อัยการฟ้อง23ราย  คดีตึกสตง.ถล่ม  ไม่ยึดหลักวิชาชีพ  ใช้เอกสารปลอม

อัยการฟ้อง23ราย คดีตึกสตง.ถล่ม ไม่ยึดหลักวิชาชีพ ใช้เอกสารปลอม

วันศุกร์ ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

อัยการมีคำสั่งฟ้อง 23 ผู้ต้องหา คดีตึกสตง.ถล่มยื่นฟ้องศาลอาญา ในฐานความผิดไม่ทำตามมาตรฐานวิชาชีพจนมีผู้เสียชีวิตร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม“เจ้าสัวเปรมชัย-ไชน่า เรลเวย์” โดนด้วย

เมื่อวันที่ 7สิงหาคม 2568 ที่สำนักอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถนนแจ้งวัฒนะ นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ส่งสำนวนการสอบสวนคดีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างถล่มหลังเกิดแผ่นดินไหว ให้กับพนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 เมื่อวันที่ 22 ก.ค.2568 ที่ผ่านมาโดยพนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งที่เป็นนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา รวม 23 ราย ในฐานความผิดเป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม ทำการก่อสร้าง อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ร่วมกันปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 91, 227, 238, 264 และ 268 นั้น


เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีสำคัญและมีเอกสารหลักฐานเป็นจำนวนมาก สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 จึงตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาคดี โดยพนักงานอัยการพิจารณาแล้วมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 23 รายในฐานความผิดเป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม ทำการก่อสร้าง อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญาและสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 9, 10, 11, 12, 13, 14 และ 15 ในฐานความผิดร่วมกันปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 91, 227, 238, 264 และ 268 และที่แก้ไขเพิ่มเติม, พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522, พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ตลอดจนกฎกระทรวงและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

สำหรับผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว ประกอบด้วย บริษัท ฟอ-รัมอาร์คิเทค จำกัด ผู้ต้องหาที่ 1, นายสุชาติ ชุติปภากร ผู้ต้องหาที่ 2, นายพิมล เจริญยิ่ง ผู้ต้องหาที่ 3, บริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด โดยนายธีระ วรรธนะทรัพย์ และนายเซ็น เยา ฮุย (CHEN YAO HUI) ผู้ต้องหาที่ 4

นายธีระ วรรธนะทรัพย์ ผู้ต้องหาที่ 5, นายสุพล อัครอารีสุข ผู้ต้องหาที่ 6, นายชัยณรงค์ เสียงไพรพันธ์ ผู้ต้องหาที่ 7, นายอภิชาติ รักษา ผู้ต้องหาที่ 8, บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด โดยนายปฏิวัติ ศิริไทย ผู้ต้องหาที่ 9, นายปฏิวัติ ศิริไทย ผู้ต้องหาที่ 10บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์แอนด์แมเนจเม้นท์ จำกัด โดยนายกฤตภัฏ ปล่องกระโทก ผู้ต้องหาที่ 11, นายกฤตภัฏ ปล่องกระโทก ผู้ต้องหาที่ 12, บริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนตส์ จำกัด โดยนายพลเดช เทิดพิทักษ์วานิช และนางประณีต แสงอลังการ (ขณะเกิดเหตุ) ผู้ต้องหาที่ 13, นายพลเดช เทิดพิทักษ์วานิช ผู้ต้องหาที่ 14, นายสมชาย เย็นทรัพย์ ผู้ต้องหาที่ 15, บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) โดยนายเปรมชัย กรรณสูตร และนางนิจพร จรณะจิตต์ (ขณะเกิดเหตุ) ผู้ต้องหาที่ 16นายเปรมชัย กรรณสูตร ผู้ต้องหาที่ 17, บริษัท ไชน่า เรลเวย์นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด โดยนายชวนหลิง จาง ผู้ต้องหาที่ 18, นายชวนหลิง จาง ผู้ต้องหาที่ 19, นายเกรียงศักดิ์ กอวัฒนา ผู้ต้องหาที่ 20, นายอนุวัฒน คันษร ผู้ต้องหาที่ 21, นายธิปัตย์รัตนวงษา ผู้ต้องหาที่ 22 และนายวิศาล จุลพัลลภ ผู้ต้องหาที่ 23

ทั้งนี้ พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 ได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 23 รายต่อศาลอาญาในวันเดียวกันนี้ เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ 2201/2568 ของศาลอาญา โดยผู้ต้องหาทั้งหมดยังถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และไม่มีผู้ต้องหารายใดได้รับการอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top