ภูมิใจไทย เปิดบ้านต้อนรับนักเรียน รร.สตรีสิริเกศ พาเยี่ยมชม ห้องประชุม สส.-ห้องแถลงข่าว แชะห้องพักสื่ออมวลชน พร้อมเปิดห้องเรียน “นิติรัฐ” รวบรวมองค์ความรู้ รัฐศาสตร์-นิติศาสตร์ ด้านนายกฯ จัดบิ๊กเซอร์ไพรส์ถาม-ตอบใกล้ชิด อ้อนจะได้นำความรู้มาดูแลพวกลุง
10 กันยายน 2568 เมื่อเวลา 15.45 น. ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย มีนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายวิชานิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ จากโรงเรียนสตรีสิริเกศ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ประมาณ 40 คนพร้อมกับคณะอาจารย์ เดินทางมาศึกษาดูงานนอกห้องเรียนพร้อมกับเข้าเรียนในห้องเรียน“นิติรัฐ”
โดยมีนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้การต้อนรับและเป็นวิทยากรและอาจารย์พิเศษ โดยเปิดเผยว่า วันนี้ มีนักเรียนจำนวน 40 คน ที่เดินทางเพื่อเข้ามาศึกษาในห้องเรียนนิติรัฐเพราะมีความสนใจในเรื่องของนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์
จากนั้นนายสิริพงศ์ ได้พาคณะนักเรียนเข้ามาเยี่ยมชมภายในที่ทำการพรรคภูมิใจไทยโดยเริ่มต้นที่บริเวณห้องแถลงข่าว และห้องพักสื่อมวลชน อยู่ที่บริเวณชั้น 2 ของที่ทำการพรรคภูมิใจไทย
ต่อด้วยพาเยี่ยมชมห้องประชุม สส.พรรค ที่บริเวณ 4 โดยห้องนี้ นายสิริพงศ์ได้กล่าวต้อนรับทุกคนเข้าสู่ห้องเรียนนิติรัฐ เริ่มต้นด้วยการเปิดสไลด์ประวัติความเป็นมาของพรรคภูมิใจไทยตั้งแต่วันก่อตั้งที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคและปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่บรรยายตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงพรรคภูมิใจไทยมาจนถึงแนวทางการดำเนินงานตลอดระยะเวลา 16 ปี และกำลังก้าวสู่ปีที่ 17 ภายใต้บ้านสีน้ำเงินซึ่งเป็นสีประจำพรรคภูมิใจไทย
จากนั้นรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยยังได้บรรยายเกี่ยวกับแนวนโยบายของพรรคภูมิใจไทยที่จะเร่งดำเนินการในช่วงที่พรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจที่จะนำ“โครงการคนละครึ่ง”กลับมา
จากนั้น เวลา 16.35 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้เข้ามาร่วมพูดคุย-ตอบคำถาม โดยทันทีที่ นายกฯ มาถึงที่ห้องประชุม น้องๆ ได้ส่งเสียงกรี้ด และนายอนุทิน ได้ทักทายน้องๆ ว่า ฮัลโหล พร้อมถามว่า มีใครจะถามอะไรไหม รวมทั้งได้แนะนำตัว นายสันติ พร้อมพัฒน์ ด้วย
ตัวแทนนักเรียน ถามว่า ในระยะเวลา 4 เดือนที่เป็นฐบาล ได้นำนโยบายหรือแนวคิดอะไรที่พิเศษ ที่พัฒนาแล้วต่อยอดในช่วงที่เป็นรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า 4 เดือนไม่ใช่เวลาที่ยาวนาน สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้สำหรับประเทศไทยคือ ต้องเร่งแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ให้พวกเรา ให้ญาติเราชาวศรีสะเกษ สมัยก่อนเรายังข้ามเอาของไปขาย ไปหาเพื่อน หาญาติสะดวก ตอนนี้ทำไม่ได้ ต้องเร่งให้ประชาชนกลับมาสู่ความเป็นปกติให้เร็วที่สุด ส่วนเรื่องการทหาร การทูต การเจรจาความร่วมมือ หรือการสู้รบต่อสู้ ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของทหาร เราต้องหาวิธีที่ทำให้ประชาชนใช้ชีวิตเป็นปกติให้เร็วที่สุด
จากนั้น นายอนุทิน ได้ให้น้องๆ ได้ถ่ายรูปร่วมกัน สร้างเสียงฮือฮาเป็นอย่างมาก รวมถึงได้ร่วมอวยพรทุกคน ในเรื่องการเรียนและการดำเนินชีวิต ว่า เราจะได้นำความรู้ที่ได้มาพัฒนาบ้านเมือง รับใช้ชาติ มาดูแลพวกลุงนี่แหละ เพราะอีกหน่อยก็แก่แล้ว ฝากบ้านเมืองไว้กับลูกหลาน ขอให้โชคดีทุกคน.
012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี