วันที่ 14 สิงหาคม 2568 จากกณี จากกรณี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พร้อมเจ้าหน้าที่ นำกำลังจับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่มือปราบ” และ น.ส.จิราพร ภรรยา ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตภาค 3 ข้อหาเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และจับกุมเจ้าหน้าที่อีก 3 ราย ข้อหาเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ล่าสุด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า สำหรับปฏิบัติการในวันนี้เป็นการบูรณาการร่วมกันหลายฝ่าย สืบเนื่องจากมีนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ได้แจ้งความดำเนินคดีกับจอนนี่และพวก ในเรื่องการบุกรุกพื้นที่ที่ถูกกันไว้เป็นพื้นที่ป่าสงวนในนามนิคมฯ 20% เป็นพื้นที่สาธารณะ มีไว้สำหรับประชาชนให้ใช้ในส่วนรวม ไม่มีการอนุญาตให้ใครเข้ามาทำประโยชน์ทั้งนั้น แต่ปรากฏว่าจอนนี่และพวกไม่ได้อยู่ในกลุ่มเปราะบาง ที่ไม่มีที่ทำกิน แต่เป็นลักษณะเหมือนนายทุนมาสร้างรีสอร์ทนี้ไว้ หลังจากนี้ทาง บก.ปทส. ก็จะไปแจ้งข้อกล่าวหากับจอนนี่และพวก รวมถึงเจ้าของเดิมด้วยที่ขายให้ น่าจะมีหลายข้อหา อีกส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่เข้ามาอนุมัติในการซื้อขายที่ตรงนี้ โดยคนที่ถูกดำเนินคดีแจ้งข้อหาในวันนี้ยังไม่จบ ยังมีเรื่องของบุคคลที่เราต้องสืบสวนต่อ หรืออาจจะแจ้งข้อหาต่อว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนร่วมทำเอกสารด้วย
จากการตรวจสอบพบว่ามีการทำเอกสารเป็นเท็จ ในการยืนยันว่าที่ตรงนี้มีการปลูกบ้านไว้ก่อนและแสดงหลักฐานไว้ที่ อบต. หลักฐานก้อนนี้ไปตรวจสอบแล้วไม่ตรงกับที่ไปรายงาน อบต. มีการเซ็นเอกสารส่งต่อไปให้อำเภอ ดังนั้นอำเภอจึงต้องรู้เรื่องว่าการดำเนินการตรงนี้เป็นเท็จ จะมีความผิดมาตรา 162 ส่วนจอนนี่ กับภรรยา โดนเรื่องสนับสนุน จึงขออนุญาตศาลออกหมายจับ 5 คน มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 4 ส่วน อีก 1 คนก็มามอบตัวแล้ว และจะสอบปากคำ ส่วนจะให้ประกันตัวหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง
ตนขอแจ้งเตือนไปว่าเจ้าหน้าที่รัฐคนใด การที่อนุมัติพื้นที่อะไรต่างๆ ควรที่จะรู้ว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่หวงห้ามหรือเป็นพื้นที่ของรัฐที่กันไว้ และไปเซ็นอนุญาตทั้งที่มันไม่สามารถอนุญาตได้ และคิดว่าน่าจะมีเคสแบบนี้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ จะต้องขยายเพิ่มเติมต่อ เบื้องต้นผู้ต้องหาบางรายให้การภาคเสธ อ้างว่าเซ็นไปโดยไม่รู้ว่าเป็นพื้นที่ที่ป่า ส่วนบางรายก็ยังปฏิเสธอยู่ พนักงานสอบสวนจึงจะต้องพิจารณาต่อ ส่วนการที่เจ้าหน้าที่รัฐอ้างว่าไม่รู้จะฟังขึ้นหรือไม่นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า การเป็นเจ้าหน้าที่รัฐอ้างไม่ได้อยู่แล้ว ยิ่งอ้างยิ่งเข้าตัว และมองว่านี่เป็นการร่วมกันสร้างพยานหลักฐานเท็จ เพราะจอนนี่ก็มีการให้ข้อมูลอยู่ในเอกสาร เพราะฉะนั้นรู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่ทำอยู่เป็นสิ่งผิดแต่ก็ยังทำ อีกทั้งทางนิคมฯ เคยทำการแจ้งเตือนไปยังรีสอร์ทนี้แต่ถูกข่มขู่กลับมาสองครั้ง ยืนยันว่าพื้นที่ตรงที่เกิดเหตุทางนิคมฯ แจ้งว่ามีรีสอร์ทแค่ 2 ที่ ที่ตรงนี้ก็แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว ส่วนอีกที่กำลังสร้าง แล้วนิคมฯ ทำหนังสือคัดค้านจึงหยุดสร้างไป
และนอกจากรีสอร์ทแล้ว ตอนนี้กำลังตรวจสอบเรื่องทรัพย์สินอยู่ว่าจอนนี่กรุ๊ปทั้งหมดมีอะไรบ้าง เอาเงินที่ไหนมาสร้าง โดยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จะตรวจสอบเส้นทางการเงินของจอนนี่ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเส้นเงินที่จอนนี่เคยพัวพันกับเว็บพนัน ที่เจ้าหน้าที่จับกุม 2 เว็บพนันออนไลน์ของน้องชายจอนนี่ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งตรงนี้เจ้าหน้าที่กำลังทำงานอยู่
ส่วนที่จอนนี่เคยไปขอร้อง ไม่เป็นผลกับคดีเลยใช่หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า เราเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ การเป็นพี่น้องในข้าราชการตำรวจต้องแยกแยะ เราต้องแยกมันเป็นคนละส่วน แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีเรื่องโกรธเคืองอะไรกัน เราเองก็ไม่อยากให้ซ้ำเติม เมื่อถามว่าจอนนี่ดูสงบเสงี่ยม ปกติเป็นคนปราบโจร แต่วันนี้โดนจับเอง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า หลังจากนี้เราบังคับใช้กฎหมาย จอนนี่ก็มีหน้าที่ไปชี้แจงที่ศาล ส่วนจะผิดหรือไม่ก็ว่าไปตามพยานหลักฐาน ย้ำว่าเราไม่ได้โกรธเคืองอะไรกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี