วันศุกร์ ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ตร.ไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการ 'MONEY CASH BACK' ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน EP.18-19

ตร.ไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการ 'MONEY CASH BACK' ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน EP.18-19

วันพุธ ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 16.35 น.
Tag : ตามล่าม้า ตำรวจไซเบอร์ ปิดบัญชี
  •  

ตร.ไซเบอร์ปฏิบัติการ“MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน EP.18-19” ให้เหยื่อ 2 ราย เสียหายรวมกว่า 24.5 ล้าน อายัดทัน 1.5 ล้าน  หลังรวบบัญชีม้าแก๊งปลอมเป็นตร.ขอนแก่น ขู่เอี่ยวค้ามนุษย์ พร้อมล่าขบวนการเนียนตีซี้แล้วหลอกลงทุน 

วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ที่ บก.สอท.2 (เมืองทองธานี) นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอผบช.สอท.,พล.ต.ต.ศิริวัฒน์  ดีพอ ผบก.สอท.1 และ พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว “MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน EP.18-19 โดยก่อนหน้านี้ สามารถจับกุมเครือข่ายบัญชีม้าของขบวนการหลอกลวงออนไลน์ และสามารถติดตามนำคืนให้แก่ผู้เสียหายตามขั้นตอนในโครงการ “MONEY CASH BACK” ไปแล้วหลายครั้ง รวมจำนวนเงินกว่า 227.5 ล้านบาท โดยล่าสุดได้มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ จำนวน 2 ราย รวมความเสียหายกว่า 24.5 ล้านบาท รายละเอียดดังนี้


กรณีที่ 1 รวบบัญชีม้าแก๊งปลอมเป็นตำรวจขอนแก่นขู่เอี่ยวค้ามนุษย์ เสียหายกว่า 5.5 ล้าน อายัดทัน 5 แสน ผู้เสียหายเป็นอดีตข้าราชการครูบำนาญ อายุ 72 ปี อาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้มีมิจฉาชีพโทรหาแอบอ้างตัวว่าชื่อ “หมวดบอน” เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด สภ.เมืองขอนแก่น โดยแจ้งว่าบุตรสาวอายุ 3 ขวบของผู้เสียหาย ถูกทำร้ายร่างกายและอยู่ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ขอนแก่น แต่ความจริงแล้วผู้เสียหายไม่มีบุตรสาวแต่อย่างใด จึงได้ปฏิเสธ

ต่อมาคนร้ายขู่ว่า ผู้เสียหายโดนแอบอ้างชื่อ จึงให้ผู้เสียหายไปแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ แต่ระยะทางค่อนข้างไกล ผู้เสียหายจึงไปไม่ได้ คนร้ายจึงอาสาดำเนินการให้ โดยแจ้งว่าได้ประสานแพทย์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ขอนแก่น ชื่อ นายแพทย์นนทวัฒน์ ศรีเฝ้า ให้เข้าไปแจ้งความแทนที่ สภ.เมืองขอนแก่น เสร็จแล้วจึงวางสายไป

หลังจากนั้น ได้มีคนร้ายอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรหาผู้เสียหายอีกครั้ง แล้วได้แจ้งว่า ต้องติดต่อกันผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์เท่านั้น ซึ่งขณะนั้นผู้เสียหายไม่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่สามารถใช้บัญชีไลน์ได้ ผู้เสียหายจึงเดินทางไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่ตลาดกบินทร์บุรี โดยให้พนักงานร้านช่วยลงทะเบียนซิมและเปิดบัญชีไลน์ให้ ผู้เสียหายจึงได้แอดไลน์ชื่อ “สภ.เมืองขอนแก่น” และติดต่อกันในที่สุด

ต่อมา คนร้ายสั่งให้ผู้เสียหายส่งภาพบัตรประจำตัวประชาชนให้ดูเพื่อตรวจประวัติ จากนั้นคนร้ายแจ้งว่าผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีค้ามนุษย์ ต้องมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินโดยให้มีเจ้าหน้าที่ ปปง. เป็นผู้ตรวจสอบ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ คนร้ายจึงสั่งให้โอนเงินไปรวมจำนวน 6 ครั้ง รวมความเสียหายทั้งสิ้น 5,520,000 บาท

จากกรณีดังกล่าว พ.ต.อ.ขจร อบทอง รอง ผบก.สอท.2 ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในขบวนการ จนสามารถออกหมายจับได้แล้วหลายราย โดยล่าสุด พ.ต.อ.มนต์ขัย บุญเลิศ ผกก.2 บก.สอท.2 ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ศุภณัฎฐ์ เกตุแก้ว สว.กก.2 บก.สอท.2 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาในขบวนการ จนสามารถจับกุมตัวได้แล้วจำนวนหลายราย ในข้อหา “''ฉ้อโกง

โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง''

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถประสานงานธนาคารเพื่ออายัดเงินในบัญชีธนาคารของนายติณณภพฯ หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาไว้ได้เป็นจำนวน 500,000 บาท เบื้องต้น มารดาและน้องชายของนายติณณภพฯ ผู้ต้องหา ให้ถ้อยคำว่า นายติณณภพ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินที่อายัดไว้ จึงไม่โต้แย้งในกรรมสิทธิ์ และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมอบเงินในบัญชีตามจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่ผู้เสียหาย

กรณีที่ 2 ล่าขบวนการเนียนตีซี้หลอกลงทุน เสียหายกว่า 19 ล้าน อายัดทัน 1 ล้าน ได้มีผู้เสียหายรายหนึ่งถูกคนร้ายปลอมโปรไฟล์เป็นบุคคลหน้าตาดีติดต่อหาผ่านทางเฟซบุ๊ก จากนั้นได้ชักชวนพูดคุยตีสนิทจนเชื่อใจ เมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่ง คนร้ายได้ชักชวนให้ผู้เสียหายลงทุนผ่านเว็บไซต์ ชื่อ “GRWTOP” โดยคนร้ายได้แสดงข้อมูลกำไรที่อ้างว่าตนได้รับจากการลงทุนให้ผู้เสียหายดู ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้เริ่มโอนเงินลงทุน

เมื่อลงทุนแล้ว คนร้ายได้แสดงตัวเลขผลกำไรในแพลตฟอร์มให้ผู้เสียหายดู แล้วหว่านล้อมให้ลงทุนเพิ่มและไม่ให้ถอนเงิน โดยทุกครั้งที่ลงทุนก็จะเห็นตัวเลขยอดผลกำไรในแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผู้เสียหายจึงนำเงินเก็บของตนเองมาลงทุนเพิ่มอีกหลายครั้ง ต่อมาผู้เสียหายต้องการถอนเงินลงทุนคืน แต่กลับไม่สามารถถอนได้ และคนร้ายก็ไม่ตอบแชท จึงรู้ตัวว่าโดนหลอกลวง รวมโอนเงินไปทั้งหมด 33 ครั้ง ผ่านบัญชีคนร้าย 25 บัญชี รวมความเสียหายกว่า 19 ล้านบาท

จากกรณีดังกล่าว พ.ต.อ.สุวัฒชัย ศรีทองสุข รอง ผบก.ตอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้สืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับได้หลายราย รวมทั้ง นายสุรศักดิ์ฯ หนึ่งในเจ้าของบัญชีที่ผู้เสียหายโอนเงินไปให้ซึ่งจะเร่งติดตามจับกุมตัวต่อไป

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถประสานงานธนาคารเพื่ออายัดเงินในบัญชีธนาคารของนายสุรศักดิ์ฯ หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาไว้ได้เป็นจำนวน 1,000,000 บาท ซึ่งมีเส้นทางการเงินและหลักฐานชัดเจนจนเชื่อได้ว่าเป็นเงินของผู้เสียหายจริง

จากทั้ง 2 ปฏิบัติการดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามอายัดเงินได้จำนวน 1,500,000 บาท

โดยวันนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดติดตามคดี จึงได้ร่วมกันนำเงินจำนวนดังกล่าว มอบคืนให้แก่ผู้เสียหายทั้ง 2 ราย ตามโครงการ “MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้าคว้าเงินคืน”
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ล้างบาง‘ก๊ก อาน’! ตำรวจไซเบอร์ออกหมายจับ‘ลูกชาย-ลูกสาว’ ค้น 7 จุดขยายผลแก๊งคอลฯ ล้างบาง‘ก๊ก อาน’! ตำรวจไซเบอร์ออกหมายจับ‘ลูกชาย-ลูกสาว’ ค้น 7 จุดขยายผลแก๊งคอลฯ
  • ‘สอท.’ส่งสำนวนคดีคลิปเสียง‘ฮุนเซน-อิ๊งค์’ถึงอสส. ผิดมากกว่า 1 คน จ่อหมายจับอินเตอร์โพล ‘สอท.’ส่งสำนวนคดีคลิปเสียง‘ฮุนเซน-อิ๊งค์’ถึงอสส. ผิดมากกว่า 1 คน จ่อหมายจับอินเตอร์โพล
  • \'ตร.ไซเบอร์\'จ่อชง\'อสส.\'เอาผิด\'ฮุนเซน\'ปมคลิปเสียง 14 ก.ค.นี้ เอาผิด ม.116 -พ.ร.บ.คอมฯ 'ตร.ไซเบอร์'จ่อชง'อสส.'เอาผิด'ฮุนเซน'ปมคลิปเสียง 14 ก.ค.นี้ เอาผิด ม.116 -พ.ร.บ.คอมฯ
  • อาจผิด‘พรบ.คอมฯ’ ‘ตร.ไซเบอร์’ลุยสอบคลิปเสียง‘นายกฯ’คุย‘ฮุนเซน’ อาจผิด‘พรบ.คอมฯ’ ‘ตร.ไซเบอร์’ลุยสอบคลิปเสียง‘นายกฯ’คุย‘ฮุนเซน’
  • ตำรวจไซเบอร์ชี้ชัด เส้นทางเงิน‘ทิดแย้ม’ ไม่เชื่อมโยงเว็บพนัน ตำรวจไซเบอร์ชี้ชัด เส้นทางเงิน‘ทิดแย้ม’ ไม่เชื่อมโยงเว็บพนัน
  • ตร.ไซเบอร์บุกทลายเว็บพนันพบมีเงินหมุนกว่า 120 ล้านบาท ตร.ไซเบอร์บุกทลายเว็บพนันพบมีเงินหมุนกว่า 120 ล้านบาท
  •  

Breaking News

‘จิราพร’สั่งล้มผังรายการ NBT เกาะติดสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หนุนภารกิจการสื่อสารหน่วยงานรัฐ 24 ชม.

คนดังฉะเดือด! เสนอ'ปราบให้ราบคาบ'ก่อนสร้างสันติภาพ พ่วง'ถล่มปอยเปต'ปิดจ๊อบคอลเซ็นเตอร์!

ไทม์ไลน์สุรินทร์! ปะทะเดือดปราสาทตาเมือนธม-ปราสาทตาควาย

ด่วน! สถานทูตไทยในพนมเปญ สั่งคนไทยอพยพออกจากกัมพูชาเร็วที่สุด

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved