ซึ่งจะทำให้เริ่มมีฝนเพิ่มขึ้นในช่วงค่ำของวันที่ 20 ก.ค. ในพื้นที่ จ.หนองคาย บึงกาฬ นครพนม จากนั้นในช่วงวันที่ 22-23 ก.ค. พื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีฝนตกหนักมาก และอาจส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีร่องความกดอากาศต่ำ (ร่องฝน) พาดผ่านทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงความชื้นจากทะเลอันดามันที่จะส่งผลให้ทั่วทุกภาคเกิดฝนตกหนัก
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า เพื่อให้การเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ และการติดตามการคาดการณ์ผลกระทบจากสภาวะอากาศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยกำชับเจ้าหน้าที่ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคได้ปฏิงานติดตามสภาพอากาศ และประเมินร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง โดยใช้ห้องปฏิบัติการ War room ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงสร้างการรับรู้ความเข้าใจกับประชาชนให้ติดตามสถานการณ์จากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง และไม่หลงเชื่อข่าวปลอมที่อาจเกิดการเผยแพร่ทางช่องทางต่างๆ ในช่วงเวลาดังกล่าว
นายสุริยพล นุชอนงค์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่าจากการติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศ ล่าสุดพบว่าพื้นที่ตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายแห่ง ซึ่งจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำท่าไหลหลากลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 20-24กรกฎาคม 2568 คาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมีฝนตกหนักมากขึ้น จะส่งผลให้ปริมาณน้ำในลำน้ำสาขามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ในช่วง 1-7 วันข้างหน้า คาดว่าในวันที่ 25 กรกฏาคม 2568 ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 1,400-1,500 ลบ.ม./วินาที เมื่อรวมกับปริมาณน้ำในลำน้ำสาขา อีกประมาณ 100-150 ลบ.ม./วินาที จะทำให้มีปริมาณน้ำสะสมบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ประมาณ 1,500-1,650 ลบ.ม./วินาที
ทั้งนี้ กรมชลประทานจึงจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ในช่วงอัตรา 700-1,200 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากระดับปัจจุบันประมาณ 20-80ซม.โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ได้แก่ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยาต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา แม่น้ำน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่เสี่ยงดังกล่าว เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมการป้องกันความเสียหายจากน้ำเอ่อล้นตลิ่งไว้ล่วงหน้า หากมีการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ กรมชลประทานจะประกาศแจ้งให้ทราบต่อไป
นายฐนันดร์ สุทธิพิศาล รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน ออกประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่3 ถึงผู้ว่าราชการ 11จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วย อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการและกรุงเทพมหานครฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี