การค้าชายแดนแม่ฮ่องสอน สงครามในเมียนมาไม่กระทบ ยังสามารถส่งออกกว่า900ล้าน

การค้าชายแดนแม่ฮ่องสอน สงครามในเมียนมาไม่กระทบ ยังสามารถส่งออกกว่า900ล้าน

วันจันทร์ ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 13.46 น.

ทิศทางและอนาคตการค้าชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน แม้มีสถานการณ์ชายแดนในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ก็มีการส่งออกเกือบ 900 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 25 ส.ค.68 เวลา 09.00 น. นายเอกวิทย์  มีเพียร  ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธาน เปิดเสวนา “ ทิศทางและอนาคตการค้าชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมี นางณหฤทัย หอมชื่น หัวหน้าสำนักงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน  จัดขึ้น   ณ โรงแรมอิมพิเรียลธารา แม่ฮ่องสอน รีสอร์ท จังหวัดแม่ฮ่องสอนเพื่อเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์แผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการชายแดน ด้านความมั่นคง (พ.ศ. 2566 – 2570 ) วิเคราะห์สถามการณ์ปัจจุบัน ปัญหา และศักยภาพของการค้าชายแดนในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดโอกาสให้ภาครัฐและเอกชนแลกเปลี่ยนมุมมองทิศทางและอนาคตการค้าชายแดน รวบรวมข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและแนวทางการพัฒนาเชิงพื้นที่ในการผลักดันการค้าชายแดน


โดยได้เชิญหัวหน้าส่วนราชการบริหารส่วนกลาง หัวหน้าส่วนราชการบริหารส่วนภูมิภาค หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ นายอำเภอทุกอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วน และผู้แทนภาคเอกชน ตลอดจนภาคประชาสังคม ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 100 คน เข้าร่วมเสวนา พร้อมกับได้เชิญผู้แทนจากสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ บรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับ แผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการชายแดนด้านความมั่นคง (พ.ศ.ศ. 2566-2570 )และร่วมเสวนากับผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนในพื้นที่ในหัวข้อเกี่ยวกับ ทิศทางและอนาคต การค้าชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน

นายเอกวิทย์  มีเพียร  ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังไม่มีจุดผ่านแดนถาวร เพื่อทำการค้าอย่างเต็มรูปแบบได้  จึงมีความจำเป็นที่จะต้องส่งเสริม และผลักดันให้มีจุดผ่านแดนถารขึ้นในในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งปัจจุบัน ได้ผลักดันให้มีการยกระดับจุดผ่อนปรนการค้า บ้านห้วยต้นนุ่น เป็นจุดผ่านแดนถาวร แต่ยังไม่ได้เกิดผลเป็นรูปธรรมประกอบกับสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้จัดทำแผนปฏิบัติกนการบริหารจัดการชายแดนด้านความมั่นคง (พ.ศ. 2566 - 2570) เพื่อเป็นกรอบการดำเนินงาน ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการชายแดน

โดยกระทรวงมหาดไทยได้รับมอบหมายหน่วยงานรับผิดขอบหลักตามแนวทางที่ 4  เตรียมความพร้อมในการยกระดับจุดผ่านแดนมีเป้าหมายเพื่อศึกษาพื้นที่ในแต่ละจังหวัดชายแดนที่มีความเหมาะสมในการยกระดับเป็นจุดผ่านแดนเภทต่าง ๆ และเตรียมความพร้อมระบบโครงสร้างพื้นฐานบริเวณจุดผ่านแดน กระทรวงมหาดไทย จึงได้ให้จังหวัดชายแดน จำนวน 28 จังหวัด ที่ได้มีการศึกษาพื้นที่ ที่มีศักยภาพ/มีความเหมาะสมในการเปิด/ยกระดับเป็นจุดผ่านแดนประเภทต่าง ๆ ให้ดำเนินการจัดการประชุมหารือร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน  เพื่อหารือ เรื่อง การเปิด/ยกระดับจุดผ่านแดนประเภทต่าง ๆ ในพื้นที่ ที่จังหวัดได้พิจารณาว่าเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ และมีความเหมาะสม และจัดกิจกรรม/การแพร่ประชาสัมพันธ์แผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการชายแดนด้านความมั่นคง (พ.ศ. 2566 - 2570 ) เพื่อเป็นกรอบแนวทางให้แก่ส่วนราชการ และภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน 

นายเอกวุฒิ  ชุมวรฐายี พาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า สถานการณ์การค้าชายแดนแม่ฮ่องสอนปีนี้คึกคักขึ้น เนื่องจากตั้งแต่มีปัญหาการปิดด่านเชียงแสน จ.เชียงราย ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายส่งรถเก่าใช้แล้วจากการนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นและมาส่งออกช่องทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทำให้การค้าชายแดนปีนี้ยอดส่งออกเกือบ 900 ล้านบาท

ส่วนสินค้านำเข้าก็ยังคงเดิมจำพวแร่พลวงที่นำเข้าและนำผ่านไปยังประเทศจีนมูลค่าก็ไม่มาก และไม่กี่วันที่ผ่านมา มีข่าวการปิดด่านแม่สาย เชียงราย แม่สอด จ.ตาก ซึ่งมีทหารเมียนมามาตรวจการนำเข้าในประเทศเมียนมา แต่แม่ฮ่องสอนไม่ได้รับผลกระทบ ยกเว้นจะมีการเปลี่ยนแปลงในประเทศเมียนมา แต่ถ้ามีการเลือกตั้งในเมียนมาในช่วงต้นมีเดือน มกราคม ต้องคอยติดตาม การค้าชายแดนแม่ฮ่องสอนจะอยู่ที่สถานการณ์ต่างประเทศเป็นหลัก เพราะเราเป็นจุดผ่อนปรนไม่ได้เป็นจุดผ่านแดนถาวร.

012

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top