22 กรกฎาคม 2568 พายุโซนร้อน “วิภา” ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคเหนือ กำลังสร้างแรงกดดันครั้งใหญ่ให้กับชุมชนในพื้นที่อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน โดยเฉพาะ 5 ตำบลที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก ได้แก่ ตำบลริม, ศรีภูมิ, ดอนตัน, ป่าคา และผาตอ ซึ่งมีแนวโน้มกลายเป็นศูนย์กลางการรับมวลน้ำจากพายุลูกใหม่นี้
ชาวบ้านในพื้นที่ระบุว่า แม้จะมีการเตรียมพร้อมรับมือพายุวิภาอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นการบรรจุทรายทำแนวกั้นน้ำ หรือเคลื่อนย้ายของขึ้นที่สูง แต่ชุมชนส่วนใหญ่ยังรู้สึก “วิตกอย่างลึกซึ้ง” ว่าความเสียหายจากน้ำท่วมรอบนี้อาจรุนแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
“น้ำจากรอบก่อนเพิ่งลดไปหมาด ๆ บ้านบางหลังยังมีคราบโคลน พายุลูกนี้อาจซ้ำเติมจนเราไม่สามารถฟื้นตัวได้อีก”
นางพนารัตน์ ช่างแย้ม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านดอนตัน กล่าวด้วยความกังวลพืชผลในนาเสี่ยง “ยืนต้นตาย” ครัวเรือนขาดแคลนอาหาร
หนึ่งในความกังวลหลักของชาวบ้าน คือผลกระทบต่อ “นาข้าว” ที่อยู่ในช่วงสำคัญของการเติบโต โดยหากน้ำหลากเข้าท่วมซ้ำ อาจทำให้ต้นกล้าเน่าเสียและยืนต้นตาย ซึ่งจะส่งผลกระทบวงกว้างต่อความมั่นคงทางอาหารของครัวเรือนกว่า 200 หลังคาเรือน
“ถ้าข้าวยืนต้นตาย เราจะไม่มีข้าวกิน ต้องซื้อข้าวถุงมาหุง นี่คือภาวะที่เราเคยเจอช่วงปี 49 และไม่อยากให้มันกลับมาอีก”
ขณะที่ทางราชการไม่ได้นิ่งนอนใจ นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจัดตั้งศูนย์ประสานงานในแต่ละพื้นที่เสี่ยง พร้อมทั้งกำชับให้มีการเตรียม “แผนสำรอง” กรณีต้องอพยพประชาชนอย่างเร่งด่วน
นอกจากนี้ยังมีการจัดเตรียม จุดแจกจ่ายข้าวสาร อาหารแห้ง และน้ำดื่ม จากคลังสำรองระดับจังหวัด เพื่อช่วยเหลือครัวเรือนที่อาจถูกตัดขาดจากเส้นทางคมนาคมหากน้ำเอ่อล้นถนนสายหลัก มุมมองนักวิเคราะห์: “น้ำท่วมซ้ำซาก คือปัญหาเชิงโครงสร้าง”
นักวิเคราะห์ด้านสิ่งแวดล้อมจากเครือข่ายเฝ้าระวังลุ่มน้ำย่อยน่านกลาง ระบุว่า ปัญหาน้ำท่วมในอำเภอท่าวังผาไม่ได้เป็นเพียงภัยธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังสะท้อน ปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น การขาดระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพ การใช้พื้นที่ริมแม่น้ำน่านโดยไม่เว้นเขต buffer และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงขึ้น
“เราจำเป็นต้องออกแบบเมืองและระบบเกษตรใหม่ให้รับมือกับน้ำมากเกินหรือน้อยเกินได้ ไม่ใช่แค่เยียวยาทีละรอบ”
สถานการณ์ในอำเภอท่าวังผาภายใต้การมาถึงของ “พายุวิภา” ไม่ได้เป็นเพียงข่าวรายวัน แต่คือความเป็นความตายทางเศรษฐกิจของชุมชนริมแม่น้ำน่านที่ต้องเผชิญกับภัยซ้ำซ้อน ทั้งจากธรรมชาติและความเปราะบางทางโครงสร้าง หากไม่มีการจัดการเชิงระบบอย่างจริงจัง ท่าวังผาอาจเป็นภาพจำของ “ภัยพิบัติซ้ำซาก” ที่ไม่เคยได้รับการแก้ไขอย่างยั่งยืน.
012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี