เริ่มวันนี้!‘ผบ.ตร.’ยันเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ภายในครึ่งวัน

เริ่มวันนี้!‘ผบ.ตร.’ยันเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ภายในครึ่งวัน

วันอังคาร ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568, 13.26 น.

‘ผบ.ตร.’ยืนยันประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ภายในครึ่งวัน เริ่มวันนี้วันแรก หวั่นมิจฉาชีพอาศัยโอกาสหาช่องทางหลอกประชาชนมากขึ้น โต้กระแสตำรวจเรียกรับเงินแลกปลดล็อกบัญชี

16 กันยายน 2568 ที่ชั้น 20 ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เรียกประชุมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยว เพื่อช่วยเหลือหรือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน กรณีมีประชาชนได้รับผลกระทบ จากการอายัดบัญชีหรือระงับธุรกรรม ทางการเงินที่เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีผ่านวิดีโอคอลเฟอเรนซ์


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เบื้องต้นให้ใช้คำว่าระงับบัญชีเฉพาะก้อนเงินที่พบความเกี่ยวข้องกับบัญชีผู้กระทำผิด ไม่ใช่การอายัดทั้งบัญชี แต่เป็นการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยว จากนั้นก็จะให้ผู้บริสุทธิ์ยืนยันหรือแสดงตัวใน 4 ประการ 1.ชื่อนามสกุล 2.เลขบัตรประชาชน 3.เลขบัญชีธนาคาร และ 4.ธนาคารที่เจ้าของบัญชีใช้ หากยืนยันและตรวจสอบพบว่าไม่มีความเกี่ยวข้อง ก็จะปลดล็อกให้ภายในครึ่งวัน โดยจะเริ่มวันนี้เป็นวันแรก ซึ่งขั้นตอนเมื่อผู้เสียหายอยู่ในพื้นที่ใดก็ตาม สามารถแจ้งเหตุในพื้นที่นั้นๆได้ทันที ซึ่งไม่ใช่การผลักภาระให้กับประชาชน เป็นเพียงแค่การยืนยันตัวตนเพื่อความบริสุทธิ์กับทุกฝ่าย

“กระบวนการทั้งหมดพนักงานสอบสวนจะเร่งรัดประสานกับศูนย์ PCT ก่อนรวบรวมส่งไปให้ทาง AOC ที่เป็นศูนย์ใหญ่จัดการกับเรื่องนี้ โดยยึดการบริหารงานที่ตำรวจเคยมีประสบการณ์ในคดีใหญ่ๆมาแล้ว ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะต้องรวดเร็วที่สุด และมาตรการนี้สามารถลดภาระให้กับ AOC ที่คู่สายปัจจุบันมีไม่เพียงพอต่อการรองรับกับผู้เสียหาย โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมีการกำชับไปที่ 191 และ 1559 ให้ช่วยรองรับในการแก้ปัญหาให้กับผู้เสียหายที่เกิดขึ้นในขณะนี้” ผบ.ตร. กล่าว

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า กระบวนการนี้ ยอมรับว่ามีการเรียกร้องจากพนักงานสอบสวนทั่วประเทศ ในเรื่องของภาระสำนวนที่มากขึ้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นการบริหารภายในองค์กร ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องเร่งแก้ปัญหา โดยเฉพาะพนักงานสอบสวนที่ต้องพบกับอาชญากรรมรูปแบบที่เปลี่ยนไป ดังนั้นการบริหารจะต้องเปลี่ยนตามหรือเพิ่มจำนวนพนักงานสอบสวนให้มากขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว

“ส่วนที่กระแสสังคมเรียกร้องว่ากระบวนการดังกล่าว จะทำให้มิจฉาชีพใช้โอกาสนี้ในการฟอกตัวหรือสร้างปัญหาให้กับประชาชนในหลายรูปแบบนั้น ตำรวจก็จะนำมาตรการเหล่านี้เข้ามาควบคุมเพื่อปิดกั้นไม่ให้เกิดช่องว่างสำหรับมิจฉาชีพ ซึ่งจากการคัดกรอง 2 วันที่ผ่านมา พบว่ามีการแจ้งความประมาณ 1,300 คู่สาย ตรวจสอบยืนยันความบริสุทธิ์ได้ 300 สาย ยืนยันไม่ได้ 1,000 สาย และจัดการปลดล็อคแล้ว 30 ราย” ผบ.ตร. กล่าว

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าตำรวจเรียกรับผลประโยชน์ในการปลดล็อกบัญชีกับผู้เสียหาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า หากมีหลักฐานให้ส่งข้อมูลมาให้ แล้วจะตรวจสอบว่าการเสียเงินนั้นเป็นไปตามกฎหมายหรือตามข้อบังคับหรือไม่ แต่หากไม่มีกฎหมายรองรับก็จะดำเนินการอย่างไม่ละเว้น

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top