'ทวี'เผย'กฤษฎีกาอภัยโทษหมู่ 2568' มีผู้ต้องขังอาจได้รับการพิจารณาทั่วประเทศกว่า 80,000 ราย ส่วน'บุญทรง'อดีต รมว.พาณิชย์  และเสี่ยเปี๋ยง คาดอาจเป็น 1 ในรายชื่อได้ประโยชน์  ด้าน'กรมราชทัณฑ์'ระบุข้อมูลล่าสุด มีผู้ต้องขังได้รับอภัยโทษ 81,333 ราย  ส่วนผู้ต้องขังไม่ได้รับอภัยโทษ 135,189 ราย

วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 จากกรณีที่พระราชกิจจานุเบกษา ได้มีการประกาศพระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษในโอกาส วันเฉลิมพระชนม พรรษา 28 ก.ค.2568 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ตามที่มีการรายงานไปแล้วนั้น

ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) กรุงเทพฯ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า สำหรับจำนวนผู้ต้องขังที่เข้าเกณฑ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้ ทราบข้อมูลว่าเบื้องต้นมีจำนวนกว่า 10,000 ราย อย่างไรทางกรมราชทัณฑ์ จะได้มีการทำสถิติรายงาน ซึ่งจะมีผู้ต้องราชทัณฑ์จากทั่วประเทศได้รับประโยชน์ประมาณ 80,000 ราย 

เมื่อถามถึงกรณีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ (ยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร )ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการคุมประพฤติ พักการลงโทษระยะเวลา 3 ปี 5 เดือน และกรณีของนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง อดีตนักธุรกิจค้าข้าวรายใหญ่ จะได้รับประ โยชน์ด้วยหรือไม่นั้น พ.ต.อ.ทวี ชี้แจงว่า ตามกฎหมายราชทัณฑ์หากเป็นผู้พักโทษ ส่วนใหญ่อาจจะได้รับประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ขอให้ทางกรมราชทัณฑ์เป็นผู้ชี้แจงข้อมูล แต่คาดว่าอาจได้รับการลดโทษ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับเกณฑ์ของผู้ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติให้ได้รับพระราชทานอภัยโทษลดโทษลง 1 ใน 3 จากกำหนดโทษที่ยังเหลืออยู่นับแต่วันที่ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤตินั้น ด้วยความที่นายบุญทรง เหลือระยะเวลาพักการลงโทษ 3 ปี 5 เดือน ดังนั้น เอา 3 ปี 5 เดือน มาหาร 3 แล้วก็ลดแค่ 1 ใน 3 ฉะนั้น นายบุญทรง อาจยังไม่พ้นโทษทันที โดยจะอยู่ในกลุ่มได้รับการลดโทษแต่ยังต้องคุมประพฤติต่อไปให้ครบระยะ 

ขณะที่ล่าสุดรายงานข่าวว่า ภายในกรมราชทัณฑ์ ระบุว่าสถิติจำนวนนักโทษเด็ดขาดปัจจุบันมี 216,522 ราย ได้รับอภัยโทษจำนวน 81,333 ราย และไม่ได้รับอภัยโทษ 135,189 ราย โดยในส่วนที่ได้รับอภัยโทษ แยกเป็น อภัยโทษปล่อยตัว จำนวน 12,739 ราย ลดโทษแล้วปล่อยตัว จำนวน 7,599 ราย กักขังแทนค่าปรับ จำนวน 4,996 ราย ดังนั้น รวมปล่อยตัว 25,334 ราย ส่วนกรณีลดโทษแล้วจำคุกต่อ (ไม่ปล่อยตัว) มีจำนวน 55,999 ราย