ทหารช่วยชาวบ้านที่ จ.ชัยนาท วางแนวกระสอบทรายกั้นน้ำหลังจากพบหลายพื้นที่เสี่ยงจมบาดาล กระทบนับ 100 หลังคาเรือน ส่วน จ.อ่างทอง น้ำท่วมขยายวงกว้างกระทบ 4 อำเภอ 753 ครัวเรือน โดยน้ำเจ้าพระยา ไหลผ่าน จ.อ่างทอง เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 14กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ลุ่มภาคกลาง โดยพบว่าน้ำเหนือที่ไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่จุดวัดน้ำC2หน้าค่ายจิรประวัติ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ วัดได้ 2,259 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนยกตัวขึ้น10 เซนติเมตร ใน24ชั่วโมง วัดได้17.30ม.รทก.(เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง)
ทั้งนี้ เขื่อนเจ้าพระยา ได้คงอัตราการระบายน้ำลงท้ายเขื่อน2,000ลบ.ม./วินาที เป็นวันที่3 แต่อาจมีการปรับเพิ่มการระบายขึ้นไปที่ 2,100ลบ.ม./วินาที ในช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ เพื่อให้สอดรับกับปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น และสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำ รองรับมวลน้ำจากตอนบนของประเทศจากฝนตกหนักระหว่างวันที่14-19กันยายน และลดผลกระทบกับพื้นที่ท้ายเขื่อน โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำที่กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมสูง โดยระดับน้ำท้ายเขื่อนทรงตัวในรอบ24 ชั่วโมง วัดได้ 14.68ม.รทก.
อย่างไรก็ตาม กรมชลประทานยังคงย้ำเตือน11จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ จ.อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกทม.ให้เฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จะยกตัวขึ้นในระยะนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำในคลองโผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง คลองบางบาล อ.บางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งริมตลิ่งแม่น้ำน้อย ขอให้เฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำที่จะยกตัวขึ้น โดยคาดว่าระดับน้ำจะสูงขึ้น10-20 เซนติเมตร ใน 24 ชั่วโมง บ้านเรือนริมตลิ่งควรยกของขึ้นที่สูงให้พ้นน้ำ
สำหรับผลการตรึงอัตราการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนยกตัวขึ้น จนเกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชน ในพื้นที่เหนือเขื่อนของ ต.ธรรมามูล อ.เมือง จ.ชัยนาท ส่วนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ ระดับน้ำสูง10-50 เซนติเมตร มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมแล้วรวม25หลังคาเรือนใน4หมู่บ้าน โดยผู้นำชุมชนได้พาลูกบ้านออกมาร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารจาก จ.ลพบุรี กรอกกระสอบทรายนำไปวางเรียงสร้างคันกั้นน้ำเสริมจากคันดินที่มีอยู่ ระยะทาง100 เมตร เพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ซึ่งเหลืออยู่ประมาณกว่า60หลังคาเรือน
นายสมใจ เชื้ออภัย กำนัน ต.ธรรมามูลกล่าวว่า จากระดับน้ำปัจจุบันต่ำกว่าระดับคันดินประมาณ50 เซนติเมตร แต่ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มขึ้นวันละ10-15 เซนติเมตร คาดว่าถ้าเขื่อนเจ้าพระยาไม่ปรับเพิ่มการระบายขึ้นไปคาดว่าไม่เกิน3วัน น้ำจะล้นคันดินเข้าท่วมบ้านเรือนอีก60หลังที่เหลือรวมแล้วจะถูกน้ำท่วมนับ100หลังคาเรือน
ส่วนที่ จ.อ่างทอง ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม ว่าได้ขยายวงกว้างชาวบ้านได้รับผลกระทบแล้ว753 ครัวเรือน 4 อำเภอ 18 ตำบล 50 หมู่บ้าน โดยที่ อ.ไชโย อ.วิเศษชัยชาญ อ.ป่าโมก และ อ.เมือง หลังจากเขื่อนเจ้าพระยาระบายลงสู่ท้ายเขื่อน 2,000 ลบ.ม./วินาที เพื่อรองรับสถานการณ์น้ำจากภาคเหนือที่พายุฝนฝนกระหน่ำ ทำให้น้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นและเอ่อล้นไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ น้ำจากคลองโผงเผง สาขาแม่น้ำเจ้าพระยา ได้เอ่อล้นข้ามถนนคอนกรีตเสริมเหล็กภายในหมู่ 4 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก ขยายวงกว้างทำให้มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง ส่วนบริเวณคันดินกั้นน้ำริมคลองโผงเผงบริเวณหมู่ 5 ต.โผงเผง ชาวบ้านและหน่วยงานราชการได้เสริมกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำไหลทะลักเข้าหมู่บ้าน ซึ่งบริเวณคันดินดังกล่าวน้ำสูงขึ้นใกล้จุดวิกฤตแล้ว ชาวบ้านเตรียมพร้อมรับมือ
ด้านสถานการณ์น้ำเจ้าพระยายังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไหลผ่านสถานีโทรมาตร C7A หน้าศาลากลาง จ.อ่างทอง ระดับน้ำสูง 8.03 เมตร จุดวิกฤตอยู่ที่ 8 เมตร จากระดับตลิ่งที่มีเขื่อนกั้นน้ำ 10 เมตร ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,059 ลบ.ม./วินาที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี