16 กันยายน 2568 จากกรณีกลางดึกคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ทองผาภูมิ และเจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 135 อ.ทองผาภูมิ ไล่ล่าจับกุบขบวนการขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย ได้เป็นจำนวนมาก ยึดรถยนต์กระบะ และรถยนต์เก๋ง ที่ใช้เป็นพาหนะได้ จำนวน 3 คัน

โดยนายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ปริญญา ใคร่ครวญ ผกก.สภ.ทองผาภูมิ นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผบ.ร.29/ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รอง ผบ.ร.29/รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ พ.ต.อ.กรณ์ สมคะเณย์ ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.มานิต นาโควงศ์ ผกก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า)ได้รับรายงานว่าขบวนการดังกล่าวได้ลักลอบนำพาแรงงานดังกล่าวเข้ามาอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงทุกฝ่ายในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิบูรณาการร่วมกันติดตามจับกุมตัวผู้กระทำผิด พรบ.คนต่างด้าว มาดำเนินคดีให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

และสั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงพื้นที่อำเภอสังขละบุรี ซึ่งเป็นชายแดนพื้นที่ต้นทาง ให้เคร่งครัดในการออกตรวจตราการลักลอบข้ามชายแดนเข้ามาบริเวณช่องทางธรรมชาติซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 บ้างซองกาเรีย หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ที่ติดกับอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมาให้เข้มข้นขึ้นเป็น 2 เท่า

หลังจากเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ ไล่จับกุมแรงงานต่างด้าวชายหญิง ได้ 53 คน ยึดรถยนต์เอาไว้เป็นของกลาง จำนวน 3 คัน ระหว่างนำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่นำโดยนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ ก็ได้รับแจ้งว่ามีรถยนต์ตู้จำนวน 3 คัน ขนแรงงานต่างด้าวเป็นจำนวนมาก เข้ามาในเขตพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ เพื่อมุ่งหน้าไปจังหวัดชั้นใน หลังจากรับแจ้งจึงนายวัลลภ จินดา ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอทองผาภูมิที่ 9 ออกติดตามรถตู้ทั้ง 3 คัน

จนกระทั่งพบขับตามกันมาจากทางด้านอำเภอสังขละบุรี มุ่งหน้าไปยังอำเภอเมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น แต่เมื่อคนขับรถตู้ทั้ง 3 คันเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้เร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ได้ขับติดตามไปอย่างกระชั้นชิด จนกระทั่งไปถึงหน้าวัดท่าขนุน หมู่ 1 ต.ท่าขนุน คนขับรถตู้ 2 คัน ได้เลี้ยวหลบหนีเข้าไปในป่าไร่สวนของชาวบ้าน อีก 1 คันรถเกิดเสียอยู่ริมถนน คนขับได้ทิ้งรถวิ่งหลบหนีการจับกุมไปได้ ภายในรถพบแรงงานต่างด้าวนั่งแออัดอยู่เต็มคัน

ซึ่งกำลังเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งได้ติดตามรถตู้ที่หลบหนีเข้าไปในป่า และสามารถจับกุมตัวคนขับเอาไว้ได้ ส่วนกลุ่มแรงงานที่โดยสรมาด้วย ได้วิ่งหลบหนีไปคนละทิศละทาง โดยทิ้งกระเป๋าเอาไว้ตามทาง แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็สามารถปิดล้อมจับกุมเอาไว้ได้ จากนั้นจึงนำตัวกลุ่มแรงทั้งหมดมารวมกันเพื่อคัดแยกและตรวจนับ พบมีจำนวนทั้งหมด 113 คน เป็นชาย 73 คน หญิง 38 คน และผู้ติดตาม(เด็ก) 2 คน

สำหรับคนขับรถตู้ที่เจ้าหน้าที่จับกุมตัวเอาไว้ได้ จำนวน 2 คน ประกอบด้วยนายสุธี อายุ 48 ปี ชาว ต.กระจาย  อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร และ นายสุรชัย อายุ 40 ชาว ต.กุดยาลวน อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ตรวจยึดรถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียนกรุงเทพ รถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน พระนครศรีอยุธยา และ รถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ลพบุรี รวม 3 คัน

กลุ่มแรงงานให้การในเบื้องต้นว่า พวกตนหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เพื่อต้องการเดินทางไปทำงานพื้นที่จังหวัดชั้นใน โดยจ่ายค่าเดินทางให้กับนายหน้าคนละ 15,000-20,000 บาท ระหว่างเดินทางก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน หลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่วนนายสุธี และนายสุรชัย ผู้ต้องหาที่เป็นชาวไทย ถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหา กระทำความผิดฐาน “ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น ด้วยประการใดๆ เพื่อให้บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมายพ้นจากการจับกุม” 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้แรงงานชาวเมียนมาเริ่มทะลักข้ามชายแดนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจร่วมสะพานรันตี หมู่ 1 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ได้จับกุมแรงงานทั้งชายหญิงขณะหลบซ่อนตัวอยู่ภายในป่าได้ จำนวน 14 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้ต้องหา