กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ลงพื้นที่เยี่ยมชมโรงเรียนวัดกู่คำ (เมธาวิสัยคณาทร) จ.เชียงใหม่ ชมตัวอย่างความสำเร็จ ต้นแบบโรงเรียนขยายโอกาส ในการยกระดับคุณภาพสถานศึกษาและนักเรียนจากการนำผลการประเมินคุณภาพภายนอกมาปรับใช้ สร้าง Learner Leader Innovator ด้วยผลประเมินคุณภาพภายนอกของ สมศ. พร้อมย้ำจุดเน้นการประกันคุณภาพเพื่อพัฒนาสถานศึกษาขนาดเล็ก และโรงเรียนขยายโอกาสสู่มาตรฐานใหม่
ผศ.ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รมช.ศธ. กล่าวว่า การประเมินคุณภาพภายนอก นับเป็นกลไกที่สำคัญในการตรวจสอบและกระตุ้นให้หน่วยงานที่จัดการศึกษาตั้งแต่ระดับชาติถึงหน่วยงานที่เล็กที่สุดคือสถานศึกษาและภายในห้องเรียน ต้องมีการประเมินตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาให้ยั่งยืน การประเมินนี้มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพการศึกษา โดยผู้ประเมินจะลงพื้นที่เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลในสถานศึกษาตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อวิเคราะห์ “สิ่งที่สถานศึกษาทำได้ดี” และ “สิ่งที่สถานศึกษาสามารถเดินหน้าพัฒนาให้ดีมากยิ่งขึ้น” ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้เรียน ผู้ปกครอง และสังคมว่าการศึกษาที่ได้รับ มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนดไว้
“บริบทของสถานศึกษาขนาดเล็กและโรงเรียนขยายโอกาสมีลักษณะคล้ายคลึงกันตรงที่ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลหรือชุมชนที่ขาดแคลน เพื่อให้โอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชนของชาติ สถานศึกษาเหล่านี้จึงมีภารกิจสำคัญในการจัดการศึกษาให้ทั่วถึง ลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม จึงจำเป็นต้องเร่งการประเมินคุณภาพการศึกษาในกลุ่มสถานศึกษาดังกล่าว ซึ่งการประเมินคุณภาพภายนอกจะทำให้สถานศึกษาทราบถึงจุดเด่น จุดที่ควรปรับปรุง ตลอดจนแนวทางในการพัฒนาสถานศึกษา เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการดำเนินงานเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาให้ดีขึ้นได้” รมช.ศธ. กล่าว
ศ.ดร.องอาจ นัยพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. กล่าวว่า จากการประเมินคุณภาพภายนอก สมศ. พบตัวอย่างโรงเรียนวัดกู่คำ (เมธาวิสัยคณาทร) จ.เชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาที่สามารถยกระดับคุณภาพผู้เรียนอย่างโดดเด่น จากการนำนวัตกรรมการเรียนรู้และผลการประเมินคุณภาพภายนอกของ สมศ. มาปรับใช้ เพื่อพัฒนานักเรียนให้เป็น “Learner, Leader และ Innovator” ได้อย่างเป็นรูปธรรม แม้จะมีข้อจำกัดด้านทรัพยากรและศักยภาพก็ตาม โดยข้อค้นพบจากการประเมินคุณภาพภายนอก โรงเรียนวัดกู่คำฯพบว่า สถานศึกษามีการนำผลการประเมินคุณภาพภายนอกจากครั้งก่อน (ปี พ.ศ. 2564) มาปรับใช้ด้านการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ในการเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ การเป็นผู้นำและการเป็นนวัตกร ผ่านแนวคิด ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้และโครงการทางวิชาการต่างๆ เป็นต้น
ด้าน ดร.ประคอง พิไรแสงจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดกู่คำ (เมธาวิสัยคณาทร) กล่าวว่า จากการเข้ารับการประเมินคุณภาพภายนอกจาก สมศ. ในปี พ.ศ. 2568 นี้ได้เปลี่ยนทัศนคติของครูและนักเรียนจากความกังวลสู่ความเข้าใจ และร่วมมือกันพัฒนาคุณภาพอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ผลการประเมินคุณภาพภายนอกที่ได้รับจาก สมศ. ยังช่วยให้สถานศึกษาเห็นความจำเป็นในการเผยแพร่นวัตกรรมและแนวปฏิบัติที่ดี เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องรับรู้และร่วมพัฒนา พร้อมทั้งเน้นการพัฒนา Mindset ครูและนักเรียน ให้เห็นคุณค่าการเรียนรู้และดูแลตนเอง ซึ่งทั้งหมดนำไปสู่เป้าหมายในการสร้างผู้เรียนให้เป็น ผู้เรียนรู้ ผู้นำ และนวัตกร ผ่านวิธีการปฏิบัติจริง อาทิ การตั้งเป้าหมายรายบุคคล การประเมินกลุ่มเพื่อน การดูแลกันเองตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาที่ 1 ด้วยการจัดทำกระบวนการเรียนรู้แบบ 1 วิถี 4 กิจกรรม ได้แก่ 1.กิจกรรมกลุ่ม 2 มิติ – ฝึกการเรียนรู้อยู่ร่วมกันบนวิถีประชาธิปไตยและความเป็นผู้นำ 2.กิจกรรมเล่าเรื่องประเทืองปัญญา – ฝึกทักษะการเรียนรู้ ทักษะการคิดผ่านข่าวและเหตุการณ์รอบตัว 3.กิจกรรมจิตศึกษา – พัฒนาสติ ปัญญา อารมณ์และความเข้าใจตนเอง 4.กิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการสร้างสรรค์นวัตกรรม - ฝึกให้ผู้เรียนได้เรียนรู้สู่การสร้างนวัตกรรมอย่างเป็นรูปธรรมจากสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวของผู้เรียน ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ที่ต่อยอดได้จริงในชีวิต
“แม้จะเผชิญข้อจำกัดด้านทรัพยากรและบุคลากร แต่โรงเรียนวัดกู่คำฯ ยังสามารถสร้างผู้เรียนที่มีไอเดียโดดเด่นและพร้อมพัฒนาให้เท่าทันโลกอนาคต โดยเชื่อว่า 65% ของอาชีพในวันนี้จะหายไปในอนาคต จึงต้องเตรียมผู้เรียนให้มีทักษะเรียนรู้ตลอดชีวิตและความสามารถในการปรับตัว สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เราไม่ได้มองการประเมินเป็นการตัดสิน แต่เป็นกระจกสะท้อนที่ช่วยให้เราพัฒนาตัวเองและเด็กๆ อย่างแท้จริง" ผู้อำนวยการ รร.วัดกู่คำฯ กล่าว
สำหรับ โรงเรียนวัดกู่คำ (เมธาวิสัยคณาทร) จ.เชียงใหม่ เป็นโรงเรียนขยายโอกาส เปิดสอนระดับชั้น อนุบาลปีที่ 1 – มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีจำนวนเด็กนักเรียนและผู้เรียน 239 คน มีนักเรียนระดับมัธยมศึกษา จำนวน 71 คน อัตราส่วนผู้เรียนในสถานศึกษาเป็นเด็กพื้นที่ร้อยละ 71 เด็กต่างชาติร้อยละ 25 และเด็กชาติพันธุ์ร้อยละ 4
พร้อมรับการสนับสนุนอย่างเป็นระบบจากหน่วยงานภายนอก ทั้งในด้านงบประมาณ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และทรัพยากรด้านนวัตกรรมการศึกษา เพื่อช่วยเสริมสร้างศักยภาพของครูและนักเรียน โดยเฉพาะในสถานศึกษาขนาดเล็กที่มีข้อจำกัดเชิงโครงสร้าง แม้จะมีนักเรียนที่มีไอเดียและความสามารถโดดเด่น แต่ยังขาดกลไกสนับสนุนให้ก้าวสู่ความเป็นเลิศได้อย่างเต็มศักยภาพ พร้อมกันนี้ โรงเรียนยังเห็นว่าการประเมินคุณภาพภายนอก จาก สมศ. ในทุก 5 ปี มีความสำคัญในการเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเชิงพัฒนา โดยมี สมศ. ทำหน้าที่เป็นทั้งผู้ประเมินและ “พี่เลี้ยงทางวิชาการ” ที่สามารถให้คำแนะนำ ต่อยอด และร่วมวางแผนการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี