กรมอุตุฯ เตือนมรสุม ส่งผลให้ทั่วไทย 49 จังหวัด มีฝนตกหนัก กทม.อ่วม ตกร้อยละ 80 ส่วนชาวปากน้ำ ยังสาหัสน้ำท่วมทั่วเมือง โรงเรียน 25 แห่งประกาศหยุดการเรียนการสอน  สลด! หนุ่มขี่ จยย.ถูกไฟดูด เสียชีวิต ขณะที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ฝนกระหน่ำ น้ำระบายไม่ทัน ส่งผลน้ำท่วมถนน-จราจรติดหนึบ

เมื่อวันที่ 8 กันยายน น.ส.สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 9 เรื่อง พายุ “ตาปะฮ์” มีใจความว่า พายุโซนร้อน “ตาปะฮ์” (TAPAH) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรงแล้ว มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 150 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงใต้ของมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศเหนือค่อนตะวันตกเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ วันเดียวกันนี้ พายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าประเทศไทย จึงไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้นขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าว ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางช่วงวันดังกล่าว

ส่วนพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ใน กทม.และปริมณฑล และภาคตะวันออก บริเวณ จ.นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมขัง น้ำรอการระบายโดยเฉพาะบริเวณชุมชนเมือง เช่น กทม.และปริมณฑล รวมทั้งระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

ขณะที่พยากรณ์อากาศรายภาคนั้น ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ยโสธร กาฬสินธุ์ มุกดาหาร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร รวมทั้ง กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณ จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ตั้งแต่ จ.ภูเก็ต ลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร

ที่ จ.สมุทรปราการ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากเกิดฝนถล่มหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายพื้นที่มีน้ำท่วมสูง 20-50 เซนติเมตร การจราจรเป็นอัมพาต น้ำทะลักเข้าบ้านเรือน ถนนสายหลัก เช่น ถนนศรีนครินทร์ ถนนสุขุมวิท และถนนเทพารักษ์ รถเล็กสัญจรด้วยความยากลำบาก การจราจรติดขัดอย่างหนัก โดยสถานการณ์ยังส่งผลต่อเนื่องถึงช่วงเช้า ทำให้เดินทางยากลำบาก การจราจรติดขัดอย่างหนัก ถนนบางสายวิ่งสัญจรได้เพียง 2 ช่องทาง ขณะที่เมืองปากน้ำ พระประแดง และบางพลี ได้รับผลกระทบ น้ำเริ่มทะลักเข้าบ้านเรือน ชาวบ้านต่างขนของขึ้นที่สูง

อีกด้านหนึ่ง โรงเรียนในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ได้มีการออกประกาศหยุดการเรียนการสอนชั่วคราวจากสถานการณ์น้ำท่วม โดยให้มีการเรียนผ่านทางออนไลน์ รวม 25 แห่ง

ขณะเดียวกัน ช่วงกลางดึก ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งเหตุพบชายถูกกระแสไฟฟ้าชอตเสียชีวิต ริมถนนแพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายธนากร นาคสุทิน อายุ 17 ปี พบร่างบนฟุตปาธ และจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีขาว ทะเบียน 5 ขฌ 3157 กรุงเทพมหานค ล้มพิงกับแบริเออร์ปูนแนวก่อสร้าง สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตได้ขับจักรยานยนต์ฝ่าน้ำที่ท่วมสูง ระหว่างนั้นมีรถกระบะ ขับผ่านมาด้วยความเร็ว ทำให้เสียหลัก ผู้เสียชีวิตใช้มือจับแบริเออร์ไปถูกสายไฟที่กระแสไฟฟ้ารั่ว จึงชอตผู้เสียชีวิตจนล้มและเสียชีวิตดังกล่าว เจ้าหน้าที่ต้องตัดกระแสไฟฟ้าก่อนเข้าตรวจสอบ ก่อนจะพิจารณาดำเนินคดีกับผู้รับเหมางานก่อสร้างดังกล่าวต่อไป

ส่วนที่ จ.ชลบุรี วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณเมืองพัทยา หลังจากฝนตกหนักไม่ถึงชั่วโมง ได้ส่งผลให้น้ำท่วมขังในหลายพื้นที่อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำ เช่น ถนนรถไฟ เข้าซอยเขาตาโล และถนนทางหลวงพัทยา รถยนต์และจักรยานยนต์หลายคันได้รับความเสียหาย ทางตำรวจและกู้ภัย ต้องนำป้ายเตือนมาติดตั้ง และปิดเส้นทางเพื่อความปลอดภัย พร้อมทั้งเร่งประสานการระบายน้ำ

ขณะที่สถานการณ์น้ำในคลองโผงเผง จ.อ่างทอง ได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนพื้นที่หมู่ 3 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก ซึ่งอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ ภายหลังเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนที่ 1,650 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)ต่อวินาที เพื่อรองรับสถานการณ์น้ำจากภาคเหนือ ทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากน้ำที่ท่วมสูงขึ้น อยู่ในระดับ 50-60 เซนติเมตร โดยต่างต้องเร่งขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูงอย่างเร่งด่วน บางส่วนได้ขนย้ายไปไว้ที่บริเวณริมถนน ทั้งนี้ สำหรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลผ่านพื้นที่ จ.อ่างทอง ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสถานีวัดน้ำหน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง มีระดับน้ำอยู่ที่ 6.91 เมตร จากระดับตลิ่ง 10.00 เมตร และมีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,667 ลบ.ม.ต่อวินาที