น่านน้ำท่วมยังวิกฤต

ระดมช่วยโรงพยาบาล

อุตุเตือนฝนถล่ม

4จังหวัดเฝ้าระวัง

กรมอุตุฯ เตือน 4 จังหวัด รับมือฝนตกหนัก ส่วน จ.น่าน ยังวิกฤตบางจุดท่วมสูง 2 เมตร แม้น้ำเริ่มลด ระดมความช่วยเหลือ รพ.น่าน ขณะที่วัดพระธาตุแช่แห้ง ตั้งศูนย์อพยพฯ พระ-ชาวบ้าน ร่วมประกอบอาหารช่วยเหลือผู้ประสบภัย ด้าน จ.แม่ฮ่องสอน เกิดดินสไลด์ทับเส้นทาง ชาวบ้านแม่สามแลบ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก และกาญจนบุรี ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังค่อนข้างแรง ขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 1 วัน

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง สุโขทัย ตาก และกำแพงเพชร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี และกาญจนบุรี ส่วน กทม.และปริมณฑล มีฝนหรือฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ภาคตะวันออก มีฝนหรือฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนหรือฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนหรือฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.ระนอง และพังงา ตั้งแต่ จ.พังงา ขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ตั้งแต่ จ.ภูเก็ต ลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร

ที่ จ.น่าน วันเดียวกัน สถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองน่าน ยังอยู่ในภาวะวิกฤต แม้ว่าระดับน้ำเริ่มลดลงเฉลี่ย 3–4 เซนติเมตรต่อชั่วโมง แต่หลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขังสูง 2 เมตร และบางพื้นที่ยังมีน้ำไหลเชี่ยว ส่งผลให้การเข้าถึงความช่วยเหลือทำได้อย่างจำกัด โดยนายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน เปิดเผยว่า ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะภารกิจลำเลียงผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์จาก รพ.น่าน ซึ่งเป็นพื้นที่วิกฤต ขณะที่กองพลพัฒนาที่ 3 จังหวัดพิษณุโลก ได้ส่งกำลังพล 13 นาย พร้อมเรือท้องแบน 5 ลำ เข้าให้การช่วยเหลือที่ รพ.น่าน

อย่างไรก็ตาม สำหรับ รพ.น่าน ได้เผชิญกับปัญหาน้ำท่วมกว่า 48 ชั่วโมงแล้ว โดยระดับน้ำลดลงเหลือประมาณ 90 เซนติเมตร แม้ว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงบ้าง แต่ยังไม่สามารถกลับมาเปิดให้บริการตามปกติได้ โดยทีมแพทย์ พยาบาล เภสัชกร และเจ้าหน้าที่ ยังคงอยู่ในพื้นที่ เพื่อดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มกำลัง โรงพยาบาลยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายในขณะนี้ ต้องรอให้น้ำลด จึงเข้าสำรวจอย่างละเอียด

ส่วนวัดพระธาตุแช่แห้ง ได้เปิดศูนย์อพยพชั่วคราว โดยชุมชนบ้านหนองเต่า อ.ภูเพียง ซึ่งยังคงถูกตัดขาดจากกระแสน้ำ ชาวบ้านและพระภิกษุ ได้ร่วมกันจัดสถานที่ประกอบอาหาร แจกจ่ายให้ผู้ประสบภัย

ที่ จ.แม่ฮ่องสอน วันเดียวกัน นายพงษ์พิพัฒน์ มีเบญจมาศ นายก อบต.แม่สามแลบ เปิดเผยว่า จากผลกระทบของพายุวิภา ส่งผลให้เกิดดินสไลด์ปิดทับเส้นทางการสัญจร ถนนทางหลวง หมายเลข 1194 แม่สะเรียง–แม่สามแลบ ก่อนถึงบ้านแม่สามแลบ ทำให้รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ ทาง อบต.ได้ประสานไปยังหมวดทางหลวงแม่สะเรียง นำเครื่องจักรเข้ามาดำเนินการเพื่อเปิดเส้นทางแล้ว

ด้านศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) บ้านโตแฮ หมู่ 5 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน นายธนสิทธิ์ ผ่องใสวนาลัย ครูผู้สอนได้โพสต์ภาพผ่านเฟซบุ๊ค Vit Thanasit ในส่วนของผลกระทบจากพายุวิภา ที่ทำให้มีฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง ส่งผลให้หลังคาอาคารเรียนได้รับความเสียหาย ครูต้องพานักเรียนวิ่งหลบไปในพื้นที่ปลอดภัย ส่วนความเสียหายอื่นๆ อยู่ระหว่างการสำรวจ

นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเข้า-ออกหลายหมู่บ้าน ที่ได้รับผลกระทบ โดยมีต้นไม้หักโค่นปิดทับเส้นทาง เช่น เส้นทางอุทยานแห่งชาติสาละวิน ไปบ้านห้วยห้อม ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง ชาวบ้านต้องพากันยกรถข้ามต้นไม้ ที่ล้มขวาง สำหรับเส้นทางดังกล่าวมักจะเกิดดินสไลด์ในห้วงฤดูฝน สร้างความลำบากให้กับผู้ที่ต้องใช้เส้นทางเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงการลำเลียงผู้ป่วยหนักจากหมู่บ้านที่ติดชายแดน ไปรักษาตัว