ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำในแม่น้ำน่าน จังหวัดอุตรดิตถ์ – จังหวัดพิษณุโลก ขอความร่วมมือประชาชนริมฝั่งแม่น้ำ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 3 รายงานผลจากการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2568 ว่า ระดับน้ำในแม่น้ำน่านขณะนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจัยสภาพอากาศที่มีฝนตกในหลายพื้นที่ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา และยังปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสู่แม่น้ำน่านจากลุ่มน้ำสาขาตอนบน ประกอบกับการระบายน้ำจาก เขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งดำเนินการตามแผนบริหารจัดการน้ำเพื่อรองรับน้ำฝนฤดูต่อไป ทำให้บางพื้นที่ในจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอตรอน และอำเภอพิชัย เริ่มมีน้ำเอ่อท่วมริมตลิ่งเป็นบางจุด แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเฝ้าระวัง

แนวทางการปรับแผนบริหารน้ำ (เชิงป้องกันและลดผลกระทบ)

เพื่อให้สอดรับกับสภาพน้ำที่เปลี่ยนแปลง และป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น คณะอนุกรรมการฯ มีมติเห็นชอบให้ปรับแผนการระบายน้ำ ดังนี้:

- เขื่อนสิริกิติ์ ปรับอัตราการระบายน้ำจาก 55 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน → เป็น 50 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน

- เขื่อนทดน้ำผาจุก (จ.อุตรดิตถ์) และ เขื่อนนเรศวร (จ.พิษณุโลก)

ปรับอัตราการระบายน้ำให้สอดคล้องกับแผนใหม่ของเขื่อนสิริกิติ์ เพื่อรักษาสมดุลของระดับน้ำในแม่น้ำน่าน สำนักงานชลประทานที่ 3 สั่งการโครงการส่งน้ำฯ ที่เกี่ยวข้องรับน้ำเข้าคลองส่งน้ำเหนือเขื่อนให้มากที่สุด และโครงการฯ นเรศวร ควบคุมปริมาณการไหลผ่านเขื่อนนเรศวรให้มีผลกระทบชุมชนเทศบาลริมตลิ่ง ในเขตจังหวัดพิษณุโลก และ จังหวัดพิจิตร น้อยที่สุด รวมถึงประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนพื้นที่

ในระยะนี้ สำนักงานชลประทานที่ 3 ยังคงดำเนินการระบายน้ำจาก เขื่อนนเรศวร เพื่อรองรับน้ำจากพื้นที่ตอนบน โดยระดับน้ำในแม่น้ำน่านช่วงจังหวัดพิษณุโลก มีแนวโน้มที่ยังเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ติดตามได้ต่อเนื่องซึ่งยังไม่ล้นตลิ่ง จากปริมาณน้ำที่ผันจากแม่น้ำยมผ่านคลองผันยมน่านลงแม่น้ำน่านที่อำเภอพิชัย มาเพิ่มเติม จังหวัดพิษณุโลกคาดว่ามีแนวโน้มลดลงภายใน 2-3 วัน ซึ่งคาดว่าปริมาณน้ำสูงสุดไหลผ่านอำเภอเมืองพิจิตร (ระดับน้ำไม่เกินตลิ่ง)ในวันพรุ่งนี้ และจะคลี่คลายหลังจากระดับน้ำสูงสุดประมาณ 2-3 วัน

สำนักงานชลประทานที่ 3 ยืนยันว่า จะสั่งการในพื้นที่เพื่อ ปรับแผนแบบวันต่อวัน ตามปริมาณน้ำที่ไหลเข้าจากการผันน้ำแม่น้ำยม และลำน้ำสาขา เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด

-(016)