วันที่ 2 สิงหาคม 2568  นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือเดิมเรียก "พระพุทธะอิสระ" หรือ "หลวงปู่พุทธะอิสระ" อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า  โอ้ย...ตายแล้ว เป็นถึงระดับพระราชาคณะชั้นสมเด็จและชั้นหน กลับถูกขึ้นแบล็คลิสต์ ห้ามเข้าพื้นที่สำคัญของประเทศ แบบนี้จะยังมีหน้าไปปกครองคณะสงฆ์ได้อยู่อีกหรือ

คำว่า มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีหน้ามีตา มีศรัทธา คงจะไม่เหลือหน้าตาให้ใครๆ เขายกย่อง กราบไหว้ได้อีกต่อไปกระมัง

เรื่องนี้ไม่ใช้เรื่องเล็กน้อย ภิกษุระดับพระราชาคณะชั้นสูง ถูกขึ้นแบล็คลิสขนาดนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและสำนักพุทธจักต้องเข้าไปตรวจสอบแล้วทำความจริงให้เป็นที่ประจักษ์ว่า ภิกษุทั้ง ๓ รูป ไปกระทำความผิดอันใดมา จึงต้องถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ ดุจดังเป็นตัวเสนียด ตัวซวย ของสถานที่ หน้าตาและศักดิ์ศรี ของคณะสงฆ์ มหาเถระ มันจะไปเหลืออะไรหรือจะปล่อยให้อยู่กันแบบนี้

อยู่แบบเอาตัวรอด ใครจักดีชั่ว เลวร้ายยังไงก็ช่างมัน ไม่เกี่ยวกับกู ไม่อยากยุ่ง ใครไม่รอดช่างมัน กูอยู่รอดได้ก็พอ ซึ่งพฤติกรรมที่ทำตนอยู่เหนือปัญหา ทองไม่รู้ร้อนแบบนี้ มันมีมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็ก ปัญหาใหญ่ พวกคณะสงฆ์ชั้นปกครองล้วนทำมาแบบนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในอดีตและปัจจุบัน

จนมาถึงวันนี้ แม้สังคมจะพยายามตั้งคำถามขึ้นมากมายต่อการบริหาร การจัดการ การปกครองของนักบวชกลุ่มนี้อย่างมีนัยยะ ก็ไม่สามารถอธิบายได้สักเรื่อง คนมีมลทินแบบนี้ ยังจะกล้าให้นั่งร่วมสังฆกรรมได้อยู่กระนั้นหรือ

หรือเป็นพวกเดียวกัน อะไร อะไร ก็หยวนๆ กันได้