“อรรถกร” ถก “ฟรุ๊ตบอร์ด” ไฟเขียวโครงการพัฒนาสวนลำไยคุณภาพตัดแต่งทรงพุ่ม/ช่อผล ทุ่มงบ เตรียมชง ครม. ของบ1,000 ล้าน เพิ่มลำไยเกรด A-AA หวังเพิ่มรายได้เกษตรกร
วันนี้ (25 ก.ค.) นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ครั้งที่ 5/2568 โดย นายอรรถกร กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติ ดำเนินการแก้ไขปัญหาลำไยที่คาดว่าจะมีปริมาณผลออกสู่ตลาดสูงกว่าปีที่ผ่านมา และจะเริ่มกระจุกตัวในเดือน ก.ค.-ส.ค.นี้ โดยเห็นชอบโครงการพัฒนาสวนลำไยคุณภาพตัดแต่งทรงพุ่ม/ช่อผล ฟื้นฟูสวนลำไย เพื่อเพิ่มรายได้ โดยเป็นโครงการที่มุ่งเน้นสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในระยะยาว ยกระดับลำไยคุณภาพ สร้างมูลค่าเพิ่ม และวางระบบการตลาดที่ยั่งยืน สร้างความมั่นคงในอาชีพชาวสวนลำไย สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคลำไยไทยในตลาดโลก โดยสนับสนุนค่าตัดแต่งทรงพุ่ม กิ่ง - ช่อผล ปัจจัยการผลิต อัตราไร่ละ 1,400 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ต่อครัวเรือน กรอบวงเงิน 1 พันล้านบาท โดยมีเงื่อนไขตามที่โครงการกำหนด อาทิ ตัดแต่งทรงพุ่ม/ช่อผล ฟื้นฟูสวนลำไย และผ่านการอบรมการผลิตลำไยคุณภาพ
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไยในระยะยาว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไยใน 8 จังหวัดภาคเหนือ (เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย พะเยา ลำปาง ตาก แพร่ และน่าน) มุ่งให้เกษตรกรชาวสวนลำไยสามารถเพิ่มสัดส่วนลำไยให้เป็นลำไยคุณภาพเกรด A และ AA ให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ผลผลิตมีราคาเพิ่มขึ้น ยกระดับรายได้เกษตรกรชาวสวนลำไย โดยมีพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 600,000 ไร่ โดยเตรียมนำเสนอโครงการดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
“จากสถานการณ์ผลผลิตลำไยที่คาดว่าจะออกสู่ตลาดในปริมาณมาก กระทรวงเกษตรฯ ขอยืนยันว่าเรากำลังเร่งแก้ปัญหาให้ชาวสวนลำไย โดยมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และวางแผนกำหนดมาตรการทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาว เพื่อช่วยเหลือชาวสวนลำไย พร้อมทั้งมุ่งยกระดับมาตรฐานการผลิตสู่การแข่งขันในตลาดโลกอย่างยั่งยืน” นายอรรถกร กล่าว
นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังดำเนินมาตรการที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไยควบคู่กันไป ได้แก่ 1.มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรเร่งด่วน เพื่อเร่งระบายลำไยออกจากระบบ เตรียมพร้อมกระจายลำไยที่กำลังออกผลผลิตสู่ตลาด ประกอบด้วย 1.1 มาตรการสินเชื่อเพื่อซื้อลำไยเพื่อแปรรูปอบแห้งปลอดดอกเบี้ย โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมวิชาการเกษตรร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) 1.2 มาตรการกระจายผลผลิตลำไยสด โดยองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กระทรวงศึกษาธิการ บริษัท 100 Set Modern Trade ทัณฑสถาน และหน่วยงานเอกชน 2.มาตรการด้านการตลาดและสื่อสาร (KOL) ส่งเสริมตลาดออนไลน์ และ 3.มาตรการแรงงานเก็บเกี่ยว โดยประสานหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายแรงงานสำหรับเก็บเกี่ยวผลผลิตที่จะออกกระจุกตัว
สำหรับข้อมูลสรุปผลการเก็บเกี่ยวผลไม้ภาคเหนือ (ลำไย) และผลไม้ภาคใต้ (ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง) ปี 2568 (ข้อมูล ณ วันที่ 22 กรกฎาคม 2568) ดังนี้ ลำไย (สดช่อ) ปริมาณผลผลิตทั้งหมด 67,653.44 ตัน หรือ 31.39 % ซึ่งกำลังจะเข้าสู่ช่วงผลผลิตกระจุกตัว โดยปริมาณผลผลิต ในช่วงเดียวกัน คือเดือนมิถุนายน ถึง เดือนกรกฎาคม พบว่า ปี 2568 มีปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับ 2 ปีที่ผ่านมา มีราคาเฉลี่ย 34.71 บาท/กก. ส่วนลำไย (รูดร่วง) ปริมาณผลผลิตทั้งหมด 61,165.50 ตัน 11.65 % ซึ่งกำลังจะเข้าสู่ช่วงผลผลิตกระจุกตัวในเดือนสิงหาคม มีราคาเฉลี่ย 24.23 บาท/กก. ทุเรียน เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว 270,693.56 ตัน หรือ 57.60 % ราคาเฉลี่ย 96 บาท/กก. มังคุด เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว 64,325.24 ตัน หรือ 73.94 % ราคาเฉลี่ย 30 บาท/กก. เงาะ เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว 11,534.66 ตัน หรือ33.99 % ราคาเฉลี่ย 38 บาท/กก. ลองกอง เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว 329.05 ตัน 3.41 % ราคาเฉลี่ย 40 บาท/กก.
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังได้รับทราบและติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงานด้านต่างๆ อาทิ การแก้ไขปัญหาอุปสรรคการค้าผลไม้ของประเทศไทย โดย รมว.เกษตรฯ ยังคงเน้นย้ำคุมเข้มมาตรการควบคุมการปนเปื้อนสารห้ามใช้ในทุเรียนผลสดส่งออกไปสาธารณรัฐประชาชนจีน หากตรวจพบว่ามีการปนเปื้อนสารได้กำชับให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาด
015
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี