วันที่ 3 กันยายน 2568 ที่บ้านอีปาด ต.อีปาด อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ หลังทราบข่าวว่า ส.อ.สุทธิชัย เรื่อเรือง สังกัดกองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 ได้กลับบ้านมารักษาตัวแล้ว หลังออกไปปฏิบัติหน้าที่บินโดรนทิ้งระเบิดใส่ทหารกัมพูชา แล้วบาดเจ็บจากการถูกสะเก็ดระเบิดของกัมพูชา

ส.อ.สุทธิชัย เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า วันนั้นเป็นวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ตนได้รับภารกิจบินโดรมที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ ภารกิจในวันนั้นจะมีทหารออกปฏิบัติการทั้งหมด 10 นาย ซึ่งในนั้น 4 นาย จะเป็นของหน่วยตนที่มีหน้าที่นำโดรนออกไปทิ้งระเบิด

โดยระหว่างการปฏิบัติหน้าที่นั้นมีการยิงปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา โดยจังหวะที่ตนกำลังก้มลงเก็บคอมพิวเตอร์ได้มีระเบิดที่ยิงมาจากฝั่งกัมพูชาได้ตกลงข้าง ๆ ทำให้สะเก็ดระเบิดโดนเพื่อนทหารและตน จนทำให้เพื่อนเสียชีวิตทั้ง 3 นาย และตนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งตนโดนสะเก็ดระเบิดเข้าที่ลูกตาทั้ง 2 ข้าง มองเห็นฝ้ามัวไปหมด และแขนข้างขวาโดนสะเก็ดระเบิดจนกระดูกหักตอนแรกตนคิดว่าแขนขาดไปแล้ว ตนตั้งสติได้จึงร้องบอกให้เพื่อน ๆ ดึงตัวเข้าที่กำบัง จากนั้นเรียกหน่วยพยาบาลเข้าช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล

ส่วนอาการตอนนี้ดีขึ้นแล้วหมอให้ออกจากโรงพยาบาลมารักษาตัวที่บ้านตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา หมอได้ผ่าตัดเอาสะเก็ดระเบิดออกจากตาทั้ง 2 ข้างตอนนี้ตาข้างขวามองเห็น 100% แล้วแต่ตาข้างซ้ายยังมัวอยู่นิดหน่อยต้องใช้น้ำตาเทียมหยอด ส่วนแขนหมอได้ทำการผ่าตัดใช้เหล็กดามกระดูกหมอได้ผ่าตัดเย็บถึง 3 ชั้น เย็บกว่า 100 เข็ม ตอนนี้ก็เริ่มแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ

ส.อ.สุทธิชัย เรื่อเรือง กล่าวต่ออีกว่า จากการดูแม่ทัพภาคที่ 2 เล่าถึงตนและทหารทุกนายที่ได้รับบาดเจ็บตนรู้สึกภาคภูมิใจและขอขอบคุณแม่ทัพภาคที่ 2 ที่ให้เกียรติและให้การดูแลพร้อมเข้ามาให้กำลังลูกน้องทุกนายที่ได้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ ถ้าตนหายเป็นปกติแล้วถึงร่างกายจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ตนก็ยังจะขอกลับไปรับใช้ชาติต่อไป