19 สิงหาคม 2568 เมื่อเวลา 08.00 น. พ.ต.ต.ศักดา ต้นจันทน์ สวป.สภ.เมืองนครพนม ได้รับแจ้งจากนายวิศิษฐ์ เหมเมือง ผู้ใหญ่บ้านเหล่าภูมี หมู่ 13 ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม ว่า เมื่อคืนวันที่ 18 สิงหาคม เวลาประมาณ 23.00 น. มีคนร้ายลักลอบเข้าไปในวัดศรีชมชื่น เพื่อก่อเหตุลักทรัพย์เป็นตู้บริจาคเงิน ที่วางอยู่ภายในศาลเจ้าแม่ตะเคียน โดยชาวบ้านให้ความเคารพนับถือและสักการะบูชาอยู่เป็นประจำ และมีชาวบ้านที่อยู่ติดกับวัด เห็นชายคนหนึ่งได้ปีนกำแพงวัดเข้าไป ก่อนจะออกมาพร้อมถุงสีดำที่ห่อหุ้มกล่องลักษณะเหมือนตู้บริจาคที่เคยเห็นอยู่ภายในวัด ซึ่งจากการสังเกต ตำหนิ รูปพรรณ การแต่งกาย และใบหน้าของชายคนดังกล่าว คาดว่าเป็นนายกะลึมคนจรจัดที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน
หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ พบว่าศาลเจ้าแม่ตะเคียนสร้างอยู่ติดกำแพงวัดด้านทิศใต้ ไม่ห่างจากศาลาการเปรียญมากนัก โดยพระอาจารย์เพ็ง จิตสาโร อายุ 53 ปี พรรษาที่ 18 เจ้าอาวาสเปิดเผยว่า ตู้บริจาคตั้งไว้เพื่อให้ญาติโยมที่มากราบไหว้ขอพร ใส่เงินตามกำลังศรัทธา และไม่ได้เปิดมานานหลายปี ไม่รู้ว่าในตู้มีเงินจำนวนเท่าไหร่
ระหว่างตรวจที่เกิดเหตุ มีชาวบ้านพบเห็นนายกะลึมผู้ต้องสงสัย เดินอยู่ในหมู่บ้าน ในมือขวากำธนบัตรใบพัน และพูดคนเดียวเหมือนคนเสียสติ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไปควบคุมตัว ทราบต่อมานายกะลึมชื่อนามสกุลจริง ว่า นายณัฐภัทร ลุภากร อายุ 28 ปี มีที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน เลขที่ 16/1 ชุมชนหนองแสง เขตเทศบาลเมืองนครพนม และจากการสังเกตอาการของนายกะลึม มีท่าทางกระวนกระวาย พูดจาวกไปวนมา ตัวสั่น ลุกลี้ลุกลน เหมือนคนเสพยาเสพติด จึงสอบถามนายกะลึมยอมรับว่าได้เพิ่งเสพยาบ้ามา 4 เม็ด ขณะที่มือขวากำแบงค์พันไว้แน่น เมื่อแกะออกมาเป็นแบงค์พันจำนวน 3 ฉบับ ส่วนในกระเป๋าเสื้อมีเหรียญบาท เหรียญ 5 เหรียญ 10 นับได้เกือบ 500 บาท จากนั้นได้นำตัวไปสอบสวนที่โรงพัก
นายกะลึมซึ่งอยู่ในอาการหลอนยา แต่พอจับใจความคำพูดได้ว่าเป็นคนร้ายเข้าไปขโมยตู้บริจาคในวัดจริง โดยยัดใส่ถุงดำแบกมาทุบกุญแจที่ล็อคไว้ ตรงหน้าบ้านหลังหนึ่ง ก่อนจะเอาตู้เปล่าไปโยนทิ้งในป่าข้างทาง ส่วนในตู้มีแบงค์ 20 บาท และเหรียญเงินชนิดต่างๆ ตอนเช้าก็เอาไปแลกกับร้านขายของชำแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน นับได้เป็นเงินประมาณ 5 พันบาทเศษ แต่เจ้าของร้านขายของชำ ยอมรับแลกให้เป็นแบงค์พันแค่ 3,500 บาทเท่านั้น จากนั้นก็ไปหาซื้อยาบ้ามาเสพ และเดินออกมากลางหมู่บ้าน กระทั่งถูกตำรวจมาจับดังกล่าว
นอกจากนี้ นายวิศิษฐ์ เหมเมือง ผู้ใหญ่บ้านเหล่าภูมี หมู่ 13 ต.หนองญาติ นายกะลึมไม่มีอาชีพอะไร อีกทั้งยังมีพฤติกรรมชอบลักเล็กขโมยน้อย เชื่อว่าสายไฟในป่าช้าที่ถูกคนร้ายเอาไป น่าจะเป็นนายกะลึมคนนี้ แต่ไม่มีหลักฐานมัดตัว กระทั่งครั้งนี้มีทั้งพยานเห็น และหลักฐานชัดเจน ชาวบ้านคงไม่ต้องนอนหวาดระแวงว่าจะมีขโมยแอบมาลักสิ่งของอีกแล้ว
ระหว่างที่อยู่ในห้องสอบสวนฝ่ายปราบปราม สภ.เมืองนครพนม นายกะลึมผู้ต้องหา ยังมีอาการหลอนยา พูดฟังแทบไม่ได้ศัพท์ และไม่อยู่เฉย ซึ่งผลตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดพบเป็นฉี่สีม่วง พร้อมแจ้งข้อกล่าวหามีความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะ ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร, เสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี