ฮือฮา! เปิดตัวศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญไมโครไบโอมทางการแพทย์และเทคโนโลยีจุลินทรีย์เพื่อสุขภาพหนึ่งเดียว (MMOH)
เปิดตัวศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านไมโครไบโอมทางการแพทย์และเทคโนโลยีจุลินทรีย์เพื่อสุขภาพหนึ่งเดียว (MMOH) “ศูนย์กลางกำลังคนทักษะสูงแห่งแรกของไทยในด้านไมโครไบโอมและสุขภาพหนึ่งเดียว – ขับเคลื่อนวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตแห่งอนาคต”
วันที่ 24 ก.ค.68 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยสถาบันฟีโนมแห่งชาติ และเครือข่ายมหาวิทยาลัยชั้นนำ และภาคอุตสาหกรรมจากทั่วประเทศ ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการ “ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านไมโครไบโอมทางการแพทย์และเทคโนโลยีจุลินทรีย์เพื่อสุขภาพหนึ่งเดียว (Hub of Talents in Microbiome Medicine and Microbial Technology for One Health: MMOH)” ณ ห้อง กมลมาศ ชั้น 6 โรงแรมเดอะ สุโกศล กรุงเทพฯ
โดยศูนย์ MMOH ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก วช. จำนวน 2 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดตั้งศูนย์กลางกำลังคนทักษะสูงที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไมโครไบโอมและเทคโนโลยีจุลินทรีย์ เพื่อตอบโจทย์นโยบายสุขภาพหนึ่งเดียว (One Health) และการแพทย์แม่นยำ (Precision Medicine) อย่างแท้จริง
หลักการและความจำเป็นในการจัดตั้งศูนย์ MMOH ประเทศไทยกำลังเผชิญความท้าทายจากปัญหาสุขภาพเรื้อรัง โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) การดื้อยาปฏิชีวนะ และภาวะภูมิคุ้มกันเสื่อมถอยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ความก้าวหน้าทางไมโครไบโอมได้กลายเป็นหัวใจสำคัญของการแพทย์ยุคใหม่ที่สามารถอธิบายความหลากหลายระหว่างบุคคล และนำไปสู่แนวทางการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล การจัดตั้งศูนย์ MMOH จึงเกิดขึ้นเพื่อสร้าง “ฮับ” ทรัพยากรมนุษย์ที่มีความสามารถสูง ความรู้ และเทคโนโลยี โดยรวบรวมผู้เชี่ยวชาญจาก 4 สาขาหลัก ประกอบด้วย 1) วิทยาศาสตร์สุขภาพและการแพทย์ 2) อาหารและยา 3)เทคโนโลยีชีวภาพทางการแพทย์ และ 4) เกษตรและสิ่งแวดล้อม ซึ่งครอบคลุมทั้งแนวรุกเชิงสุขภาพ การพัฒนาอุตสาหกรรมโภชนาการเฉพาะบุคคล รวมถึงการวิจัยเพื่อการป้องกันโรคและการใช้จุลินทรีย์เชิงประโยชน์ในระบบนิเวศของมนุษย์ สัตว์ พืช และสิ่งแวดล้อม
พันธกิจของศูนย์ MMOH
1. พัฒนากำลังคนทักษะสูงให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน microbiome-based medicinal products (MMPs) และ microbial biotechnology
2. ผลักดันงานวิจัยและผลิตภัณฑ์สู่คลินิกอย่างรวดเร็ว ด้วยความร่วมมือระหว่างแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ และภาคอุตสาหกรรม
3. พัฒนานโยบายและระบบมาตรฐานรับรองผลิตภัณฑ์ไมโครไบโอมในประเทศไทย
4. เพิ่มการมองเห็นของงานวิจัยไมโครไบโอมของนักวิจัยไทยสู่ระดับนานาชาติ
5. สร้างเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญและสถาบันพันธมิตรจากนานาประเทศ เช่น Murdoch University ประเทศออสเตรเลีย Imperial College London สหราชอาณาจักรฯ Zhejiang University และ Fudan University ประเทศจีน เป็นต้น
รศ.พญ.สุชาอร แสงนิพันธ์กูล หัวหน้าศูนย์ MMOH กล่าวว่า “MMOH คือโครงสร้างพื้นฐานเชิงยุทธศาสตร์ที่เชื่อมโยงองค์ความรู้ วิจัย และเทคโนโลยี เพื่อสร้างระบบสุขภาพที่ทันสมัยและแม่นยำให้กับประเทศไทยและอาเซียน”
คุณศิรินทร์พร เดียวตระกูล รองผู้อำนวยการ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวว่า “ประเทศไทยจำเป็นต้องมีศูนย์กลางวิชาการที่สามารถตอบโจทย์ BCG Economy Model และขับเคลื่อนสู่การแพทย์และเศรษฐกิจชีวภาพอย่างยั่งยืน”
รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่ามหาวิทยาลัยขอนแก่นและสถาบันฟีโนมแห่งชาติพร้อมสนับสนุนให้ MMOH เป็นพื้นที่บ่มเพาะบุคลากรรุ่นใหม่ และต่อยอดการวิจัยเชิงลึกไปสู่ภาคอุตสาหกรรม” -
คุณนิจพร จงอุดมฤกษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มด กัต จำกัด กล่าวว่า “ภาคเอกชนต้องการศูนย์กลางแบบ MMOH มาช่วยเชื่อมโยงผลวิจัยสู่การออกแบบผลิตภัณฑ์สุขภาพแบบ Personalisation อย่างจริงจัง”
ผศ.ดร.จุฑารพ เพชระบูรณิน รองหัวหน้าศูนย์ฯ และ ผอ.สถาบันฟีโนมแห่งชาติ กล่าวว่า "ประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นผู้นำด้าน Microbiome Medicine และการใช้เทคโนโลยีจุลินทรีย์เพื่อสุขภาพอย่างยั่งยืน และ MMOH จะเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตคนไทยและประชาคมโลก"
037
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี