ตูมสนั่นรถขนสั่งสินค้าเละทั้งคันกระจัดกระจายเต็มพื้นถนน ส่งผลรถยนต์ที่จอดใกล้เคียงและบ้านเรือนใกล้เคียงได้รับแรงระเบิดเสียหายด้วย สันนิฐานเกิดจากการระเบิดของพลุและสารแอลกอฮอล์ในเครื่องสำอาง

วันที่ 10 กันยายน 2568 ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันถึงวินาทีเสียงระเบิดของรถยนต์ขนส่งสินค้า ก่อน วินาทีที่ 23.15 น. เสียงดังสะนั่นไปทั่วบริเวณสร้างความแตกตื่นให้กับประชาชนช่วงยามค่ำคืน ก่อนจะเกิดเพลิงลุกไหม้รถยนต์กระบะที่ต่อเป็นรถตู้ขนส่งสินค้า ที่บริเวณถนนติดกับแยกนิสสัน ถนนราชบุรี-เขางู ตำบลเจดีย์หัก อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี

โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ พบซากรถยนต์กระบะสีบรอนซ์เงิน ขนส่งสินค้าเละกระจัดกระจายเต็มพื้นผิวถนนและชินส่วนกระเด็ดไปตกที่บริเวณสี่แยกใต้สะพานห่างประมาณ 200 เมตร นอกจากนี้ยังพบบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงได้รับแรงระเบิด กระจก ประตู และหลังคาปตกเสียหาย โดยเฉพาะรถยนต์ที่จอดอยู่ในพื้นที่ได้รับความเสียหายไปด้วยอีกหลายคัน พร้อมกันนี้ที่พื้นถนนยังพบเศษซากคันเบ็ดตกปลา ลอกคันเบ็ดตกปลา เอ็นและสายเบ็ดตกปลา ท่อยาง ถุงมือผ้า ไฟฉายส่องกบ เครื่องสำอาง แผ่นกาวดังแมลงวัน และ ยังพบซากสินค้าที่ถูกไฟไหม้ และ แตกกระจัดจายด้วยแรงระเบิดเต็มพื้นถนนอีกจำนวนมาก 

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง และ อาสาสมัครมูลนิธิประถมบรมราชานุสรณ์ราชบุรี เข้าตรวจสอบและกันพื้นที่ไม่ให้รถสัญจร และ กันประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ พร้อมกันนี้รถดับเพลิงได้ฉีดสกัดดับเพลิงที่รุกไหม้ซากรถยนต์ และควบคุมเพลิงไว้ได้ทั้งหมด

จากการสอบถาม น.ส.เรณู ชาวบ้านตำบลเจดีย์หัก อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ทราบว่า รถยนต์ที่เกิดระเบิดคันดังกล่าวเป็นของร้านตนเอง ซึ่งจดเป็นรูปแบบบริษัท จำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ด และมีรถยนต์บรรทุกขนส่งสินค้าไปจำหน่ายตามร้านค้าต่างๆ โดยเฉพาะคันเบ็ดตกปลา ซึ่งรถคันที่เกิดระเบิดนี้มีพลุที่เหลือจากการขายในช่วงเทศกาลลอยกระทง เทศกาลปีใหม่ ที่ผ่านมาแล้วเหลือจากการขาย ซึ่งไม่ได้นำลงออกมาจากรถ ประกอบกับ มีวัตถุไวไฟจำพวกสารแอลกอฮอล์จากเครื่องสำอาง เช่นลิปสติก ที่ปัดขนตา และ ยังมีไฟฉายส่องกบที่ติดศีรษะซึ่งบรรจุถ่านแบบชาร์จได้ หรือ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบชาร์จไฟได้ สันนิฐานว่าเป็นวัตถุที่ทำให้ติดไฟง่ายและเกิดระเบิด

ซึ่งก่อนเกิดเหตุระเบิด นายสรศักดิ์ ชาวเชียงรายพนักงานขับรถยนต์ขนส่งสินค้าคันดังกล่าว เดินทางกลับจากการไปส่งสินค้าซึ่งกำลังจะขับเข้ามาจอดที่บริเวณหน้าร้าน จู่ๆเกิดมีประกายไฟลุกไหม้ จึงรีบลงมาจากรถ จังหวัดเดียวกันที่นายสยามรัฐ ซึ่งเป็นเจ้าของรถ และเป็นบุตรชายของตนเอง เข้าไปช่วยดับไฟที่รถ แต่เนื่องจากไฟได้ไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ทั้งคู่จึงได้รีบถอยออกมาก่อนจะเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น เจ้าหน้าที่ได้นำทั้งสองคนซึ่งได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลซึ่งพ้นขีดอันตรายแล้ว 

จากการสันนิฐานของเจ้าหน้าที่คาดว่าการระเบิดดังกล่าว คาดว่าเกิดจากแรงระเบิดของพลุ และวัตถุไวไฟจำพวกสารแอลกอฮอล์จากเครื่องสำอางถ่านแบบชาร์จได้ หรือ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบชาร์จไฟได้ ทำให้ติดไฟง่ายและเกิดระเบิดจนรถยนต์เละกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ ทั้งนี้ต้องรอทางกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบถึงสาเหตุที่ระเบิดอย่างแท้จริงอีกครั้ง และโชคดีที่ไม่มีประชาชนได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียชีวิตจากแรงระเบิดในครั้งนี้