วันอังคาร ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ใช้ทุ่นระเบิดใหม่-ละเมิดก.ม.ระหว่างปท. ไทยประณามเขมร ศบ.ทก.งัดยาแรงโต้

ใช้ทุ่นระเบิดใหม่-ละเมิดก.ม.ระหว่างปท. ไทยประณามเขมร ศบ.ทก.งัดยาแรงโต้

วันอังคาร ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : ก.ม.ระหว่างปท. ทุ่นระเบิดใหม่ ละเมิด ศบ.ทก.
  •  

ใช้ทุ่นระเบิดใหม่-ละเมิดก.ม.ระหว่างปท.

ไทยประณามเขมร

ศบ.ทก.งัดยาแรงโต้

ส่งหนังสือประท้วง

ยื่นฟ้องกก.ออตตาวา

‘บิ๊กเล็ก’ชี้หลักฐานแน่น

“ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิด”ประณามเขมร เรียกร้องหยุดขวางทหารไทยทำภารกิจเก็บกู้ ทบ.ซัดเขมรรุกล้ำอธิปไตยไทยวางทุ่นระเบิดใหม่ มุ่งทำร้ายทหารไทย ละเมิดอนุสัญญา “ออตตาวา” ขอความร่วมมืออาเซียน-นานาประเทศร่วมประณาม หลังหลักฐานยันเจอทุ่นใหม่เพิ่ม 2 จุด 7 ทุ่น ด้าน

“บิ๊กเล็ก” โอดรบ.ไม่ได้ทำงานช้า แต่ต้องยึดขั้นตอน-ความถูกต้อง ยันหลักฐานชี้ชัดเพียงพอว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ เอาผิดเขมรได้ ยันต้องทำสำนวนให้แน่นก่อนยื่นฟ้องกก.ออตตาวา ที่จะประชุมปลายปีนี้ ซัดพ่อลูกตระกูล “ฮุน”ไม่จริงใจ บอกจะใช้กลไกเจบีซี แต่ขนคนมาป่วนตาเมือนธม ส่วน ศบ.ทก.ยกระดับมาตรการตอบโต้ ยื่นหนังสือประท้วงเขมรปมใช้ทุ่นระเบิดใหม่ โดยรมว.กต.บินถกยูเอ็น เตรียมประกาศจุดยืนไทยต่อนานาชาติ ซัดผู้นำเขมรคำพูดกับการกระทำย้อนแย้ง


ความคืบหน้าการตรวจสอบเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างลาดตระเวนในพื้นที่ชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย กองกำลังสุรนารี และหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พบการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชนิด PMN2 ในสภาพใหม่พร้อมทำงาน 2 ทุ่น และรื้อถอนออกจากพื้นที่แล้ว

ศทช.ประณามเขมรวางทุ่นระเบิดใหม่

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (ศทช.) ออกแถลงการณ์ประณามกัมพูชา ที่ละเมิดพันธกรณีและบรรทัดฐานของอนุสัญญา ว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิตและโอน และการทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคลว่า โดยปรากฏข้อเท็จจริง มีการลักลอบมาวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี อธิปไตยไทย ทำให้กำลังพลของกองทัพไทยบาดเจ็บ 3 นาย 1 ใน 3 นาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสสูญเสียอวัยวะ กลายเป็นผู้พิการถาวร

จากการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญวัตถุระเบิดพบว่า ทุ่นระเบิดที่ใช้ เป็นหุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิดใหม่ เพิ่งถูกวางขึ้น โดยจัดวางลักษณะสนามทุ่นระเบิด กระจายตัวหลายจุดตามแนวชายแดนในเขตพื้นที่อธิปไตยไทย โดยทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิดดังกล่าว มิได้อยู่ในระบบยุทโธปกรณ์ของกองทัพไทยอย่างชัดเจน มีลักษณะมุ่งหมายเพื่อก่ออันตรายต่อกำลังพล รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ และยังส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนบริเวณใกล้เคียงอย่างมีนัยสำคัญ

ชี้ละเมิดอนุฯออตตาวา-จี้รับผิดชอบ

ศูนย์ฯขอประณามการกระทำดังกล่าวอย่างรุนแรง และขอคัดค้านอย่างเด็ดขาดต่อการกระทำที่อาจถือเป็นการละเมิดพันธกรณีและบรรทัดฐานของอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิตและโอน และการทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Mine Ban Treaty หรือ Ottawa Convention) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาว่าทั้งราชอาณาจักรไทยและกัมพูชา ต่างเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาฉบับนี้ ในฐานะหน่วยงานหลักของประเทศไทยด้านปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธธรรม ศูนย์ฯ ขอเรียกร้องให้ราชอาณาจักรกัมพูชาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้อีกในอนาคต นอกจากนี้ ขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาหยุดขัดขวางการปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดของฝ่ายไทยตามแนวชายแดน และให้ความร่วมมืออย่างจริงจังในการดำเนินงานเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม

ทบ.แจงผช.ทูตทหารตปท.22ก.ค.

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกเปิดเผยความคืบหน้าการเก็บกู้ระเบิดพื้นที่ชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานีว่า เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม กองกำลังสุรนารี และหน่วย นปท.3 เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พบการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชนิด PMN 2 สภาพใหม่พร้อมทำงาน 2 ทุ่น ห่างจากหลุมระเบิดเดิม 30 เซนติเมตร จึงได้รื้อถอนทุ่นระเบิดที่ตรวจพบใหม่ออกแล้วทั้งหมด การกระทำดังกล่าวถือเป็นการรุกล้ำอธิปไตยของไทยชัดเจน แสดงเจตนาลอบทำร้ายทหารไทย อีกทั้ง ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ไทยและกัมพูชาให้สัตยาบันเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาดังกล่าวด้วย

“ทบ.จึงขอเผยแพร่ข้อมูลนี้ต่อสาธารณะ พร้อมขอความร่วมมือประเทศสมาชิกอาเซียนรวมถึงนานาประเทศ ร่วมประณามการกระทำของกัมพูชา นอกจากนี้ กรมข่าวทหารบกจะเชิญผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย มารับทราบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว 22 กรกฎาคมด้วย”โฆษก ทบ.กล่าว

ปัดรบ.ทำงานช้าแจงยึดขั้นตอนข้อมูล

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานประชุม ศบ.ทก.กรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดพื้นที่ช่องบก โดยชี้แจงว่า ภาครัฐต้องทำตามขั้นตอน ขอความเห็นใจจากเรื่องนี้ ตนดูตามโซเชียลมีสื่อหลายสำนักหลายนักวิชาการด่าว่าทำงานช้า ไม่ทันใจเท่าฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา หรือฮุน มาเนต นายกฯกัมพูชา ตนอยากบอกว่า ทั้งฮุน เซน และฮุน มาเนต โพสต์ทางโซเชียล ถ้าไม่ใช่ เขาลบออกได้ แต่เราทำตัวแบบนั้นไม่ได้ ถ้าทำเราจะศีลเสมอกัน ระหว่างที่ตนปฏิบัติหน้าที่ การพูดแต่ละครั้งต้องใช่หรือถูกมากที่สุด

ชัดเป็นทุ่นระเบิดใหม่เจอ2จุด7-8ทุ่น

พล.อ.ณัฐพล กล่าวต่อว่า กองกำลังสุรนารีเข้าสำรวจเพิ่มเติม เพื่อต้องตอบคำถามให้ได้ว่า เพราะอะไรถึงบอกว่าใหม่ ถ้าในพื้นที่นี้กวาดล้างแล้ว แต่การสำรวจตรวจค้นทุ่นระเบิด ไม่ใช่การหาของในสนามหญ้า ต้องค่อยเป็นค่อยไป เห็นแก่ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเขาจบภารกิจได้ภายใน 3 วัน ตรวจค้นได้อีก 2 จุด เพิ่มอีก 7-8 ทุ่น เมื่อทราบว่ามีจุดอื่นที่วางไว้อีก ทราบชนิดทุ่นระเบิดเป็นระเบิดสังหารบุคคลแบบพีเอ็มเอ็น-2 ซึ่งเราไม่เคยมีใช้แบบนี้ ที่เป็นของรัสเซีย จึงเป็นสิ่งยืนยันว่า ที่วางระเบิดเป็นของประเทศอื่น ไม่ใช่ของเราแน่นอน

พล.อ.ณัฐพลกล่าวอีกว่า อีกประการ เราต้องตอบสังคมโลกให้ได้ว่า ที่มาวางคือของใหม่มีวิธีดูสองอย่างคือ 1.จุดที่วาง ถ้าใหม่ การกลบร่องรอยเป็นของใหม่ แต่หากเก่า หญ้าหรือวัชพืชจะขึ้นมาเลย แต่จุดที่เราตรวจพบเป็นลักษณะเอาเศษวัชพืช เศษใบไม้มาวางคลุมไว้ และ2.ทุ่นระเบิดที่เราตรวจพบยังเป็นโลหะมันวาวอยู่ ถ้าทุ่นเก่าส่วนที่เป็นโลหะจะเป็นสนิม ถ้าเราทำงานอย่างนี้ จะไม่มีใครมาเถียงเราได้ชี้แจงได้ แค่นี้หลักฐานเราก็เพียงพอแล้ว จากประสบการณ์รับราชการของตน ทำได้ขนาดนี้ถือว่าทำได้เร็วแล้ว

ยื่นประท้วงเขมร-ฟ้องกก.ออตตาวา

รมช.กลาโหมยังกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการออตตาวาจะมีขึ้นประมาณเดือนพ.ย.-ธ.ค.68 จะส่งฟ้องวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ หรือวันนี้มีค่าเท่ากัน เพราะต้องรอเดือนธันวาคม สู้เราทำสำนวนให้รอบคอบไม่ดีกว่าหรือ นี่คือ สิ่งที่ ศบ.ทก.ยึดถืออยู่ ถ้าเราทำสำนวนไปไม่รอบคอบ ศาลไม่รับฟ้อง สำนวนก็ตก หรือทำไปแล้ว กัมพูชาโต้กลับมาได้ เราจะเสียความน่าเชื่อถือไป จึงขอให้เข้าใจหน่วยงานภาครัฐ คนไทยทั้งประเทศต้องช่วยกัน อยากขอความเห็นใจ เพราะภาครัฐต้องทำงานตามขั้นตอน รัดกุม ถ้าทำแล้วพลาดจะมาตำหนิตนอีกว่าไม่รอบคอบ ตอนนี้ตนเหมือนหมาวิ่งกัดเห็บที่หางตัวเองคือ พยายามทำให้ดีที่สุด หลังที่ประชุม ศบ.ทก.เห็นชอบ กระทรวงการต่างประเทศจะทำหนังสือประท้วง แนวทางที่คุยกันไว้คือ ทำหนังสือประท้วงไปยังกรรมการออตตาวา ประท้วงไปยังกัมพูชา ซึ่งรายละเอียดขอยังไม่เปิดเผย

ยันเขมรผิดวางระเบิดใหม่-มีในครอบครอง

“ปัจจุบันกัมพูชาผิดอยู่ 2 เรื่องแน่นอนคือ วางทุ่นระเบิดใหม่ ซึ่งสมาชิกอนุสัญญาออตตาวาต้องไม่ทำแบบนี้ 2.ยังมีของใหม่อยู่ในครอบครอง ซึ่งสมาชิกอนุสัญญาฯต้องทำลายทุ่นระเบิด แต่ถ้ายังทำลายไม่หมด และเอามาใช้ก็ผิดแล้ว ที่จริงตนไม่อยากพูดออกสื่อก่อน จะทำให้กัมพูชารู้ว่าคิดอะไร แต่ต้องยอมสังคมเป็นอย่างนี้ ตนทำงานยากขึ้น จะทำงานง่ายๆ สบายๆ ไม่ได้แล้ว”รมช.กลาโหมกล่าว และว่า จะส่งข้อมูลไปยังประเทศที่เป็นสปอนเซอร์ของกัมพูชา สนับสนุนเงินในพันธะกรณีเกี่ยวกับออตตาวาว่า สนับสนุนเงินเขาไป ปัจจุบันเขาเป็นแบบนี้จะว่าอย่างไร ตนจึงบอกว่า สำนวนเราต้องแน่น มีหลักฐานชัดเจน เรากวาดล้างแล้ว ไม่น่ามีของเก่า หากส่งสำนวนไปแค่นี้ สื่อคิดว่าสำนวนจะตกหรือไม่

ซัดฮุนมาเนตไม่จริงใจใช้มวลชนกดดัน

พล.อ.ณัฐพลกล่าวถึงกรณีมีมวลชนกัมพูชากว่าร้อยคน ขึ้นไปที่ปราสาทตาเมือนธม เมื่อวันที่ 20 กรกฏาคม และฮุน มาเนต นายกฯเขมรออกแถลงการณ์ว่าจะใช้กระบวนการเจบีซี แต่ก็ใช้มวลชนมากดดันที่ปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นการแสดงความไม่จริงใจ การนำมวลชนมา รัฐบาลกัมพูชาจะบอกไม่รู้เรื่องไม่ได้ ถึงบอกไม่รู้ก็ต้องแก้ไขและทำความเข้าใจกับประชาชน ไม่ใช่ปล่อยให้คนกัมพูชาทำแบบนี้ ทั้งนี้ การท่องเที่ยวตาเมือนธมมีการจัดระเบียบแล้ว ทุกอย่างว่าไปตามขั้นตอน

ส่งตร.ปราบจราจลขึ้นตาเมือนธม

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึง ประเด็นที่ตาเมือนธมว่า เราต้องระวัง ตนคุยกับฝ่ายความมั่นคงแล้วก็ยืนยันในหลักการเดิม และประสานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการให้องค์กรระหว่างประเทศ และประชาคมโลกเห็นว่า เราไม่ได้อยากใช้กำลังรุนแรงกับประชาชน จึงใช้หน่วยปราบจราจล จากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กำลังพล 2กองร้อย ขึ้นไปสนับสนุน โดยเอาเครื่องมือปราบจราจลจากรุงเทพขึ้นไปเสริมเป็นแนวหลัง ส่วนทหารยังทำหน้าที่เหมือนเดิม ถ้าเกิดเหตุขึ้นจะเรียกตำรวจจับต้องใช้เวลา จึงเตรียมกำลังปราบจลาจลไว้พร้อมปฏิบัติกับคนกัมพูชา ตามหลักสากล เราพยายามแก้ปัญหาความรุนแรง ไม่ให้เป็นเงื่อนไขให้เขาเอาไปกล่าวหาและดึงคดีเข้าศาลโลก เราไม่อยากให้ไปสู่จุดนั้น

“เรายืนยันมาตรการเจรจาทวิภาคี แต่ขณะนี้เขาใช้มาตรการยั่วยุให้เกิดเหตุการณ์ เพราะหวังจะเป็นทางออกแบบนั้น เราก็ต้องยืนยันในแนวทางของเรา ต้องรักษาพื้นที่ของเรา ต้องอดทนอดกลั้น และไม่ให้ใครรุกล้ำเข้ามาในอธิปไตยของเรา”นายภูมิธรรมกล่าว

ยันตรวจเจอ2จุดรวม7ทุ่น-ไม่ใช่ของไทย

พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงผลประชุม ศบ.ทก. ถึงการพิสูจน์ทราบทุ่นระเบิดจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ทหารเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ บริเวณช่องบก โดยยืนยันว่า ทางการไม่ได้นิ่งนอนใจ ส่งหน่วยผู้เชี่ยวชาญด้านทุ่นระเบิดเข้าไปพิสูจน์ทราบว่า พื้นที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากเส้นปฏิบัติการ 130 เมตร โดยจุดวางทุ่นระเบิดอยู่บนเส้นทางลาดตระเวนของฝ่ายไทย ที่เป็นการปฏิบัติตามปกติ ซึ่งการลาดตระเวนทางฝ่ายไทยดำเนินการตามปกติ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเหตุสุดวิสัย

“หน่วยพิสูจน์ทราบพิสูจน์ทราบว่า หลุมระเบิดที่เกิดเหตุ กว้าง 69 ซม.ลึก 23 ซม. หน่วยชุดพิสูจน์ทราบได้พบเศษวัตถุระเบิดชนิด PMN 2 และพบทุ่นระเบิดเพิ่มอีก 2 จุด จุดแรกอยู่ห่างจากต้นพญาสัตบรรณราว 50 เมตร ใกล้คูเลตที่ทหารกัมพูชาเคยขุดไว้ เป็นกรณีพิพาทระหว่างกัน ตรวจพบอีก 3 ทุ่น ส่วนจุดที่ 2 พบเพิ่มอีก 5 ทุ่น ห่างจากจุดแรกประมาณ 100 เมตร รวมทั้งหมดในการพิสูจน์ทราบ เจอทั้งหมด 7 ทุ่น ยืนยันทั้งหมดเป็นระเบิดใช่ใหม่ PMN 2 มีสภาพพร้อมทำงาน ปรากฏตัวอักษรชัดเจนด้านข้างทุ่นระเบิด ซึ่งทุ่นระเบิดชนิดนี้ประเทศไทยและกองทัพไทยไม่มีอยู่สารบบยุทโธปกรณ์ ขณะเดียวกัน หลักฐานที่ชัดเจน ยังไม่มีวัชพืชหรือรากไม้ขึ้นปกคลุม และพบร่องรอยของการขุดเพื่อวางทุ่นระเบิด”พล.ร.ต.สุรสันต์ระบุ

เพิ่งวางใหม่หลังเหตุปะทะช่องบก

และว่า ปี 2565 กองทัพกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ช่องบก ไม่พบทุ่นระเบิด PMN 2 แต่อย่างใด เป็นสิ่งบ่งบอกว่า ระเบิดชนิดนี้เป็นระเบิดใหม่ และประเมินได้ว่า PMN 2 ที่ตรวจพบเป็นการวางหลังจากเกิดเหตุปะทะเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา และวันที่ 20 กรกฎาคม ตรวจพบทุ่นระเบิดอีก 2 จุด เป็นระเบิดชนิด PMN 2 เช่นเดียวกัน ห่างจากหลุมระเบิดที่เกิดเหตุ 20-30 เซนติเมตร ชี้ชัดว่าวางใหม่เพิ่มเติมอีก เป้าหมายสังหารบุคคลและละเมิดอนุสัญญาออสตาวาชัดเจน เป็นการรุกล้ำอธิปไตยของไทย

งัดยาแรงโต้เขมร-เชิญทูตทหารตปท.แจง

พล.ร.ต.สุรสันต์กล่าวอีกว่า กองทัพยกระดับมาตรการการปฏิบัติเข้มข้นขึ้น โดยหน่วยในพื้นที่ได้รับคำสั่งให้เพิ่มความระมัดระวังในการลาดตระเวน และเตรียมความพร้อมสูงขึ้นตามหลักการปฏิบัติของกฎการใช้กำลังของกองทัพ นอกจากนี้ กองทัพยังมีวาระจะเชิญผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร รวมถึงผู้แทนกองทัพจากประเทศต่างๆ มารับฟังคำชี้แจงเพื่อรับทราบข้อเท็จจริงด้วย ส่วนกรณีปราสาทตาเมือนธม ไทยเขมรได้หารือจัดระเบียบการท่องเที่ยว 3 มาตรการ ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว ป้องกันไม่ไห้เกิดเหตุกระทบกระทั่งระหว่างนักท่องเที่ยวสองประเทศ ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องในการดำเนินการ พร้อมกำหนดมาตรการเพิ่มเติม จัดชุดอาสาสมัครและทหารพรานหญิงมาอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม

กต.แถลงการณ์ประณามชี้ขัดกฎบัตรUN

นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงเพิ่มเติมว่า ที่ประชุม ศบ.ทก.ได้รับรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยืนยัน ทุ่นระเบิดสังหารที่ตรวจพบไม่มีการใช้และไม่ได้อยู่ในคลังอาวุธของไทย เป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ เมื่อประกอบกับประมวลข้อมูลและจากหลักฐานอื่นจากฝ่ายความมั่นคง นำไปสู่ข้อสรุปได้ว่า เป็นการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลโดยฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง โดยกระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม และขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลโดยฝ่ายกัมพูชา เป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย ขัดหลักการพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ ในกฎบัตรสหประชาชาติ ละเมิดต่อพันธะกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อนุสัญญาออสตาวาชัดเจน

ส่งหนังสือประท้วงเขมร-แจงมิตรปท.

“เพื่อรักษาท่าทีผลประโยชน์ของไทย กระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการคือ 1.ประท้วงอย่างเป็นทางการไปยังกัมพูชา เป็นลายลักษณ์อักษร ละเมิดอธิปไตย กฎหมายระหว่างประเทศและมนุษยธรรม และพันธะกรณีตามอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เพราะทำให้ทหารไทยบาดเจ็บทุพพลภาพ”นางมาระตีกล่าว และว่า นอกจากนี้จะดำเนินการตามกระบวนการของอนุสัญญาออสตาวา แจ้งการละเมิดอนุสัญญาต่อประธานการประชุมรัฐภาคี เพื่อให้กัมพูชามารับผิดชอบ รวมถึงเดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ให้มิตรประเทศและองค์การต่างๆทราบ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่มีบทบาทสำคัญต่อภารกิจด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของกัมพูชา เช่นญี่ปุ่น นอร์เวย์ รวมถึงองค์การต่างๆ ที่มีบทบาทในเวทีอนุสัญญาออสตาวา

แจงทูตประจำไทย-แถลงกลางUN

นางมาระตีกล่าวด้วยว่า จะบรรยายสรุปชี้แจงให้คณะทูตประจำประเทศไทยได้รับทราบ และในช่วงสัปดาห์นี้ รมว.การต่างประเทศ ที่อยู่ระหว่างการเดินทางเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ นครนิวยอร์ก โดยจะได้พบผู้แทนระดับสูงจากประเทศต่างๆ จะใช้โอกาสนี้ยืนยันจุดยืนของไทยต่อประชาคมโลก โดยเฉพาะหลักการของไทยที่เน้นแก้ปัญหาโดยสันติวิธี เจรจากรอบทวิภาคี ไทยขอเรียกร้องกัมพูชาให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม ตามแนวชายแดน ตามที่นายกฯของทั้งสองประเทศได้ตกลงกันไว้แล้วภายในกรอบทวิภาคี

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายไทยหวังว่ากัมพูชาจะให้ความร่วมมือเจรจาเจบีซีครั้งต่อไป ที่มีกำหนดจัดช่วงเดือนกันยายน เราเชื่อมั่นว่า จะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียด

ซัดผู้นำเขมรคำพูดกระทำย้อนแย้ง

“ช่วงที่สถานการณ์ละเอียดอ่อน การสื่อสารในสังคมโดยเฉพาะช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยบุคคลระดับสูงของฝ่ายกัมพูชาที่บางครั้งอาจย้อนแย้งกันเอง ทั้งคำพูดและการกระทำ ซึ่งอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิด สร้างความแตกแยกได้โดยไม่ตั้งใจ จึงขอให้ตรวจสอบข้อมูลก่อนนำขึ้นพื้นที่สาธารณะ ขอย้ำว่าการแถลงข้อมูลและการชี้แจงของฝ่ายไทย เราเน้นการสื่อสารผ่านช่องทางทางการ ที่รอบคอบถูกต้องของข้อมูลบนพื้นฐานกฎหมาย ไม่ได้ดำเนินการเพื่อความรวดเร็ว แต่ไม่สนใจความจริงหรือข้อเท็จจริง หรือเพื่อให้ได้รับความนิยมตามกระแสสังคม โดยปราศจากความถูกต้องตามหลักการ”นางมาระตีกล่าว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'ศุภชัย'ยันอดีต'มท.หนู’ผลงานชัด 2 ปีปราบ‘ขบวนการค้ายาเสพติด’ จับ‘ยาบ้า-ไอซ์’ได้เพียบ

กรมอุตุฯอัพเดทเส้นทางพายุโซนร้อน'วิภา'ขึ้นฝั่งวันนี้ ไทยได้รับผลกระทบด้วย 22-24 ก.ค. 

‘สว.กอบ’ขู่ฟันจริยธรรม‘นันทนา’ หลังอภิปรายซ้ำซาก-ไม่เคารพมติ ปมชะลอโหวตองค์กรอิสระ

มทภ.2 รับมอบโดรนลาดตระเวน 10 ล้าน จาก 'กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved