รัฐบาลพาคณะทูตลง‘รพ.สต.บ้านซำเม็ง’ ชี้หลักฐานชัดถูกโจมตีทั้งที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร สะท้อนความไร้มนุษยธรรมของกองทัพกัมพูชา
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 1 ส.ค.68 ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) บ้านซำเม็ง ตำบลเสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาลโดย ศบ.ทก. ร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย สำนักนายกรัฐมนตรี และกรมประชาสัมพันธ์ ได้นำคณะเอกอัครราชทูต อุปทูต และทูตทหารจาก 23 ประเทศ พร้อมสื่อมวลชนไทยและต่างชาติ ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านซำเม็ง
รพ.สต.แห่งนี้ดูแลประชาชนจาก 3 หมู่บ้าน โดยเมื่อเวลา 08.30 น. ของวันที่ 24 ก.ค. ขณะเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นนัดแรก จึงอพยพผู้ป่วยและบุคลากรเข้าไปยังบังเกอร์ด้านหลังโรงพยาบาลฯ ก่อนปฏิบัติตามคำสั่งจังหวัด เพื่อรอการอพยพเพิ่มเติม โดยเจ้าหน้าที่บางส่วนได้นำผู้ป่วยออกจากพื้นที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ชายยังอยู่ประจำเพื่อดูแลสถานที่และช่วยเหลือประชาชนที่ยังไม่สามารถอพยพได้
ต่อมาในวันที่ 25 ก.ค. เกิดการปะทะกันรุนแรงในพื้นที่ จึงมีคำสั่งให้บุคลากรทั้งหมดถอนกำลังเพื่อความปลอดภัย จนกระทั่งวันที่ 26 ก.ค. เวลา 11.30 น. มีรายงานแจ้งว่าตัวโรงพยาบาลถูกกระสุนโจมตี ทำให้ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ได้รับความเสียหาย โดยโรงพยาบาลซึ่งเป็นสถานที่ช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บ ไม่ควรถูกใช้เป็นเป้าหมายในการโจมตี อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกัมพูชากลับเลือกยิงใส่สถานพยาบาล ทั้งที่ด้านหลังของโรงพยาบาลยังเป็นศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก มีเด็กเล็กอยู่ 30 คน พร้อมครูดูแลอีก 5 คน การกระทำดังกล่าวจึงถือเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง
ด้านผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 บ้านซำเม็ง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ระหว่างสถานการณ์ตึงเครียด ได้มีการลาดตระเวนเฝ้าระวังตลอดเวลา โดยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเป็นสถานที่ดูแลสุขภาพของพี่น้องในหมู่บ้าน ไม่มีใครคาดคิดว่าจะตกเป็นเป้าหมายการโจมตี และขอขอบคุณคณะทูตและสื่อมวลชนที่เดินทางมาสำรวจพื้นที่จริง เห็นกับตาถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำอันไร้มนุษยธรรมของฝ่ายกัมพูชา
นอกจากนี้ ยังได้ลงพื้นที่คือสถานีบริการน้ำมัน ปตท. บ้านผือ ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการที่ฝ่ายกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 (Grad) ใส่เป้าหมายพลเรือนอย่างจงใจ ตัวอาคารร้านสะดวกซื้อในบริเวณดังกล่าวถูกไฟไหม้เสียหายเกือบทั้งหมด โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ประชาชนในพื้นที่ รวมถึงคณะผู้สังเกตการณ์จากทั้งคณะทูตและสื่อมวลชน เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุและรับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงในพื้นที่โดยตรง
ประชาชนในพื้นที่ได้แสดงความขอบคุณต่อคณะทูตและสื่อมวลชนที่ลงพื้นที่เพื่อรับทราบสถานการณ์จากประสบการณ์จริง ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ถือเป็นหลักฐานชัดเจนที่สะท้อนถึงการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศของฝ่ายกัมพูชา โดยใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภารกิจทางทหาร ส่งผลให้สิ่งปลูกสร้างเสียหายรุนแรง และมีผู้เสียชีวิตในพื้นที่ คณะทูตานุทูตและสื่อมวลชนจากนานาชาติได้เห็นด้วยสายตาตนเอง ถือเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงที่รัฐบาลไทยได้รายงานมาโดยตลอด
นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า การนำคณะทูตทั้ง 23 ประเทศลงพื้นที่ในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาคมระหว่างประเทศได้รับทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากต้นทาง โดยสื่อมวลชนจากแต่ละประเทศได้เห็นหลักฐานที่สะท้อนอย่างชัดเจนว่ากัมพูชามุ่งโจมตีพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง จึงเป็นเหตุให้ประเทศไทยจำเป็นต้องดำเนินมาตรการตอบโต้ภายใต้กรอบขององค์การสหประชาชาติ อันเป็นการปกป้องสิทธิตามหลักสากล
“ขอย้ำว่า การดำเนินการของฝ่ายไทยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องประชาชนและอธิปไตยของชาติ การตอบโต้ของไทยเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสากล จากการโจมตีพลเรือนอย่างไร้มนุษยธรรมจากกัมพูชา” นายจิรายุ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี