นครพนม-แม่พลทหารกล้ายังไม่เชื่อ เผยลูกยื่นสมัครขอไปรับใช้ชาติ ปลดแล้วจะสอบเป็น ตชด. ภูมิใจพลีชีพปกป้องอธิปไตย
วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้าน ต.เหล่าพัฒนา อ.นาหว้า จ.นครพนม ซึ่งญาติๆกำลังทำความสะอาดเพื่อเตรียมจัดเป็นที่ตั้งบำเพ็ญศพ พลทหารวรัญชิต ยวงสุวรรณ หรือแม็ก อายุ 23 ปี กำลังพลประจำการกรมทหารราบที่ 13 (ร.13) ค่ายประจักษ์ศิลปาคม จังหวัดอุดรธานี เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านโนนวันชัย ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยร่างของวีรบุรุษผู้กล้า กองทัพภาคที่ 2 เตรียมส่งกลับคืนภูมิลำเนา เพื่อจัดพิธีสดุดีอย่างสมเกียรติ
โดยบ้านดังกล่าวมีนายปัญญา อายุ 68 ปี ที่ป่วยด้วยโรคอัมพฤกษ์ และ นางเปลี่ยน อายุ 70 ปี ผู้เป็นตายายนั่งเฝ้าคอยทางรอหลานชาย ขณะเดียวกันนายมนตรี อายุ 48 ปี ผู้เป็นพ่อประคองนางวลัยลักษณ์อายุ 47 ปี แม่ของพลทหารวรัญชิตที่ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ดังกล่าว
นางวลัยลักษณ์ เปิดเผยด้วยน้ำตานองหน้าว่า มีลูกเพียงสองคน หญิงหนึ่งชายหนึ่ง น้องแม็กเป็นลูกคนที่สอง เรียนจบชั้น ม.3 ครบกำหนดคัดเลือกทหารก็ยื่นใบสมัครขอไปรับใช้ชาติ เพราะมีความใฝ่ฝันอยากเป็นทหารนานแล้ว แต่สอบเข้านายสิบไม่ได้ จึงสมัครเป็นทหารอยู่ จ.อุดรธานี และเหลือเพียง 3 เดือนก็จะปลดประจำการ แต่จะสมัครสอบไปเป็นตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ฝันทุกอย่างต้องสลายจากการปะทะกับทหารกัมพูชา
“ครั้งล่าสุดน้องไปประจำการอยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.ศรีสะเกษ ได้ลากลับมาเยี่ยมบ้านเมื่อวันที่ 3 กค.กลับไปวันที่ 8 กค. ไม่คิดว่านี่คือการกลับมาเป็นครั้งสุดท้ายของลูก วันเกิดเหตุวันที่ 24 กค. เวลาประมาณ 09.00 น. น้องโทรมาคุยด้วยว่าจะมีการปะทะกัน นายสั่งให้ไปบรรจุกระสุนแล้ว ก่อนจะรีบวางสายไป ตนก็ยังขอให้คุณพระคุ้มครองฯ”
ต่อมา เพื่อนทหารได้ลงในเฟซบุ๊กแสดงความเสียใจในการจากไปของพลทหารวรัญชิต ยวงสุวรรณ ตนยังคอมเม้นต์ตอบไปว่าอย่าลงข่าวมั่วๆ เพราะไม่เชื่อว่าเหตุการณ์มันจะเกิดรวดเร็วอย่างนี้ เพราะเพิ่งวางสายคุยกับลูกได้ไม่นาน กระทั่งเวลาประมาณ 6 โมงเย็น เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานมาหาที่บ้าน พร้อมแจ้งความร้ายตนถึงกับช็อค ถึงตอนนี้ก็ยังไม่อยากเชื่อ จนกว่าจะเห็นศพลูก พร้อมภาวนาอย่าให้เป็นเรื่องจริง
อย่างไรครอบครัวก็มีความภาคภูมิใจที่ลูกได้ทำหน้าที่รับใช้ชาติ ปกป้องอธิปไตยไทย และขอบคุณประชาชนชาวไทยที่ส่งกำลังใจให้อย่างล้นหลาม แต่ตอนนี้ไม่กล้าเปิดเฟซบุ๊กเพราะทำใจยอมรับไม่ได้ ในการจากไปของลูกชาย
“เขาไปเป็นทหารจะเจียดเงินเดือนส่งให้แม่ช่วยสร้างบ้านเดือนละ 5 พันบาท ตอนนี้คงชะลอไว้ก่อน รอให้จิตใจเข้มแข็งกว่านี้ถึงจะสร้างใหม่”
ด้าน น.ส.เชอรี่ลิณญ์ อายุ 25 ปี พี่สาวของพลทหารวรัญชิต ก็มีสภาพจิตใจไม่ต่างกันกับผู้เป็นแม่ เพราะมีกันแค่สองพี่น้อง และรักน้องชายมาก ถึงกระนั้นยังภมิใจที่น้องสละชีพเพื่อชาติ และจะเก็บเรื่องราวนี้ไว้สอนลูกหลานต่อไปในอนาคต
สำหรับศพทหารกล้าคาดว่า กองทัพภาคที่ 2 จะนำร่างมาส่งมอบให้ญาติในวันเสาร์ที่ 26 กค.นี้ โดยจะมีพิธีสดุดีวีรบุรุษอย่างสมศักดิ์ศรี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี