ตำรวจ บก.ปพ.กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB รวบบัญชีม้า รับโอนเงินแก๊งลวงรัก หลอกให้เชื่อใจ ก่อนให้วิดีโอคอลลามก ข่มขู่เรียกเงินเกือบ 2 แสนบาท 

วันนี้ (4 ก.ย.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB มอบหมายให้ พล.ต.ต.ธีรชาติ ธีรชาติธำรง ผู้บังคับการปฏิบัติการพิเศษ (บก.ปพ.) พ.ต.อ.สุรพันธ์ มั่นคงดี พ.ต.อ.วรศักดิ์  บัณฑิต รอง ผบก.ปพ. พ.ต.อ.ชนกฤดิ พงษ์ศิริ ผกก.สายตรวจ บก.ปพ. พ.ต.ท.ราชัน แก้วคูนอก รอง ผกก.สายตรวจ บก.ปพ. พ.ต.ต.อาชวิน อาจทวี สว.กก.สายตรวจฯ นำกำลังจับกุม น.ส.ปริญาณี อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.1385/2566 ลงวันที่ 26 ธ.ค.2566 ข้อหาร่วมกันรีดเอาทรัพย์ จับกุมได้ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ซอยทองย้อย ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี                         

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากมีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก ชื่อ “นภาพร” ใช้ภาพโปรไฟล์เป็นหญิงสาวหน้าตาดี เพิ่มเป็นเพื่อนทางเฟซบุ๊กกับผู้เสียหาย และมีการส่งข้อความทักทายและพูดคุยกันจนเชื่อใจ ต่อมาได้มีการโทรศัพท์ผ่านเฟซบุ๊กและมีการสนทนาแบบวิดีโอคอลกับผู้เสียหาย ระหว่างนั้นได้มีการล่อลวงให้เชื่อใจ แล้วให้ผู้เสียหายถอดเสื้อผ้าในลักษณะอนาจาร เมื่อคนร้ายข่มขู่ว่าวิดีโอคอลทั้งหมดมีการบันทึกภาพและคลิปไว้ พร้อมข่มขู่ให้โอนเงินให้ ไม่เช่นนั้นจะนำคลิปลับไปเผยแพร่สู่สาธารณะ ทำให้ผู้เสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง ผู้เสียหายเกรงว่าการเปิดเผยคลิปวิดีโอดังกล่าวจะทำให้ได้รับความเสียหาย จึงยินยอมโอนเงินไปที่บัญชีธนาคาร รวม  5 ครั้ง เป็นเงิน 190,000 บาท หลังจากโอนเงินไปแล้ว คนร้ายยังคงข่มขู่ให้โอนเงินให้อีกอย่างต่อเนื่องไม่จบไม่สิ้น ผู้เสียหายจึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน จนนำไปสู่การรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนจะขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหารายนี้ไว้

จากนั้นชุดสืบสวนได้เร่งติดตามตัวผู้ต้องหา กระทั่งทราบว่าภายหลังก่อเหตุได้หลบหนีมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงเข้าตรวจสอบเป้าหมาย จนพบผู้ต้องหาบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ซอยทองย้อย ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ก่อนจะจับกุมตัวตามหมายจับ สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ดำเนินคดีต่อไป

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา พบว่ามีหมายจับติดตัว ได้แก่ หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.1382/2566 ลงวันที่ 22 ธ.ค.2566 ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์โดยการแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง

015