รอบรั้วเมืองใต้ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น...เชื่อว่าปีนี้ การโยกย้าย ทั้งปกครอง,ตำรวจ,ทหาร จะไม่มีการโยกโย้ยืดยาด เพราะการเมือง ที่ไม่มีเสถียรภาพ ที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง โดยมีการยุบสภา ได้ทุกขณะ ทำให้เพื่อไทย ต้องจัดทัพ ของตำรวจ,ทหาร และมหาดไทย เพื่อแย่งชิงความได้เปรียบ ในการเลือกตั้ง เอาไว้ก่อน และที่ต้องจับตามอง คือตำแหน่งของแม่ทัพภาคที่ 4 ที่วันนี้ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ ทำหน้าที่เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ที่แม้จะทำหน้าที่ ได้ดี แต่อาจจะมีการเปลี่ยนตัว เพื่อให้ไปก่อนตำแหน่ง เป็นพลเอก ก่อนเกษียณอายุ เพราะมีกระแส จากทีมที่ปรึกษา ของ รองนายกรัฐมนตรีความมั่นคง ภูมิธรรม เวชยชัย และจากพล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ ที่อยากเห็นความเปลี่ยนแปลง ในด้านยุทธศาสตร์ ของการดับไฟใต้.....แต่ โดยความเป็นจริง และความต่อเนื่อง ในการดับไฟใต้ ต้องให้แม่ทัพไพศาล นั่งในตำแหน่งของแม่ทัพภาคที่ 4 และผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ไปอีก 1 ปี....เหตุผล แม้ว่า สถานการณ์ของความรุนแรง ยังเกิดอย่างต่อเนื่องแต่ถ้าดูข้อมูล ในการด้านการจับกุม จะเห็นว่ามีการจับกุม กลุ่มผู้ที่เป็นแนวร่วม โดยการจับเป็นได้อย่างต่อเนื่อง เป็นจำนวนมาก และผลจากการซักถาม เป็นประโยชน์ อย่างยิ่ง ในการต่อจิ๊กซอร์ เพื่อเข้าถึง เครือข่ายของขบวนการ ในพื้นที่ และ ที่สำคัญ1 ปีที่ แม่ทัพไพศาล หนูสังข์ เป็นผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ไม่มีการวิสามัญฆาตรกรรมกองกำลังติดอาวุธของบีอาร์เอ็น แม้แต่ศพเดียว ทำให้บีอาร์เอ็นไม่สามารถสร้างเงื่อนไข ว่ากอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ใช้ความรุนแรง ไม่มีการแห่ศพ เพื่อการบิดเบือนและโฆษณาชวนเชื่อ ว่าผู้ถูกวิสามัญ เป็นนักรบพระเจ้า เพื่อปลุกระดม ให้ประชาชน เกลียดชัง เจ้าหน้าที่รัฐ และเข้าเป็นแนวร่วม หรือสมาชิก ของบีอาร์เอ็น.....และอีกประเด็น เมื่อไม่มีการเงื่อนไขของการใช้ความรุนแรง กลุ่ม เอ็นจีโอ กลุ่มปีกทางการเมือง กลุ่มภาคประชาสังคม ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ไม่ สามารถขับเคลื่อน งานด้านการเมือง ซึ่งจะเห็นได้ว่า หลังจากการที่กอรมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้แจ้งความดำเนินคดี กับภาคประชาสังคม ทั้งเรื่องวันมาลายูเดย์และเรื่องการจัดกิจกรรมแบ่งแยกดินแดน แล้ว ภาคประชาสังคม ไม่มีการขับเคลื่อน กิจกรรม ที่เป็นเรื่องการเมือง การแบ่งแยกดินแดน แม้แต่อย่างใด.....ก็อยากจะสื่อไปยังผู้มีอำนาจ ในการโยกย้าย เพื่อเปลี่ยนตัว แม่ทัพภาคที่ 4 ว่า สิ่งที่ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น ต้องการคือ แม่ทัพภาคที่ 4 ที่ใช้ความรุนแรง ในการดับไฟใต้ โดยเฉพาะการวิสามัญฆาตกรรม และการปิดล้อม ตรวจค้น ที่สร้างเงื่อนไข ให้กับประชาชน เพื่อที่จะได้ใช้เงื่อนไข ที่เกิดจาก เจ้าหน้าที่รัฐ ไปขยายผล ให้ประชาชน เกลียดชัง และเป็นศัตรู กับเจ้าหน้าที่รัฐ.....ก็รู้ล่วงหน้า ถึงความเคลื่อนไหว ของกองกำลังติดอาวุธ ของบีอาร์เอ็น ที่ขนอาวุธ ข้ามมาจากรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เพื่อเตรียมการก่อการร้ายในจังหวัดนราธิวาส โดยพล.อ.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งกระสากลิ่น ได้เรียกประชุม ให้กองกำลังในพื้นที่ ให้รีบซีลแนวชายแดน เพื่อป้องกันการก่อการร้าย แต่ หลังการประชุมป้องกันเพียง 2 วัน กองกำลังติดอาวุธบีอาร์เอ็น จำนวน 15 นาย อาวุธและระเบิดแสวงเครื่อง ครบมือ ก็บุกเข้าวางเพลิงวางระเบิดโรงไฟฟ้าชีวะมวล ที่ ต.กายูคละ อ.แว้ง จ.นราธิวาส เสียหายอย่างหนัก.....แน่นอนงานการข่าว ของกองกำลังทหาร ในพื้นที่ยังไม่มีพอ จึงไม่ทราบความเคลื่อนไหว ของกองกำลังติดอาวุธ และจุดอ่อน การซีลชายแดน ที่มีแม่น้ำสุไหงโก-ลก เป็นเขตแดน ยังไม่ได้ผล เพราะท่าข้ามเถื่อน กว่า 200 ท่าข้าม ใน อ.ตากใบ อ.สุไหงโก-ลก อ.แว้ง มีมากเกินกำลังของเจ้าหน้าที่ และหลังการก่อเหตุ ปรากฏว่ากองกำลังติดอาวุธ ข้ามหลบหนีไปกินโกปี้ ยังฝั่งมาเลเซีย อย่างลอยนวล.... ถามว่า ถึงเวลาแล้วยังในการที่จะปิดท่าข้ามธรรมชาติ หรือท่าข้ามเถื่อน ให้เหลือน้อย เพื่อง่าย ต่อการควบคุมชายแดนด้าน จ.นราธิวาส และถึงเวลาแล้วยังที่จะสร้างรั้วชายแดนถาวร ที่ไม่ใช่รั้วลวดหนาม และกล้องซีซี.ทีวี เพื่อไว้ให้โจรเผาทำลาย.....ถึงเวลาแล้วยัง ที่ตำรวจ,ทหาร,ปกครอง ต้อง เลิกพฤติกรรม เปิดชายแดน ให้เป็นเขตปลอดเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ขบวนการค้าของเถื่อน มีเสรีภาพ ในการส่งสินค้าเถื่อนข้ามแดน ไปยังมาเลเซีย และส่งสินค้าเถื่อนข้ามแดนจากมาเลเซีย มายังฝั่งไทย เพราะที่การซีลชายแดน ทำไม่ได้ผล เพราะผลประโยชน์ ที่ได้รับการขบวนการทำลายชาติ ใช่หรือไม่ เพราะที่เห็นชัดคือ หลังการโยกย้าย พล.ต.ต.ไมตรี สันตยานุกุล ผบ.ก.ภ.จว.นราธิวาส ไปช่วยราชการที่ ตำรวจส่วนหน้ายะลา และให้ พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9. ทำหน้าที่รักษาการ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ขบวนการค้าวัวเถื่อน ขบวนการค้ายาเสพติด ขบวนการบุหรี่เถื่อน ขบวนการน้ำมันเถื่อนและ อื่นๆที่เถื่อนๆ ยังทำกันเหมือนเดิม ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงในทางที่ดี พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ทราบแล้วเปลี่ยน.....ส่วนที่ อ.สะเดา จ.สงขลา โดยเฉพาะที่ บ้านด่านนอกยังคงมีผับเถื่อน โรงแรมเถื่อน ตู้ไฟฟ้าพนันเถื่อนกว่า 50 ตู้เปิดให้ชาวบ้านและเยาวชนเข้าไปเล่นการพนัน โดยที่ตำรวจท้องที่ ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ถ้างั้น ตำรวจสืบ ภาค 9 ที่มีสาขาย่อยใน อ.สะเดา ลอง เข้าตรวจสอบ ดูหน่อย ว่ามีจริงหรือไม่......
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี