ระทึก! รถหุ้มเกราะทหารตกถนน เจ็บ 7 นายในจำนวนนี้สาหัส 2 นาย ขณะลาดตระเวนชายแดนตราด ขณะชาวบ้านชำรากอพยพรับสถานการณ์ชายแดนตึงเครียด
วันที่ 26 ก.ค.68 จากสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนจังหวัดตราด หลังจากเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชาในพื้นที่ตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด เมื่อช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมาและทางกองกำลังป้องกันจันทบุรีและตราดได้ทำการยิงตอบโต้ภายใต้ ยุทธการ “ตราดพิฆาตไพรี 1”
ล่าสุดมีรายงานข่าวจากโรงพยาบาลตราดว่าเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันขึ้นโดยรถยนต์หุ้มเกราะลาดตระเวนของทหารได้ประสบเหตุตกถนนระหว่างการลาดตระเวนตามแนวชายแดน ส่งผลให้มีทหารได้รับบาดเจ็บถึง 7 นายในจำนวนนี้มี 2 นายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งทั้งหมดถูกนำตัวส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตราดทันที
ในขณะที่สถานการณ์ชายแดนยังคงมีความไม่แน่นอน ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศในตำบลชำรากเมื่อช่วงสายวันนี้ (10.00 น.) หลังจากที่จังหวัดตราดได้สั่งอพยพประชาชนในพื้นที่ตำบลชำรากไปอยู่ในตัวเมืองตราดเพื่อความปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในพื้นที่ ตั้งแต่เทศบาลตำบลชำราก ทางเข้าวัดชำราก และเส้นทางขึ้นสู่ยุทธการชำราก แลดูเงียบสงบ บ้านเรือนส่วนใหญ่ปิดเงียบ มีเพียงบางหลังคาเรือนที่ยังคงเฝ้าบ้านอยู่ เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากการปะทะที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำอีก มีแต่เพียงชุด ชรบ. (ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน) และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลชำรากที่ยังคงทำงานและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แม้กระทั่งร้านสะดวกซื้อ 7-11 ก็ต้องปิดให้บริการในเวลา 10.30 น. และเร่งขนย้ายสินค้าออกไป เพื่อความปลอดภัย
นายบุญธรรม ไทรใหญ่ อดีตสารวัตรกำนันตำบลชำราก เปิดเผยว่า ตนเองและภรรยาไม่ได้อพยพไปอยู่ในตัวเมืองตราดเหมือนคนอื่นๆ เนื่องจากต้องการเฝ้าบ้าน แต่ได้ให้ลูกหลานไปแทน อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา ได้ยินเสียงปืนและการสู้รบกัน โดยเริ่มต้นจากระเบิดควันและพลุไฟที่สว่างไปทั่วภูเขา ก่อนจะมีเสียงปืนยิงปะทะกันอยู่นาน และก็เงียบหายไปในช่วงเช้า
นายบุญธรรมกล่าวว่า สถานการณ์ครั้งนี้ไม่น่ากลัวเหมือนในอดีตที่สองฝ่ายเคยสู้รบกันอย่างดุเดือด สำหรับตนเองยังเกรงว่าสถานการณ์อาจจะยังไม่สงบและอาจจะต้องอพยพตามไปในตัวเมืองเช่นกัน ด้านชาวบ้านรายอื่นๆ เช่น น้องวริศรา มุสิกวงศ์ ที่นอนอยู่ในบ้านคนเดียวบอกว่า ไม่กล้าอพยพไปที่ตัวเมืองเพราะห่วงบ้าน จึงได้หลบอยู่ในบ้านเพียงอย่างเดียวและรู้สึกกลัว แต่ในช่วงนี้จะไม่กล้าออกไปไหนเช่นกัน ส่วน นายเล็ก มุสิกวงศ์ กล่าวว่า เมื่อคืนไม่ได้นอนที่บ้าน แต่ออกไปนอนที่อื่น และเพิ่งกลับเข้ามาบ้านหลังทราบว่าเช้านี้มีการปะทะกันระหว่างทหารสองฝ่าย แต่ก็ไม่ได้รุนแรงเหมือนในอดีต
ขณะที่ พ.ต.อ.มนตรี จินะ ผู้กำกับการ สภ.บ้านท่าเลื่อน ตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ได้เตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ รวมถึงดูแลบ้านเรือนของประชาชนด้วย นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบแรงงานกัมพูชา 2 คนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปถ่ายภาพที่ตั้งฐานปืนใหญ่ในพื้นที่ และถูกทาง ชรบ. หมู่บ้านจับกุมและส่งตัวมาให้ทางตำรวจ สภ.ท่าเลื่อนตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าไม่มีรูปฐานปืนใหญ่ จึงได้เรียนนายจ้างมารับตัวพร้อมแสดงหลักฐานการจ้างงานและหลักฐานการเดินทางเข้ามาทำงานอย่างถูกต้อง จึงได้ปล่อยตัวไปและกำชับว่าห้ามถ่ายภาพดังกล่าว
ในส่วนของสถานการณ์ความตึงเครียดที่บ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ที่เคยมีรายงานว่าทหารกัมพูชาได้ทำการติดตั้งแท่นปืนกลที่เขาบรรทัดเหนือโรงแรมเกาะกงรีสอร์ท และเล็งมาที่บ้านหาดเล็กตั้งแต่วานนี้ ล่าสุดมีการยืนยันว่า แท่นปืนกลดังกล่าวได้ถูกขุดออกไปแล้ว เพื่อลดความตึงเครียดระหว่างพื้นที่ชายแดน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี