ยังเป็นปริศนา! เผยผู้เสียชีวิตทำผิดกฎ "ห้ามลงจากรถ" ตำรวจเร่งหาสาเหตุสิงโตรุมขย้ำ ผอ.คุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าฯ สั่งทบทวนมาตรการความปลอดภัย ผจก.สวนสัตว์ ยันเข้มงวดเกิน 100% 

วันที่ 10 ก.ย. เวลา 11.30 น. ร.ต.ท.วรธัช สว่างจิตต์ รอง สว.(สอบสวน) สน.คันนายาว ได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ ถูกสิงโตรุมกัดได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในสวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ ถนนปัญญา-อินทรา แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่โซนสวนสัตว์เปิด (ซาฟารีปาร์ค-บริเวณสิงโตและเสือ) ภายในป่าพบสิงโต 5 ตัว กำลังรุมกัดร่างมนุษย์ เจ้าหน้าที่เพื่อนร่วมงานของผู้บาดเจ็บ ได้บีบแตรรถยนต์และขับเข้าขวางเพื่อไล่ฝูงสิงโตออกไป จากนั้นรีบเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อภายหลัง นายเจียน รังคะรัสมี อายุ 58 ปี ตำแหน่ง Supervisor ทำหน้าที่ขับรถควบคุมสัตว์ ให้อยู่ในพื้นที่ที่กำหนดเพื่อให้นักท่องเที่ยวชม 

จากการตรวจสอบร่างกาย มีบาดแผลฉีกขาดที่ศีรษะ แขน ขา และลำตัว อาการสาหัส จึงรีบนำส่ง รพ.อินทรารัตน์ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในที่เกิดเหตุยังพบรถปิกอัพยกสูงลายขาว-ดำ ของซาฟารีเวิลด์ (รถเรนเจอร์) มีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งอยู่ในโซนดังกล่าว สามารถบันทึกวีดีโอเหตุการณ์ ขณะสิงโตรุมทำร้ายได้อย่างชัดเจน

พ.ต.อ.นิรุชพล เปิดเผยว่า นายเจียน ผู้เสียชีวิตทำหน้าที่ขับรถควบคุม และต้อนสัตว์ให้อยู่ในโซนที่กำหนด จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายเจียน ได้ลงจากรถโดยเปิดประตูทิ้งไว้ และหันหลังให้กับฝูงสิงโต ก่อนถูกฝูงสิงโตรุมทำร้ายจนเสียชีวิต ขณะนี้ยังไม่ทราบเหตุผลที่ลงจากรถ ต้องรอการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม

ส่วนบรรยากาศภายในสวนสัตว์หลังเกิดเหตุ ยังคงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติเข้าใช้บริการตามปกติ ขณะเดียวกันตำรวจ สน.คันนายาว ได้ประสานกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวมถึงกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาไซเตส เข้าตรวจสอบพื้นที่

นายสดุดี พันธุ์ภักดี ผอ.กองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาไซเตส เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสวนสัตว์แห่งนี้เป็นประจำทุกเดือน ทั้งในด้านจำนวนสัตว์เลี้ยง มีสิงโตทั้งหมด 32 ตัว รวมถึงการตรวจสอบสถานที่เลี้ยง และเจ้าหน้าที่ผู้ดูแล สาเหตุผู้เสียชีวิตลงจากรถต้องสอบถามข้อเท็จจริงอีกครั้ง โดยเฉพาะพฤติกรรมของสิงโต จะให้สัตวแพทย์ประเมินเพิ่มเติม สวนสัตว์แห่งนี้ไม่เคยเกิดเหตุสัตว์ทำร้ายเจ้าหน้าที่ หลังจากนี้จำเป็นต้องทบทวนมาตรการความปลอดภัยใหม่

เจ้าหน้าที่สวนสัตว์รายหนึ่ง เปิดเผยว่า นายเจียนทำงานที่นี่มากว่า 30 ปี มีหน้าที่ดูแลสิงโตและเสือ คุ้นชินกับสัตว์เป็นอย่างดี ไม่เคยทราบว่าเคยถูกทำร้าย หรือมีโรคประจำตัวมาก่อน โดยตามระเบียบแล้วเจ้าหน้าที่ห้ามลงจากรถ และจะต้องปฏิบัติหน้าที่คู่กัน 2 คนเสมอ ต่อมามีรายงานว่า สาเหตุที่ผู้เสียชีวิตลงจากรถ เพราะทำของตกจึงเปิดประตูรถลงมาเก็บ ก่อนจะถูกสิงโตเข้าทำร้าย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์แพทย์ศัลยกรรม รพ.พระมงกุฎเกล้า เป็นนักท่องเที่ยวที่เห็นเหตุการณ์พอดี เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตลงจากรถ แล้วหันหลังให้กับฝูงสิงโต เห็นสิงโต 1 ตัว อยู่ห่างออกไปราว 10 เมตร ค่อยๆ ย่องเข้ามาตะครุบจากด้านหลังและลากลงพื้น จากนั้นสิงโตอีก 3-4 ตัว เข้ามารุมกัดซ้ำ ขณะเกิดเหตุนักท่องเที่ยวจำนวนมาก พยายามช่วยด้วยการบีบแตร และส่งเสียงตะโกน แต่ไม่สามารถไล่สิงโตออกไปได้ เหตุการณ์กินเวลาประมาณ 15 นาที

ต่อมา เวลา 14.50 น. พ.ต.อ.นิรุชพล พร้อมด้วยนายยุทธนา พิทักษ์ทา ผู้จัดการปาร์คโซนซาฟารี แถลงยืนยันว่า ผู้เสียชีวิตทำงานมากว่า 30 ปี ตำแหน่ง Supervisor ดูแลสัตว์ดุร้าย มีหน้าที่ขับรถควบคุมสัตว์ไม่ให้เข้าใกล้ถนนของนักท่องเที่ยว โดยเบื้องต้นยังไม่พบจดหมาย หรือเอกสารใดๆ ที่บ่งชี้ถึงสาเหตุการลงจากรถ แต่ในที่เกิดเหตุพบรองเท้าเปื้อนเลือดกระจัดกระจายอยู่

นายยุทธนา ระบุว่า ปกติในโซนดังกล่าวมีสิงโต 5 ตัว จากทั้งหมด 32 ตัว ทุกตัวมีใบอนุญาตถูกต้อง การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จะต้องมีคู่บัดดี้ 2 คน ขับรถกันคนละคัน แต่จังหวะเกิดเหตุคู่บัดดี้ของผู้เสียชีวิต ไปทำธุระในอีกจุดหนึ่งพอดี ทำให้ผู้เสียชีวิตอยู่เพียงลำพัง

จากการตรวจสอบประวัติ นายเจียน อายุ 58 ปี อีกเพียง 2 ปี จะเกษียณอายุการทำงาน ลักษณะนิสัยใจเย็น ไม่เคยมีประวัติการละเมิดกฎ หรือถูกร้องเรียน ส่วนสุขภาพจิตยังไม่ทราบแน่ชัด อย่างไรก็ตาม กฎของซาฟารีมีมากกว่า 23 ข้อ โดยห้ามเจ้าหน้าที่ลงจากรถโดยเด็ดขาด หลังเกิดเหตุสวนสัตว์ได้ปิดโซนดังกล่าวชั่วคราว และนำสิงโตทั้งหมดกลับเข้ากรง พร้อมยืนยันมีมาตรการดูแลนักท่องเที่ยวเข้มงวดเกิน 300% และย้ำว่าตลอด 40 ปีของการเปิดดำเนินการไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน.

012