เรื่องเล่าจากชายแดน! 'พลทหารกล้า'สละดวงตาข้างซ้าย ปกป้องชาติ ภูมิใจที่รับใช้ชาติ

เรื่องเล่าจากชายแดน! 'พลทหารกล้า'สละดวงตาข้างซ้าย ปกป้องชาติ ภูมิใจที่รับใช้ชาติ

วันอังคาร ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 08.35 น.

 

เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 19 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน วีรกรรมพลทหาร "ตะวัน" ผู้เสียสละดวงตาข้างซ้ายเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ กลับมารักษาตัวที่บ้านจังหวัดกำแพงเพชร หากหายจะขอกลับไปช่วยเหลือประเทศต่อ


เรื่องเล่าทหารกล้าชายแดนไทย ชาวกำแพงเพชร คำบอกเล่าจาก พลทหารตะวัน สิงห์เรือง อายุ 21 ปี (น้องเต้ย) ชาว ต.ประชาสุขสันต์ อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร สังกัด ร.4 พัน 1 ค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ หลังได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบถูกลูกระเบิดที่ภูมะเขือ จ.อุบลฯ เมื่อ 28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีอาการบาดเจ็บที่ดวงตาข้างซ้าย หลังได้รับการรักษา และพักฟื้นแต่ดวงตาข้างซ้ายยังไม่สามารถมองเห็นได้ปกติ แม้ความหวังที่จะกลับมามองเห็นได้ไม่เหมือนเดิม ตนในฐานะทหารภูมิใจที่มีส่วนร่วมในการปกป้องประเทศไทย แต่ตนนั้นยังอยากจะทำตามความฝันรับใช้ชาติเป็นทหารต่อไปด้วยใจรัก โดยขณะนี้ก็ได้เข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง และได้รับการอำนวยความสะดวกจากภาครัฐเป็นอย่างดี 

ขณะเดียวกัน (เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 18 ส.ค.68) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ บ้าน ต.ประชาสุขสันต์ อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร โดยเป็นบ้านของ พลทหารตะวัน สิงห์เรือง อายุ 21 ปี เล่าด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ในช่วงเกิดเหตุปะทะกันอย่างดุเดือด ระหว่างกองกำลังทหารไทยกับทหารกัมพูชา ที่ภูมะเขือ จ.อุบลราชธานี ส่งผลให้มีทหารได้รับบาดเจ็บหลายนาย โดยหนึ่งในนั้นคือตนเอง ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดจนสูญเสียการมองเห็นที่ตาข้างซ้าย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่พลทหารตะวัน กำลังปฏิบัติหน้าที่สำคัญปกป้องอธิปไตย จากนั้นมีลูกระเบิดยิ่งจากฝั่งตรงข้ามตกลงมา ทำให้พลทหารตะวันและเหล่ากล้าได้รับบาดเจ็บ 

พลทหารตะวัน สิงห์เรือง  เล่าต่ออีกว่า หลังเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว จากนั้นได้เดินทางกลับมาพักฟื้นอยู่ที่บ้าน ซึ่งมีเพียงดวงตาข้างขวาเพียงอย่างเดียวที่ใช้มอง ส่วนข้างซ้ายได้รับบาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิด และขาข้างขวากระดูกแตกเดินไม่คล่องแคล้ว ยามนอนหลับจะมีอาการเพ้อสะดุ้งตื่นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้นอนไม่หลับ ตนไม่เสียใจ เพราะมันคือการทำหน้าที่ของลูกผู้ชายไทยที่ได้ปกป้องผืนแผ่นดินไทย ซึ่งในส่วนของสถานการณ์การพูดรบตอนนี้ยังไม่จบตนยังอยากที่จะกลับไปช่วยเหลือเพื่อนทหารด้วยกันในการป้องกันประเทศแต่ติดตรงเรื่องของอาการเจ็บที่ตาซึ่งต้องพักรักษาตัวอยู่ในตอนนี้ ซึ่งในช่วงก่อนที่จะถูกเรียกตัวไปแนวหน้าตนได้พูดคุยกับเพื่อนว่าหากถูกเรียกตัวไปแนวหน้าตนเองก็อยากไปเต็มใจที่จะไปช่วย โดยเหตุการณ์ในวันที่ถูกระเบิดถล่ม ตนเองและเพื่อนทหารคนอื่นนั่งหลบอยู่ในคูเวต ซึ่งทหารรุ่นน้องก็ได้ปรับวิทยุซึ่งก็อาจไม่รู้ว่าข้าศึกฝั่งตรงข้ามจะสามารถระบุพิกัดโจมตีได้ ซึ่งหลังจากถูกระเบิดก็หมดสติทุกคน จนมีหัวหมู่มาปลุกตนให้ตื่น ซึ่งก็ได้ช่วยทหารรุ่นน้องให้หลบเข้ามาในหลุมโดยตนเองได้ใช้ตัวกันไว้ ซึ่งหากพลหายตนก็อยากกลับไปทำหน้าที่ช่วยเหลือแนวหน้าให้จบ เพราะเป็นความฝันของชายชาติทหารที่จะไม่ยอมให้เขมรมาทำร้ายคนไทยเด็ดขาด

ด้าน “นางศรสวรรค์ คล่องแคล่วมีชัย” อายุ 43 ปี (ป้าของ พลทหารตะวัน สิงห์เรือง) เล่าให้ฟังว่า “สภาพจิตใจของน้องตอนนี้ไม่ดีนัก ดูจากภายนอกอาจจะดี แต่ภายในตนในฐานะที่เลี้ยงพลทหารตะวันมาตั้งแต่เด็ก สภาพมีความกังวลหวาดระแวง พอได้ยินเสียงอะไรจะมีความผวาขาจะขยับตลอดเหมือนวิ่งไปไหนสักแห่ง ส่วนมือจะปกป้องที่ใบหน้า แล้วจะได้ยินเสียงพูดออกมาให้ทุกคนหลบ ซึ่งได้พบแพทย์อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าพลทหารตะวันจะกลับมาด้วยการเสียดวงตา ตนเองมีความภาคภูมิใจที่พลทหารตะวัน ได้รับใช้ชาติอย่างลูกผู้ชายชาติทหาร

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top