วันศุกร์ ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
‘ฮับส่งโฮงยา-โทรเวชกรรม’ จากงานวิจัยสู่คุณภาพชีวิต เสริมประสิทธิภาพบริการสุขภาพ

‘ฮับส่งโฮงยา-โทรเวชกรรม’ จากงานวิจัยสู่คุณภาพชีวิต เสริมประสิทธิภาพบริการสุขภาพ

วันศุกร์ ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 09.44 น.
Tag : คุณภาพชีวิตผู้ป่วย งานวิจัย บพท บริการสุขภาพ อว ฮับส่งโฮงยาโทรเวชกรรม
  •  

บพท.หนุนทีมวิจัยคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ - สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ บูรณาการความร่วมมือองค์กรปกครองท้องถิ่น ค้นคว้าพัฒนาชุดเครื่องมือฮับส่งโฮงยา-โทรเวชกรรม ยกระดับคุณภาพชีวิตและลดภาระค่าใช้จ่าย เสริมประสิทธิภาพช่วยผู้ป่วยเข้าถึงบริการสุขภาพ พร้อมเป็นต้นแบบต่อยอดความร่วมมือสู่เครือข่ายองค์กรปกครองท้องถิ่นและพื้นถิ่นทุรกันดาร เพื่อให้ได้รับบริการสาธารณสุขระดับปฐมภูมิอย่างเท่าเทียม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวอช.)  กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการและบริหารสุขภาพข้ามองค์กรเพื่อยกระดับสุขภาวะและตอบสนองความต้องการของชุมชมชนท้องถิ่นว่า มิติด้านสุขภาพชุมชนนับว่ามีความสำคัญอย่างมาก โครงการวิจัยของคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งมี รศ.ดร.อรัญญา ศิริผล เป็นหัวหน้าโครงการ ได้มาเติมเต็มให้การพัฒนาขีดความสามารถการให้บริการสุขภาพและสาธารณะแก่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยและผู้มีภาวะพึ่งพิงขององค์กรปกครองท้องถิ่นระดับตำบลในอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน โดยมีเทศบาลตำบลเวียงยองเป็นพื้นที่นำร่อง และต่อยอดขยายผลไปใช้ประโยชน์ในอีกหลายพื้นที่ ได้แก่ เทศบาลตำบลเหมืองจี้ เทศบาลตำบลบ้านแป้น และเทศบาลตำบลหนองหนาม โดยมีจุดเริ่มต้นจากการพัฒนาระบบ “ฮับส่งโฮงยา” ซึ่งเป็นระบบบริการใหม่เพื่อเพิ่มช่องทางในการขอรับบริการรับส่งผู้ป่วยจากที่พักไปโรงพยาบาลตามที่แพทย์นัดหมาย โดยมีระบบการจองเวลาและการยืนยันผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่จัดเตรียมรถและบุคลากรเฉพาะที่ได้รับใบอนุญาต ในการช่วยเหลือและยกระดับการเข้ารับบริการสุขภาพของคนในท้องถิ่นได้อย่างมาก และการขยายผลไปสู่ “ยืม-คืนกายอุปกรณ์การแพทย์” ช่วยให้ครัวเรือนกลุ่มเปราะบางเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ทั่วถึงและต่อเนื่อง และช่วยลดรายจ่ายครัวเรือนได้เป็นอย่างมาก


“บพท. รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับคณะนักวิจัยและเทศบาลตำบลเวียงยอง ที่ได้มีส่วนช่วยสนับสนุนให้เกิดกลไกปฏิบัติการใหม่ของเทศบาลในการดูแลประชาชนได้อย่างทั่วถึง และยังช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ จนสามารถขยายผลไปสู่การให้บริการรับส่งผู้ป่วยครอบคลุมใน 4 พื้นที่ อปท. โดยพื้นที่นำร่อง เทศบาลตำบลเวียงยอง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ให้บริการประชาชนไปแล้วจำนวน 275 ราย ลดรายจ่ายครัวเรือนได้มากกว่า 5 แสนบาทต่อปี ช่วยเหลือครัวเรือนที่มีความยากลำบากให้ได้รับการดูแลด้านสุขภาพอย่างทั่วถึงและมีสถานะทางด้านสุขภาพดีมากขึ้น การลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) นี้ จึงถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการสนับสนุนทางวิชาการและการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาศักยภาพและกลไกใหม่ของอปท. ในการดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่อง ตามกรอบภายใต้แผนงานนโยบายของกระทรวง อว. ต่อการส่งเสริมและสนับสนุนบทบาทความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการสร้างการพัฒนาเชิงพื้นที่ที่ยั่งยืนสืบต่อไป”

รศ.ดร.อรัญญา ศิริผล อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวถึงที่มาของโครงการว่าถูกจุดประกายขึ้นจากการจัดเวทีประชาคมร่วมกับชมรมผู้สูงอายุในพื้นที่เขตเทศบาลตำบลเวียงยอง และค้นพบว่าชาวบ้านที่เจ็บป่วยมีปัญหาอุปสรรคในการเดินทางไปรับบริการด้านสาธารณสุขในสถานพยาบาล อีกทั้งมีข้อจำกัดด้านรายได้ในการจัดหากายอุปกรณ์ทางการแพทย์มาใช้งาน

“จากข้อค้นพบที่เป็นปัญหาอุปสรรค และข้อจำกัดข้างต้น ได้นำไปสู่แสวงหาทางออกแบบแก้ไข และลงเอยด้วยการพัฒนาแอพลิเคชั่น “ฮับส่งโฮงยา”(Med Car Hub) สำหรับบริหารจัดการคิวให้บริการก่อน-หลังในการบริการรถรับส่งผู้ป่วยระหว่างบ้านกับสถานพยาบาล  และ”ยืม-คืนกายอุปกรณ์การแพทย์”(Medical Prosthesis Borrow-Return) สำหรับอำนวยความสะดวกในการช่วยบริหารจัดการยืม-คืนกายอุปกรณ์การแพทย์อย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมภูมิสารสนเทศชุมชน (LGIA)   ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ รวมถึงระบบฐานข้อมูลประชากรที่พร้อมเชื่อมโยงกับการเก็บข้อมูลในอนาคต และระบบปฏิบัติการ (Workflow) ที่ทำให้การบริหารจัดการบริการสุขภาพลื่นไหล รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพแก่ชาวบ้านแล้ว ยังสามารถสร้างนวัตกรชุมชนด้านสุขภาพในพื้นที่ได้ถึง 10 คน”

ทางด้าน นางสาวสิริมาพร  รัตนภูมิสิริ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเวียงยอง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน กล่าวว่า โครงการวิจัยข้างต้นถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการอำนวยความสะดวกแก่ชาวบ้านในการเข้าถึงบริการสุขภาพ และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปได้ปีละประมาณ 5 แสนบาท โดยเทศบาลเข้าไปมีบทบาทหน้าที่เป็นศูนย์ประสานการให้บริการแก่ชาวบ้าน มีส่วนร่วมส่งเสริมสนับสนุนทั้งด้านการจัดสรรงบประมาณจัดซื้อรถสำหรับบริการรับส่งชาวบ้านไปรับบริการสุขภาพ และบุคลากร ซึ่งเป็นที่พึงพอใจแก่ชาวบ้านอย่างยิ่ง ทำให้ชาวบ้านมีคุณภาพชีวิต มีสุขภาพพลานามัยที่ดี

ขณะเดียวกัน นพ.ปรีดา  แต้อารักษ์ ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการพัฒนาระบบโทรเวชกรรมและระบบสุขภาพปฐมภูมิในประเทศไทย จังหวัดลำปาง กล่าวว่า โครงการนี้มีเป้าหมายต้องการยกระดับคุณภาพการให้บริการสาธารณสุขขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเน้นการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมทางสังคมตามหลักธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ผ่านการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืนใน 5 มิติ ได้แก่ การพัฒนาคน สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ ความสงบสุข และความเป็นหุ้นส่วนการพัฒนา

“การดำเนินกระบวนการวิจัย จะคัดเลือกพื้นที่นำร่องโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) 7 - 10 แห่งจากจำนวนทั้งหมด 67 แห่งที่ถ่ายโอนสู่อบจ.ลำปาง โดยเน้นพื้นที่ที่มีจำนวนประชากรกลุ่มเปราะบาง ยากจนกระจุกตัวหนาแน่น หรือที่อยู่ที่กันดารห่างไกล ซึ่งมีปัญหาในการเข้าถึงบริการสุขภาพ แล้วนำระบบ โทรเวชกรรม(Telemedicine) เข้าไปสนับสนุน เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ลดความแออัดในโรงพยาบาลหลัก และเสริมการดูแลสุขภาพปฐมภูมิใน 5 ด้านสำคัญคือการป้องกันและบำบัดโรค การส่งเสริมสุขภาพ การรักษาพยาบาลอย่างง่าย การฟื้นฟูสมรรถภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค นอกจากนี้ยังจะเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน   ไม่ว่าจะเป็น อบจ. หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และสถาบันการศึกษาเพื่อสร้างบริการสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ มีระบบธรรมาภิบาล และตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

นพ.ปรีดา กล่าวด้วยว่า เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ตอนนี้ระบบโทรเวชกรรม สามารถขยายขอบเขตพื้นที่บริการจาก 10 แห่ง เป็น 20 แห่ง อีกทั้งยังได้รับการยกระดับขึ้นเป็นระบบบริการสุขภาพทางไกลแบบบูรณาการ (Telehealth) ครอบคลุมหลายมิติ คือการพยาบาล (Telenursing) การให้คำปรึกษาด้านยา(Telepharmacy) การฟื้นฟูสมรรถภาพ (Telerehabilitation) การดูแลด้านจิตเวช (Telementalhealth) การส่งเสริมความรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) และศูนย์นวัตกรรมการจัดการระบบสุขภาพปฐมภูมิต้นแบบ ที่ถูกขยายผลจากลำปาง ไปยังลำพูน และกระบี่ โดยยึดเอาลำปางโมเดล เป็นต้นแบบ

รศ.ดร.อุเทน คำน่าน รองผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรม หน่วย บพท. กล่าวว่า ระบบ”ฮับส่งโฮงยา” และโปรแกรมยืม-คืนกายอุปกรณ์การแพทย์ เพื่ออำนวยความสะดวกและลดภาระค่าใช้จ่ายแก่ประชาชน ในการรับบริการด้านสาธารณสุข ถือเป็นผลสัมฤทธิ์ของโครงการพัฒนาขีดความ สามารถการบริการสุขภาพผู้สูงอายุ และผู้มีภาวะพึ่งพิง โดยทีมวิจัยคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประสานการทำงานร่วมกับเทศบาลตำบลเวียงยอง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ รวมทั้งระบบโทรเวชกรรม ระบบสุขภาพปฐมภูมิ ที่เป็นผลสัมฤทธิ์ของโครงการพัฒนาระบบโทรเวชกรรมและระบบสุขภาพปฐมภูมิในประเทศไทย จังหวัดลำปาง บพท. ในฐานะหน่วยงานที่สนับสนุนทุนวิจัยได้ประจักษ์แจ้งชัดถึงผลลัพธ์โครงการวิจัย มีบทบาทอย่างสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิต และลดภาระค่าใช้จ่ายในการเข้าถึงบริการสุขภาพแก่ประชาชนอย่างแท้จริง

รศ.ดร.วีระศักดิ์  เครือเทพ ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและนวัตกรรมเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและยกระดับขีดความสามารถในการจัดการภาครัฐและท้องถิ่น บพท. ชี้แจงว่า ผลลัพธ์จากการดำเนินโครงการวิจัยทั้งระบบฮับส่งโฮงยา ที่เป็นระบบบริการอำนวยความสะดวกในการรับส่งผู้ป่วยไปพบบุคลากรทางการแพทย์ที่สถานพยาบาล และระบบโทรเวชกรรม ซึ่งเป็นระบบบริการอำนวยความสะดวกในการเชื่อมโยงคำแนะนำวินิจฉัยปัญหาสุขภาพระหว่างบุคลากรทางการแพทย์กับผู้ป่วย ผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ ล้วนช่วยเติมเต็มช่องว่างด้านบริการสุขภาพให้แก่ประชาชน ช่วยขยายขอบเขตการให้บริการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเข้าถึงบริการสุขภาพให้กว้างขวางมากขึ้น และไม่เป็นภาระด้านค่าใช้จ่าย ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพเพิ่มขึ้น ช่วยยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการด้านสุขภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” ///-026

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘รมว.ดีอี’โชว์ระบบ Health Link เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพทุกระดับกว่า 500 แห่ง ‘รมว.ดีอี’โชว์ระบบ Health Link เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพทุกระดับกว่า 500 แห่ง
  • ‘สปสช.’เล็งยก‘คลองเตย’ชุมชนนำร่องวิจัยพัฒนาบริการสุขภาพในเขตเมือง ‘สปสช.’เล็งยก‘คลองเตย’ชุมชนนำร่องวิจัยพัฒนาบริการสุขภาพในเขตเมือง
  •  

Breaking News

โลกจับตา! รัสเซียคาด'ทรัมป์-ปูติน'อาจพบกันสัปดาห์หน้า

'กวีเหลวไหล' เปิดเหตุผลเบิกเนตร 'ทำไมถึงรักลุงตู่?'!

ยืนยันแล้ว! โยกใช้สนามราชมังฯ จัดพิธีเปิด'ซีเกมส์ 2025' แทนสนามหลวง

'สหรัฐฯ'สั่งล่าตัว'ปธน.เวเนซุเอลา' เพิ่มรางวัลนำจับ1,600พันล้านบาท

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved