ซุบซิบกทม.: 4 กันยายน 2568

ซุบซิบกทม.: 4 กันยายน 2568

วันพฤหัสบดี ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ซุบซิบกทม.

การดึงชาวโลกรวมถึงประเทศต่างๆเข้ามาเป็นเครื่องมือกระทำมาตลอดและต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งนี้ทั้งหลายทั้งปวงมาเลเซียที่กลุ่มกระบวนการแบ่งแยกดินแดนไทยพำนักอาศัยอยู่รู้ดี แถมยังรู้เสียด้วยซ้ำว่า คำกล่าวหาดังกล่าวเป็นเท็จทั้งสิ้น เนื่องจากการนับถือศาสนาของประชาชนชาวไทยทุกคนทุกสาขาอาชีพ อิสระเสรีขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ ที่สำคัญวันนี้ดูเหมือนผู้ที่นับถือศรัทธาศาสนาอิสลามจะได้สิทธิแทบจะเหนือกว่าไทยพุทธเสียด้วยซ้ำ เช่น การให้สิทธิไทยมุสลิม 3 จังหวัดใต้ใช้กฎหมายอิสลามได้อันเกี่ยวกับมรดกการทำกิจกรรมทางศาสนา มีดาโต๊ะยุติธรรมรับผิดชอบดูแลความยุติธรรม การศึกษา ประเพณีทุกอย่างเทียบเท่าไทยพุทธไม่มีอะไรน้อยหน้า หรือต่ำกว่า โรงเรียนนายร้อย มหาวิทยาลัย เงินทุน ตำแหน่งราชการ การเมืองทุกระดับเท่าเทียม...ที่สำคัญการก่อสร้างมัสยิดรัฐฯยังสนับสนุนเงินภาษีชาวบ้านที่เก็บได้ของคนไทยทั่วประเทศจัดสรรให้ชนิดวัดไทยพุทธอับเฉา เพราะต้องหาเงินทอด ผ้าป่า-กฐิน กันเองของพุทธบริษัทสี่ หนำซ้ำวัดยังถูกตรวจสอบจากรัฐฯสุดช้ำหัวใจอกหัวใจอีกต่างหาก แต่ไม่มีใครกล้าตรวจสอบมัสยิดไม่ว่าทำอะไร อย่างนี้ล้วนเป็นความเหนือกว่า หรือใครต่ำกว่าใครกันแน่ ประเด็นนี้คนพุทธ“น้ำท่วมปอด”พูดอะไรไม่ออก แล้วจะบอกว่ารัฐไทยกดขี่ขูดรีดบังคับไทยมุสลิม 3 จังหวัดใต้“หมวกขาว”เต็มพื้นที่ได้อย่างไร...ยิ่งกว่านั้นสิทธิที่แลดูเหมือนความเหนือกว่าไทยพุทธ ท่ามกลางไทยพุทธนั่ง”คอตกคอหอย“คล้ายคน“อมสาก”ทั้งด้าม คือ การแสวงบุญของพี่น้องมุสลิม รัฐไทยจัดบรรณาการสนับสนุนสุดอลังการยิ่งใหญ่ เพื่อให้พี่น้องมุสลิมทั่วประเทศไปแสวงบุญศักดิ์สิทธิ์อันถือเป็นหัวใจหลักทางศาสนา ทว่าการทอด ผ้าป่า-กฐิน บำรุงพุทธศาสนาชาวพุทธ ประชาชนทำกันเองทั้งหมด หรืออื่นๆทั้งที่ประชาชนแลเห็นและแลไม่เห็น อันถ้าจะคิดถ้าจะพูดว่า“มุสลิม”ล้ำหน้ากว่าพุทธหรือศาสนาอื่นก็สามารถพูดได้ แล้วที่กระบวนการ“บ้าบอคอแตก”ออกมาแหกปากโฆษณาชวนเชื่อโจมตีใส่ร้ายเสียหายทุเรศๆ โดยนั่ง“หาวเป็นดาวเดือน”อยู่ในแผ่นดินมาเลเซียนั้นเป็นเท็จทั้งเพ ...การจะพูดว่ารัฐไทยชิงชังบังคับกดขี่มุสลิมหรือจ้องทำลายไทยมุสลิม 3 จังหวัดใต้ก็ล้วนเลอะเทอะจอมปลอม ...คำว่า“บังคับ”ที่กลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนออกมาพูด ถ้าดูจากการที่ไทยพุทธไปแต่งานกับไทยมุสลิม หรือมุสลิมสมัครใจแต่งงานกับไทยพุทธ ตรงนี้ถามว่าใครบังคับใคร  ไทยพุทธต่างหากถูกบังคับให้เข้า“สุหนัด” คือ เข้ารับศาสนาอิสลามก่อนจึงจะอนุญาตให้มีการแต่งงานเกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นจะครองคูกันไม่ได้ ...แล้วอย่างนี้กลุ่มขบวนการ“บ้าบอคอแตก”บัดซบ ออกมาแหกปากพูดได้อย่างไรว่ารัฐไทยทอดทิ้งไทยมุสลิม และเรื่องนี้พี่น้องไทยมุสลิมผู้เห็นธรรมทั้งประเทศรู้ดีชั่วว่า“ไม่จริง” ดังนั้นจุดประสงค์ที่กลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนเดินสายโฆษณาประชาสัมพันธ์ทั้งหมด ทำเพื่อตัวเอง ไม่มีอุดมการณ์ใดๆทั้งนั้น หลอกลวงคนไทยมุสลิม หลอกลวงชาวโลก การมีอุดมการณ์ต้องไม่ฆ่านบริสุทธิ์และเห็นต่าง ที่สำคัญไม่มีประเทศไหนสนับสนุน แต่แปลกใจที่มาเลเซียซึ่งประเทศไทยเคยร่วมมือกันปราบโจรจีนคอมมิวนิสต์ให้จนสำเร็จ เพราะอะไร เหตุใด จึงให้กระบวนการนี้อาศัยสั่งการปฎิบัติสร้างสถานการณ์ชายแดนใต้ให้ร้อนระอุมาชั่วนาตาปี...


ไผ่ฎำ

036

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top