ซิ่งกระบะขนต่างด้าว! หลบหนีจับกุมกลางดึก หวิดพุ่งชนรถตำรวจ

ซิ่งกระบะขนต่างด้าว! หลบหนีจับกุมกลางดึก หวิดพุ่งชนรถตำรวจ

วันอังคาร ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568, 08.28 น.

ขบวนการขนแรงงานเถื่อนซิ่งกระบะ 4 ประตู หลบหนีการจับกุมกลางดึก หวิดพุ่งชน จนท.ค้นเก๋ง-กระบะ 3 คันพบซุกแรงงานอัดแน่นเป็นปลากระป๋อง 53 คน คนขับกระโดดขึ้นกระบะ 2 หนีเข้าป่า 1

15 กันยายน 2568 เวลา 22.10 น.นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาเข้ามาในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิเป็นจำนวนมาก ด้วยการใช้รถยนต์ลำเลียงหลายคัน หลังจากได้รับแจ้งจึงรายให้ นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และนายฑรัท เหลืองสอาด ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี ทราบ จากนั้นจึงมอบหมายให้นายยงยุทธ แสวงสุข ปลัดอำเภอทองผาภูมิ นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอทองผาภูมิ ออกตรวจตราลาดตะเวนไปตามถนนสาย 323 ทองผาภูมิ-สังขละบุรี


จนกระทั่งพบรถยนต์ จำนวน 4 คัน ดับไฟหน้าหลังจอดอยู่ที่ลาดจอดรถของวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านอู่ล่อง หมู่ 4 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่สังเกตพบลักษณะคล้ายมีกลุ่มบุคคลกำลังทยอยขึ้นไปอยู่บนรถ เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบ ระหว่างเจ้าหน้าที่ขับรถยนต์เข้าไปตรวจสอบ ปรากฏว่า 1 ใน 4 เป็นรถยนต์กระบะ 4 ประตู ไม่ทราบยี่ห้อขับสวนทางออกมาจากลาดจอดรถอย่างรวดเร็ว เกือบจะพุ่งชนรถยนต์ของเจ้าหน้าที่

โดยพบคนขับรถยนต์ 3 คันที่จอดอยู่ด้านใน กระโดดขึ้นรถยนต์คันดังกล่าวหลบหนีไปด้วย 2 คน และคนขับอีก 1 คน ได้อาศัยความมืดวิ่งข้ามถนนหลบหนีเข้าไปในป่า เจ้าหน้าที่ได้พยายามไล่ติดตามแต่ไม่ทัน ขณะเดียวกันรถยนต์กระบะ 4 ประตู ได้ปิดไฟขับหลบหนีไปทางด้านอำเภอเมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่จึงสื่อสารทางวิทยุให้เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ ตชด.135 และ อส.อ.ทองผาภูมิ ประจำจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ ช่วยกันสกัดจับ แต่สุดท้ายรถยนต์คันดังกล่าวได้ขับรถหายไปก่อนที่จะถึงจุดตรวจ เจ้าหน้าที่ได้พยายามติดตามหา แต่ไม่พบเนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวเป็นเวลากลางคืนทำให้ยากต่อการติดตาม

สำหรับรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้บริเวณลานจอดรถของวัด ประกอบไปด้วย 1.รถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น vios สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียนกรุงเทพมหานคร พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา นั่งแออัดอยู่ภายใน จำนวน 10 ราย เป็นชาย 3 ราย หญิง 7 ราย 2.รถยนต์กระบะติดแครี่บอย ยี่ห้อมิสซูบิชิ ไทรทันแคป สีดำ หมายเลขทะเบียนกาญจนบุรี พบแรงงานชาวเมียนมา จำนวน 24 ราย เป็นชาย 16 ราย หญิง 8 ราย และรถยนต์แวนยี่ห้อโตโยต้า วิส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียนกรุงเทพมหานคร พบแรงงานทั้งหมด จำนวน 19 ราย เป็นชาย 12 ราย หญิง 7 ราย รวม 53 ราย ซึ่ง 1 ใน 53 ราย มีเด็กอายุ 2 ขวบ ที่พ่อแม่นำพาหลบหนีมาด้วย จำนวน 1 ราย

จากการตรวจสอบปรากฏว่ากลุ่มแรงงานไม่มีเอกสารการได้รับอนุญาตให้เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทย มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ แต่แรงงานบางรายสามารถสื่อสารภาษาไทยได้ พร้อมกับให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า พวกตนมาจากหลายเมืองของประเทศเมียนมา โดยเดินทางมารวมตัวกันที่อำเภอพญาตองซู จากนั้นมีผู้ชำนาญเส้นทางซึ่งเป็นชาวเมียนมาด้วยกันนำพาเดินลัดเลาะหลบหนีข้ามชายแดนเข้ามาในประเทศไทยบริเวณช่องทางบ้านบ่อญี่ปุ่น ต่อมาไปลงเรือแล้วมาขึ้นฝั่งในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี เช่นกัน เมื่อขึ้นฝั่งมาได้จึงได้ทยอยกันขึ้นไปหลบซ่อนตัวอยู่บนรถยนต์ที่มารอรับ ทั้ง 4 คัน และจำนำพาไปส่งที่จุดพักคอยในเขตอำเภอเมืองกาญจนบุรี เมื่อไปถึงจะมีคนนำรถมารับอีกทอดหนึ่งเพื่อนำพาเดินทางไปทำงานพื้นที่จังหวัดชั้นใน เมื่อแต่ละคนไปถึงสถานที่ทำงานในแต่ละจังหวัดจะต้องจ่ายค่าเดินทางให้กับนายหน้าคนละ 15,000-20,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางของแต่ละคน

หลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ดำเนินคดี ในข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่วนรถยนต์ทั้ง 3 คัน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดเอาไว้เป็นของกลางและจะได้ตรวจสอบทะเบียนเพื่อติดตามตัวผู้ครอบครองรถยนต์ทั้ง 3 คัน มาสอบปากคำในภายหลัง.

012

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top