ตำรวจชุดสืบสวนบุรีรัมย์บุกรวบเจ้าของร้านคาราโอเกะหญิงวัย 45 ปี หลังสืบสวนพบเป็นผู้บงการค้ามนุษย์เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เจ้าตัวให้การปฏิเสธทั้งน้ำตา อ้างไม่รู้เรื่องที่เด็กในร้านแอบขายบริการ ด้านตำรวจไม่ปักใจเชื่อ ตั้งข้อหาหนัก 5 ข้อหา

เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ได้นำหมายศาลเข้าจับกุม น.ส.อ้อย (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี เจ้าของร้านคาราโอเกะ “ต้อนอ้อย” ในเขตเทศบาลตำบลพุทไธสง ฐานกระทำการค้ามนุษย์ โดยการค้าประเวณีเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี

การจับกุมครั้งนี้เป็นผลจากการขยายผลคดีที่ตำรวจล่อซื้อและจับกุมเด็กขายบริการอายุต่ำกว่า 15 ปีได้ 3 คนก่อนหน้านี้ จากการสืบสวนพบว่าร้านคาราโอเกะของ น.ส.อ้อยเป็นสถานที่นัดหมาย และเจ้าของร้านจะได้ส่วนแบ่ง 200-300 บาทต่อครั้ง ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของ พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ที่เชื่อว่าเด็กไม่สามารถหาลูกค้าเองได้

ขณะสอบปากคำ น.ส.อ้อยให้การทั้งน้ำตาว่าเคยเปิดร้านคาราโอเกะมานานกว่า 14 ปี ก่อนจะหันไปขายอาหารเคลื่อนที่ แต่เนื่องจากรายได้น้อยจึงกลับมาเปิดร้านเดิมอีกครั้ง โดยยืนยันว่าไม่รู้ไม่เห็นว่าเด็กที่มาเที่ยวที่ร้านจะแอบไปขายบริการที่ไหน และปฏิเสธว่าไม่ได้รับส่วนแบ่งใดๆ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีหลักฐานบ่งชี้ชัดเจนว่า น.ส.อ้อยมีส่วนรู้เห็นเป็นใจ และได้ตั้งข้อหาดำเนินคดีถึง 5 ข้อหา อาทิ กระทำการค้ามนุษย์โดยแสวงหาผลประโยชน์จากการค้าประเวณีเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และ เป็นธุระจัดหาเพื่อการอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมีโทษรุนแรง

พ.ต.อ.ชูสิทธิ์ หล่อแสง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ฝากเตือนไปยังผู้ประกอบการสถานบริการให้ระมัดระวังการกระทำดังกล่าว เพราะไม่ว่าจะได้รับผลประโยชน์ในรูปแบบใด ก็จะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด