วันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 11.00 น. รถคุมขังขนส่งนักโทษจากเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ได้นำตัวนายไชย์พล วิพา หรีอ ลุงพล อายุ 49 ปี ส่งมาคุมขังระหว่างรอฎีกาต่อที่เรือนจำกลางนครพนม เนื่องจากมีอัตราโทษสูง
ลุงพลเป็นจำเลยในคดีฆ่าน้องชมพู่ อายุ 3 ปี (ในขณะนั้น) โดยศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาจำคุก รวม 3 ข้อหาเป็นเวลา 26 ปี
ในขณะเดียวกันได้มี นางสาวสมพร หรือป้าแต๋น อายุ 47 ปี ภรรยาของลุงพลเดินทางด้วยรถตู้มาจาก ต.กุดเรือคำ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร พร้อมกับทีมงานติดต่อกับเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางนครพนม เพื่อขอเข้าเยี่ยมสามี ซึ่งทางเรือนจำยังไม่อนุญาต เนื่องจากลุงพลต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 5-7 วันตามมาตรการป้องกันโรคโควิด ก่อนจะจำหน่ายให้ไปอยู่แดนใดแดนหนึ่ง
โดย ป้าแต๋น เปิดเผยว่า ทราบข่าวจากสื่อที่เรือนจำมุกดาหารจะส่งตัวสามีมาควบคุมที่นครพนม จึงเดินทางออกจากบ้านพักที่ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เพื่อขอเยี่ยมถามไถ่สามี
“วันนี้เอาแต่หัวใจมาฝากลุงพล เพราะมีหัวใจดวงเดียว ส่วนเรื่องคดีจะขอสู้ในชั้นฎีกาให้ถึงที่สุด” ป้าแต๋นกล่าว
ทั้งนี้ คดีลุงพลหรือนายไชย์พล วิภา ตำรวจได้สรุปสาระสำคัญ ที่เป็นพยานหลักฐานทั้งหมด ได้ดังนี้คือ
1.เส้นทางที่ยากลำบากเกินความสามารถของน้องชมพู่ มีเนินชันมากกว่า 60 องศาขวางกั้นในทุกเส้นทาง
2.พลังงานจากอาหารมื้อสุดท้ายที่น้องชมพู่รับประทานไป ไม่เพียงพอต่อการจะเดินถึงไปถึงบนจุดที่พบศพ
3.ประสบการณ์ของชาวบ้านยืนยันว่า เด็กสามขวบจะปีนป่ายไปถึงได้แค่ชั้นสองของภูเหล็กไฟเท่านั้น
4.กรณีการศึกษาการหลงป่าของชาวบ้านกกตูม ชาวบ้านสามารถหาได้เจอภายในแค่ 1 คืน
5.แพทย์ชันสูตรและกุมารแพทย์ยืนยันว่า พัฒนาการของเด็กอายุสามขวบ ไม่สามารถเดินขึ้นไปเองได้
6.สภาพศพที่เปลือยกายซึ่งบิดามารดายืนยันว่า น้องชมพู่ไม่สามารถถอดเสื้อผ้าเองได้
7.พยานหลักฐานในที่เกิดเหตุตรวจพบเส้นผมของน้องชมพู่ถูกตัดด้วยมือ เชื่อได้ว่าการกระทำของบุคคล
8.นิสัยส่วนตัวของน้องชมพู่กลัวความสูงและกลัวป่า ที่ผ่านมาของน้องชมพู่ไม่เคยไปในป่าหลังบ้านนี้เลยสักครั้งเดียว
ทั้งหมดจึงเป็นการรวบรวมพยานหลักฐาน นำขึ้นสู่การพิจารณาของศาลจังหวัดมุกดาหาร เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ที่ผ่านมา สั่งจำคุกนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล (จำเลยที่ 1) ทั้งหมด 3 ข้อหา คือ ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเล็งเห็นผล จำคุก 15 ปี พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา จำคุก 10 ปี และกระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น จำคุก 1 ปี รวมจำคุกทั้งหมด 26 ปี ก่อนคุมตัวลุงพลเข้าเรือนจำมุกดาหาร
ซึ่งต่อมาจำเลยได้ยื่นขอประกันตัว เเละศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณาเรื่องการปล่อยชั่วคราว ซึ่ง น.ส.นฤมล วิเชียรเเสน อัยการศาลสูงจังหวัดมุกดาหาร ยื่นคัดค้านการประกันตัว และศาลฎีกาได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรงกระทบต่อสังคม เป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้นายไชย์พลจำเลยต้องถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา และได้ย้ายไปคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนมดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี