‘ดร.แก้ว’พาครอบครัวอุ้มลูกน้อย ตามคดีถูกรถตู้ชน ผ่านไป 5 เดือนไม่คืบ

‘ดร.แก้ว’พาครอบครัวอุ้มลูกน้อย ตามคดีถูกรถตู้ชน ผ่านไป 5 เดือนไม่คืบ

วันจันทร์ ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2568, 14.26 น.

‘ดร.แก้ว’พาครอบครัวอุ้มลูกน้อย ตามคดีถูกรถตู้ชน ผ่านไป 5 เดือนไม่คืบ

15 กันยายน 2568 ที่ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ “ดร.แก้ว” ผู้ก่อตั้งเพจ “ดร.แก้วช่วยได้” พร้อมด้วยทนายความ พานายนนทกาน อายุ 21 ปี และ น.ส.นวิยา อายุ 18 ปี สองสามีภรรยา พร้อมลูกน้อยวัย 8 เดือน และแม่ยาย เข้าพบ ร.ต.อ.นิพนธ์ พลสวัสดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางบัวทอง เพื่อติดตามความคืบหน้า คดีอุบัติเหตุรถตู้โดยสารสาธารณะ ชนท้ายรถจักรยานยนต์ บริเวณแยกไฟแดงโรงเรียนวัดลาดปลาดุก ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง เมื่อที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา


สืบเนื่องจาก นายนนทกาน ขี่รถจักรยานยนต์ (จยย.) พาภรรยาและลูกชายวัยเพียง 6 เดือน เพื่อไปส่งของ ระหว่างทางถูกรถตู้โดยสารสาธารณะ ขับพุ่งชนท้ายทำให้ภรรยา และลูกน้อยกระเด็นตกจากรถได้รับบาดเจ็บ ศีรษะมีเลือดไหลจำนวนมาก เข้ารักษาตัวที่ รพ.บางบัวทอง คู่กรณีอ้างว่ารอประกันมาเคลียร์และไม่ลงมาดูอาการผู้บาดเจ็บ แถมยังขู่แจ้งความกลับทำร้ายร่ายกาย เนื่องจาก นายนนทกาน บันดาลโทสะต่อยหน้าไป 1 ครั้ง

หลังเกิดเหตุครอบครัวผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง รอการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่จนถึงปัจจุบันผ่านมาเกือบ 5 เดือน คดีไร้ความคืบหน้า แม้ในวันนี้ตำรวจได้นัดคู่กรณีมาพบเพื่อสอบปากคำ แต่ปรากฏว่าคู่กรณีไม่เดินทางมา ขณะที่พนักงานสอบสวนยังไม่เคยสอบปากคำผู้เสียหาย รวมถึงไม่ดำเนินการขอใบความเห็นแพทย์ ที่ยืนยันบาดแผลการรักษาของเด็กจาก รพ.ถือเป็นพยานหลักฐานสำคัญในคดี

น.ส.นวิยา ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุเมื่อลูกชายตกลงไปบนถนน เลือดไหลเต็มหน้าผากแต่คู่กรณีไม่ลงมาดู ไม่แม้แต่ถามอาการ ตอนรักษาตนนอนเฝ้าลูกใน รพ.เป็นเวลา 3 คืน 4 วัน คู่กรณีไม่เคยเข้ามาเยี่ยม ไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ ทุกวันนี้รู้สึกเสียใจที่พาลูกออกไปเจอเหตุการณ์เลวร้าย และยิ่งเสียใจกว่าไปกว่านั้นคือคดีไม่คืบหน้า ทั้งที่เป็นคดีอุบัติเหตุควรมีความชัดเจน

ดร.แก้ว เปิดเผยว่า วันนี้ตนพาผู้เสียหายและทนายความมาติดตามความคืบหน้า แต่กลับไม่ได้รับการชี้แจงใดๆ จากพนักงานสอบสวน ทั้งในเรื่องการสอบปากคำ และเอกสารหลักฐานสำคัญอย่างใบความเห็นแพทย์ จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ไปเอามา ผู้เป็นแม่ต้องไปสอบถามที่ รพ.เอง แต่กลับถูกปฏิเสธว่าเป็นความลับทางราชการ ทั้งที่ควรเป็นหน้าที่ของตำรวจในการจัดการ เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความล่าช้า และการเพิกเฉยของเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้ครอบครัวผู้เสียหายเดือดร้อน และไม่ได้รับความเป็นธรรม

นอกจากนี้ ตนได้ติดตามไปที่ทำงานของคนขับรถตู้คู่กรณี ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.บางบัวทอง แต่ไม่พบตัว โดยผู้ดูแลพื้นที่แจ้งว่าเจ้าตัวไม่ได้มาทำงานหลังเกิดเหตุ และรับปากว่าจะช่วยติดต่อเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย เพราะหากรอเพียงการดำเนินการของพนักงานสอบสวนเรื่องอาจล่าช้าไปอีก

ครอบครัวผู้เสียหายยืนยันว่า สิ่งที่เรียกร้องไม่ใช่เงินจำนวนมากมาย แต่ขอให้คู่กรณีแสดงความรับผิดชอบ ในฐานะคนที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะเด็กเล็กได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่กลับถูกละเลยทอดทิ้ง อีกทั้งพนักงานสอบสวนดำเนินการอย่างล่าช้า จนคดียืดเยื้อมานานเกือบ 5 เดือน โดยไร้ความคืบหน้า

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top