ชุมนุมใหญ่2ส.ค.
‘รวมพลังแผ่นดินฯ’ส่งแรงใจทหาร
กลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯให้กำลังใจกองทัพไทย เสียสละต่อสู้ปกป้องอธิปไตย เหตุปะทะชายแดนไทย-เขมรลั่น 2 สิงหาคมชุมนุมใหญ่ อนุสาวรีย์ชัยฯ ให้กำลังใจทหาร ชี้รัฐบาลเจรจากัมพูชาไร้น้ำหนักด้านอดีตพิราบขาวร้องกกต.ส่งศาลรธน.ยุบ7พรรคร่วม ปม‘ทักษิณ’ครอบงำ-ส่อเข้าข่ายภัยคุกคามความมั่นคงชาติ
เมื่อเวลา 10.30น.วันที่ 29กรกฎาคม ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ตัวแทนคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายนิติธร ล้ำเหลือและนายพิชิต ไชยมงคล พร้อมมวลชนจำนวนหนึ่งประกอบด้วยเครือข่ายคปท.กองทัพธรรม ศปปส.ได้เดินทางมามอบดอกไม้ให้กำลังใจพี่น้องทหารที่เสียสละต่อสู้ปกป้องอธิปไตยประเทศอย่างเข้มแข็งในการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชามาตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม2568 จนถึงวันนี้(29กรกฎาคม)โดยมี พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทยและคณะ เป็นตัวแทน บก.ทท. รับมอบ
โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวว่า หลังจากที่เมื่อวานนี้ (28 กรกฎาคม) ประชุมเจรจาพิเศาระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซีย โดยมีประเทศที่สามคือจีนและสหรัฐอเมริกา มองว่าทางกัมพูชาที่มีฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา อยู่ระดับผู้บัญชาการทหารบก มาประชุมนั้น มีการทำการบ้านมา แต่ของเราคนที่ไปคือ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี อยู่ในระดับลูกน้องจึงมองว่าไม่มีอำนาจ
โดยการเจรจานั้นมี 3 เรื่องด้วยกัน 1.เจรจาให้หยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไข จนกระทั่งตอนนี้ทางกัมพูชาก็ยังไม่หยุด ล้มเหลวทั้งสิ้น 2. การเจรจาในระดับแม่ทัพ ที่นัดกันช่วง 07.00 ของวันนี้ แต่ถูกเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด ก็ล้มเหลว และ 3.การประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee–GBC)ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 4 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ก็มองว่าแค่เลือกสถานที่ก็ผิดพลาดแล้วและหากการเจรจาครั้งนี้ไม่เป็นผลและทำให้ประเทศอับอาย เราก็จะมีการไปดักที่สนามบิน อย่างไรก็ตามขอรัฐบาลอย่าเอาปมเจรจา“ภาษีทรัมป์”มาเกี่ยวข้องกับการสูญเสียอธิปไตย
“เราไม่ไว้วางใจสถานการณ์นี้เด็ดขาดและเชื่อว่าบรรดาทหารเองก็ไม่วางใจในสงครามนี้เช่นกัน รวมถึงไม่ไว้วางใจการทำงานของรัฐบาล เพราะเราไม่รู้ว่าเขาเจรจาภายใต้คำสั่งใคร เพราะคนที่ไปเจรจาอยู่ระดับลูกน้องทั้งสิ้น แต่วันนี้หลักๆคือมาเพื่อให้กำลังใจทหารนอกจากนี้ในวันที่ 2 สิงหาคม จะมีการชุมนุมใหญ่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อีกครั้ง”นายจตุพร กล่าว
นายพิชิต กล่าวว่าเราขอร่วมกับกองทัพไทยประณามรัฐบาลกัมพูชา และทหารกัมพูชาที่ยิงระเบิดมาสู่เป้าหมายพลเรือน ประชาชน โรงพยาบาล บ้านเรือน ประชาชนชาวไทย อันไม่ใช่เป้าหมายทางการทหาร การกระทำเช่นนั้นถือเป็น อาชญากรสงคราม คณะรวมพลังแผ่นดินฯ ขอส่งแรงใจแรงสนับสนุนสู่ทหารแนวหน้า ทั้งสิ่งของ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม เครื่องใช้ต่างๆเพื่อสนับสนุนกองทัพไทย ที่แม้จะมีการหยุดยิง (ชั่วคราว) แต่ยังต้องวางกำลัง รักษาอธิปไตย ในการปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน อันเป็นองค์ประกอบหลักของประเทศ ไทยต่อไป
โดยหลังอ่านแถลงการณ์ แกนนำและมวลชนได้สวมกอดและมอบดอกไม้เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ก่อนเข้าไปสักการะพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวร มหาราช ภายในกองบัญชาการกองทัพไทย
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว2006 ยื่นหนังสือต่อกกต.เพื่อมีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบ 7 พรรคร่วมรัฐบาล กรณีมีเจตนาปล่อยให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นบุคคลภายนอกไม่ใช่สมาชิกพรรค เข้าควบคุมครอบงำชี้นำและสั่งการหรือไม่ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28 มาตรา29 เป็นเหตุให้ยุบพรรค ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 92 มาตรา93
โดยนายนพรุจกล่าวว่าตามที่มีข่าวยื่นยุบ 6พรรค กรณีที่ไปบ้านจันทร์ส่องหล้า ตลอดจนคลิปเสียงเป็นเหตุให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บุตรสาวนายทักษิณ ที่ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ และเกิดการรวมกลุ่มกันของ7พรรค ได้แก่ พรรคเพื่อไทย ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนา ประชาธิปัตย์ กล้าธรรม รวมไทยสร้างชาติและประชาชาติ ที่โรงแรมโรสวูดซึ่งเป็นโรงแรมในครอบครัวของนายทักษิณ รวมถึงที่ทำการพรรคเพื่อไทยและยังเป็นสถานที่การประชุมพรรคหลายคน ดังนั้น การร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยตนมีข้อสงสัย ทั้งข้อความที่ให้สัมภาษณ์ การโพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์และคำปราศรัย ของนายทักษิณ ส่อในการชี้นำสั่งการ ควบคุม ครอบงำและครอบครอง พรรคเพื่อไทยหรือไม่
นอกจากนี้งานเลี้ยงที่โรงแรมอีสตินแกรนด์ พญาไทและข้อความโพสต์ การให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชาของนายทักษิณ อาจส่อหรือเข้าข่ายเป็นภัยคุกคามความมั่นคงแห่งรัฐด้วยหรือไม่ การกระทำของนายทักษิณไม่ได้รับการยับยั้งหรือให้หยุดกระทำการใดๆจากพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 7 พรรค แต่กลับส่งเสริมสนับสนุนโดยเฉพาะจากกรรมการบริหารพรรค และรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย จึงขอให้กกต.เร่งพิจารณาเรื่องดังกล่าว เพื่อให้หลักนิติรัฐมีความศักดิ์สิทธิ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี