วันพุธ ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
'มาริษ'เตรียมเยือนสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยานการจัดซื้อ'กริพเพน'

'มาริษ'เตรียมเยือนสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยานการจัดซื้อ'กริพเพน'

วันพุธ ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 20.59 น.
Tag : กริพเพน กัมพูชา เขมร ชายแดนไทยกัมพูชา ไทยกัมพูชา มาริษ
  •  

“มาริษ” เตรียมเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการ พร้อมร่วมเป็นสักขีพยานการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ Gripen ของกองทัพอากาศ

20 สิงหาคม 2568 นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวประจำสัปดาห์ของกระทรวงการต่างประเทศ  ว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเดินทางไปเยือนประเทศสวีเดนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 24 -26 สิงหาคม 2568 นี้ เพื่อประกาศยกระดับความสัมพันธ์ไทย-สวีเดน สู่การเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ โดยในวันที่ 26 สิงหาคม รมว.กต. จะเข้าพบหารือทวิภาคีกับ นางมาเรีย มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมลงนามในเอกสารความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ไทย-สวีเดน ซึ่งมีสารสำคัญเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคี สู่การเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ และแสดงความมุ่งมั่นแห่งการเมืองในการส่งเสริมและขับเคลื่อนความร่วมมือในสาขาที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน เช่น การกำหนดกลไกหารือทวิภาคีทางการเมืองเชิงยุทธศาสตร์ การค้าการลงทุน ความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ รวมถึงการเปลี่ยนผ่านสีเขียว นวัตกรรม การศึกษา และการส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับประชาชน  ทั้งนี้ ประเทศ สวีเดน เป็นประเทศที่ 2 ในยุโรป ที่มีความสัมพันธ์ระดับสู่การเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ต่อจากสหราชอาณาจักร


นอกจากนี้ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.กต. จะร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามสัญญาว่าด้วยการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ Gripen E/F ระยะที่หนึ่งของกองทัพอากาศ รวมถึงพบหารือกับเอกชนชั้นนำและภาควิชาการของสวีเดน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนโยบายเศรษฐกิจและการลงทุนของไทย และผลักดันความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมสีเขียวอีกด้วย

นายนิกรเดช กล่าวถึงเรื่องการประชุมระดับรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือเอเชีย หรือ ACD สมัยที่ 20 และการประชุมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ในระหว่างวันที่ 1- 3 กันยายน 2568  ซึ่งในปีนี้ไทยเป็นประธานกรอบความร่วมมือเอเชีย ที่เน้นความสำคัญของการส่งเสริมความร่วมมือ ACD ในสาขาหลัก ซึ่งรวมถึงการพัฒนาการที่ยั่งยืนทางการเงิน การเปลี่ยนผ่านดิจิทัล การท่องเที่ยว และการศึกษา ระหว่างวันที่ 1-3 กันยายน นี้ โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมระดับรัฐมนตรี ACD ครั้งที่ 20 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อหารือเกี่ยวกับอนาคตของ ACD และวิธีการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างรัฐสมาชิก รวมถึงการยกระดับ ACD สู่การเป็นองค์กรระดับภูมิภาค โดยจะเป็นการต่อยอดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ที่ไทยเป็นประธานและเป็นเจ้าภาพการประชุมเมื่อวันที่ 6 ก.พ.และเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา

โดยในวันที่ 1 กันยายน 2568 จะเป็นการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส  และวันที่ 2 กันยายน เป็นการประชุมหารือระดับสูง แบ่งเป็น 3 หัวข้อ โดย 1 . ความยั่งยืนทางการคลัง และการเงิน  2. ความปลอดภัยและความครอบคลุมของการเงินดิจิทัล และ 3. การเงินเพื่อเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน  ส่วนวันที่ 3 กันยายน จะเป็นการประชุมระดับรัฐมนตรี ACD ครั้งที่ 20

ทั้งนี้  ACD ก่อตั้งขึ้นโดยข้อริเริ่มของไทย ในปี 2545 เพื่อเป็นกรอบความร่วมมือและเวทีหารือระดับนโยบายระหว่างประเทศในเอเชีย และเพื่อส่งเสริมความเข้าใจ ความไว้เนื้อเชื่อใจ และผลประโยชน์ร่วมกันของประเทศในเอเชีย รวมถึงเพื่อหาทางออกสำหรับปัญหาและความท้าทายระดับโลกในปัจจุบันร่วมกัน  ACD ปัจจุบันมีสมาชิก  35 ประเทศ

นายนิกรเดช กล่าวถึงการแสดงปาฐกถาสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร เกี่ยวกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ครั้งที่ 11 เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยกระทรวงการต่างประเทศ และสภากาชาดไทย ได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดปาฐกถาสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร เกี่ยวกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ครั้งที่ 11 ซึ่งจัดขึ้นที่กระทรวงการต่างประเทศ

โดย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงฟังปาฐกถา และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯเสด็จพระราชดำเนินทุกครั้ง ตั้งแต่จัดครั้งแรก เมื่อปี 2546  การจัดปาฐกถามีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่สาธารณะชน เกี่ยวกับหลักกฏหมายมนุษธรรมระหว่างประเทศ และการดำเนินงานด้านมนุษยธรรม ทั้งยังเป็นการดำเนินการตาม 1 ใน 8 คำมั่นของไทย ที่ประกาศไว้ในการประชุมนานาชาติของสภากาชาดและสภากาชาดเสี้ยววงเดือนแดง ระหว่างประเทศ ครั้งที่ 34 เมื่อตุลาคม 2567 ที่นครเจนีวา เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่ การยกย่องและเคารพกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างกว้างขวาง ซึ่งเป็นการตอกย้ำบทบาทของไทยในเวทีด้านมนุษยธรรมทั้งในประเทศและนานาชาติ โดยในปีนี้นางมารียานา สปอลยาริช เอ็กเกอร์ ประธานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ ICRC ได้ให้เกียรติมาแสดงปาฐกถา ในหัวข้อ การธำรงไว้ซึ่งความเป็นมนุษย์ในสงครามในยุคปัจจุบัน ย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการสร้างความตระหนักรู้และการเคารพกฎหมายกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ทั้งยังเตือนถึงแนวโน้มการใช้ข้อมูลข่าวสารเป็นอาวุธ และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายรักษาหลักขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ในยามสงคราม เพื่อยึดมั่นระเบียบโลก บนฐานนิติธรรม หัวข้อปาฐกถาครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่ทันท่วงทีและสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะในฐานะที่ไทยเป็นประเทศที่กำลังได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรง จากการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ  รวมถึงโดนโจมตีด้วยการเผยแพร่ข่าวปลอมจากกัมพูชา นอกจากนี้ คำกราบบังคมทูลถวายรายงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีใจความสำคัญว่า

“การจัดปาฐกถาครั้งนี้ สะท้อนถึงเจตนารมย์ของไทยในการธำรงไว้ซึ่งกฎหมายมนุษยธรรม แม้ท่ามกลางความขัดแย้งรุนแรง พร้อมชี้ถึงมรดก 150 ปีกระทรวงการต่างประเทศ ที่ยืนหยัดในเส้นทางเจรจาเพื่อแปลความตึงเครียด เป็นความเข้าใจ  และเปลี่ยนความเป็นปฏิปักษ์ เป็นความร่วมมือ เพราะความสงบสุขไม่ได้เกิดขึ้นในสนามรบ แต่เกิดขึ้นบนโต๊ะเจรจา และการทูตจะพิสูจน์คุณค่าได้ก็ต่อเมื่อสามารถขจัดความจำเป็นในการใช้อาวุธออกได้”

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'กองทัพภาคที่2\' ยันไม่มีเหตุยิงปืนใหญ่ใส่ฐานตาควาย คาดเสียงทหารเขมรเหยียบกับระเบิดตัวเอง 'กองทัพภาคที่2' ยันไม่มีเหตุยิงปืนใหญ่ใส่ฐานตาควาย คาดเสียงทหารเขมรเหยียบกับระเบิดตัวเอง
  • ทหารไทยฝาก\'ช่อ\'ช่วยคิดใหม่ ลั่นไม่มีใครอยากเป็นฮีโร่แขน-ขาขาด แค่ทำเพื่อปกป้องแผ่นดิน (มีคลิป) ทหารไทยฝาก'ช่อ'ช่วยคิดใหม่ ลั่นไม่มีใครอยากเป็นฮีโร่แขน-ขาขาด แค่ทำเพื่อปกป้องแผ่นดิน (มีคลิป)
  • \'กต.\'ย้ำคลิปทหารเขมรลอบวางทุ่นระเบิดเป็นหลักฐานชั้นดีในการฟ้องภาคีออตตาวา 'กต.'ย้ำคลิปทหารเขมรลอบวางทุ่นระเบิดเป็นหลักฐานชั้นดีในการฟ้องภาคีออตตาวา
  • ‘โฆษก ทบ.’เผย‘คณะ IOT’เชื่อมั่นไทยอยู่ในกติกาสากล เป็นสุภาพบุรุษ ‘โฆษก ทบ.’เผย‘คณะ IOT’เชื่อมั่นไทยอยู่ในกติกาสากล เป็นสุภาพบุรุษ
  • \'สุรเดช\'หนุนรัฐบาลสร้างรั้วลวดหนามถาวร ชี้พื้นที่ชัดเจนว่าเป็นของไทย 'สุรเดช'หนุนรัฐบาลสร้างรั้วลวดหนามถาวร ชี้พื้นที่ชัดเจนว่าเป็นของไทย
  • อัปเดตสถานการณ์ชายแดน ‘เขมร’ยั่วยุก่อกวนทหารไทย เปิดคำพูดคณะผู้สังเกตการณ์ อัปเดตสถานการณ์ชายแดน ‘เขมร’ยั่วยุก่อกวนทหารไทย เปิดคำพูดคณะผู้สังเกตการณ์
  •  

Breaking News

'กองทัพภาคที่2' ยันไม่มีเหตุยิงปืนใหญ่ใส่ฐานตาควาย คาดเสียงทหารเขมรเหยียบกับระเบิดตัวเอง

จำคุก830ปี! นายหน้าสาวแสบอ้างเป็นทูตตุ๋นแรงงาน 166 คนไปออสเตรเลีย สูญกว่า 10 ล้าน

'มาริษ'เตรียมเยือนสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยานการจัดซื้อ'กริพเพน'

พี่ชายที่แสนดี! 'เป็ก สัณณ์ชัย'รับยื่นมือช่วย'ดิว อริสรา' ลั่นคนล้มไม่น่าข้าม

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved